หากจะพูดถึง “การตลาด” ในปัจจุบันต้องบอกว่าค่อนข้างซับซ้อนในหลายแง่ทั้งผู้บริโภคและการแข่งขัน P4 ของปรมาจารย์ ฟิลลิป คอตเลอร์ คงยังไม่พอ จึงทำให้เกิด P ต่างๆอีกมากมาย โดยเฉพาะ P-People ที่เป็นฟันเฟืองเล็กๆแต่สำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนองค์กรให้แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จ และจะกุมใจหัวคนที่เข้ามาเป็นพนักงานได้อย่างไรในยุคที่ Turnover สูงมาก
JTI Thailand (Japan Tabacco International Thailand) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายบุหรี่รายใหญ่ของโลก จึงให้ความสำคัญกับคน (พนักงาน) โดยทุ่มเทให้กับการ “สร้างคน” ไม่แพ้การลงทุนด้านธุรกิจ โดยยึดคุณค่าหลักคือ Enterprising กล้าคิดกล้าทำสิ่งใหม่ๆ Open ส่งเสริมให้มีการสื่อสารกันอย่างเปิดเผย ให้ความสำคัญกับฟีดแบ็ก และ Challenging ท้าทายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น จึงทำให้ภาพลักษณ์ของ JTI Thailand เป็นองค์กรที่สะท้อนความInnovative, Agile และจนทำให้ JTI Thailand คว้ารางวัล Top Employer Thailand 2018 และ Top Employer Asia Pacific 2018 โดยได้คะแนนสูงสุดถึง 97% และมีเพียง 9 บริษัทในประเทศไทยเท่านั้นที่ได้รับรางวัลนี้
ความสำเร็จล่าสุดครั้งนี้เกิดจาการบริหารและพัฒนาบุคลากร ภายใต้การนำของ ณัฏฐณิชา วรวรรณเศรษฐ์ (ลัคกี้) Human Resources Director แห่ง JTI Thailand
สร้างแบรนด์ในใจพนักงาน
คุณลัคกี้ เล่าว่า ได้เข้ามารับตำแหน่ง HR Director ที่ JTI Thailand เมื่อสองปีที่แล้ว เธอมีประสบการณ์การทำงานด้าน HR มาแล้วกว่ายี่สิบปีในบริษัทนานาชาติขนาดใหญ่มากมายก่อนที่จะมาร่วมงานกับ JTI Thailand ซึ่งขณะนั้น JTI Thailand ยังเป็นบริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงานราว 100 คน ทว่าแม้จะมีพนักงานไม่มากที่ต้องดูแล คุณลัคกี้ กลับพบว่า เธอต้องปรับปรุงและวางรากฐานโครงสร้างและระบบของ HR ทุกด้าน ด้วยการสร้างพื้นฐาน ด้านบุคลากรที่เข้มแข็งและสร้าง Employer Branding ให้ JTI Thailand เป็นที่รู้จัก จนกระทั่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมีพนักงานเกือบ 600 คนในปัจจุบัน
“Employer Branding เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการที่เราจะได้คนเก่งๆ เข้ามาทำงานกับเรา พวกเขาต้อง รู้จักบริษัทว่าเราทำอะไร มีอะไรน่าดึงดูดใจให้เขามาทำงานกับเราบ้างเราเข้าร่วม Job Fair กับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศเราได้รับเชิญเป็น guest speaker เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์กับนักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไป”
“JTI Thailand ให้ความสำคัญและลงทุนกับพนักงานในทุกๆ ด้านตลอดเวลาดังนั้นเรามี Employee Value Proposition (EVP) หรือประสบการณ์ในการทำงานและแผนการสร้างคุณค่าให้แก่พนักงานที่ได้เปรียบมากกว่าหลายๆ บริษัทในตลาด นอกจากจะสร้างความเชื่อมั่นให้พนักงานของ JTI Thailand พึงพอใจแล้ว เรายังเน้นการสร้าง การมีส่วนร่วมของพนักงานภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง จนนำมาสู่ความสำเร็จขององค์กรร่วมกันอย่างในทุกวันนี้”
สร้าง “คุณค่า” ให้พนักงานแบบไม่เหมือนใคร
เนื่องจาก JTI Thailand ให้ความสำคัญกับ “คน” เป็นอันดับหนึ่ง และต้องการสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับพนักงาน ดังนั้น สิ่งที่พนักงานได้รับจากองค์กร จึงมีหลากหลาย รูปแบบ ทั้งค่าตอบแทน โบนัส สวัสดิการ การฝึกอบรม การสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพทั้งในประเทศ/ต่างประเทศ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน และรวมไปถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีม
“เราต้องการสร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการส่งออกพนักงานคนไทยไปทำงานที่ประเทศอื่นๆ ทั้งระยะสั้น (Short-term assignment) ประมาณ 6-12 เดือน และระยะยาว (Long-term assignment) ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พนักงานเหล่านี้จะได้ย้ายหมุนเวียนไปประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ EVP ที่เราให้พนักงาน และเรามั่นใจว่า มีไม่กี่บริษัทในประเทศไทยที่สามารถให้โอกาสแบบนี้ได้เพราะเป็นการลงทุนที่สูงมาก นอกจากนี้ เรายังมี Flexi Benefits ซึ่งเป็นการออกแบบโปรแกรมสวัสดิการในแบบที่พนักงานต้องการจริงๆ โดยเราตั้งงบประมาณไว้ก้อนหนึ่งให้กับพนักงานทุกคน แล้วพนักงานสามารถที่จะนำไปใช้ในสิ่งที่พนักงานรู้สึกว่าตรงใจ ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส การทำกายภาพบำบัดการนวดบำบัด การตัดแว่นหรือคอนแทคเลนส์ ทั้งนี้เพราะเรา ใส่ใจในสุขภาพของพนักงานอย่างแท้จริง และเราเชื่อว่าพนักงานที่มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพให้กับบริษัท ซึ่งเหล่านี้เป็นการสร้างความผูกพันกับองค์กรในระยะยาว”
“นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมพิเศษที่ JTI Thailand ภูมิใจและคิดว่าแตกต่างจากที่อื่นๆ ในเรื่องการพัฒนา และสร้างคนคือ Management Trainee Program ซึ่งเราเรียกว่า Explore Program เราเปิดโอกาสให้พนักงานรุ่นใหม่ที่มีอายุงานไม่เกิน 2 ปี รักการผจญภัยและความท้าทาย เข้ามาร่วมงานกับเรา โดย Explore Program จะมี ระยะเวลา 24 เดือน โดยคุณจะได้ไปทำงานและใช้ชีวิตในต่างประเทศถึง 3 ประเทศ ครั้งละ 8 เดือน ซึ่งเรามั่นใจว่า เป็นโปรแกรมที่ไม่มีใครเหมือน เพราะเป็นการลงทุนที่สูงมากประมาณเกือบ 10 ล้านบาทใน 2 ปี เราจึงเปิดรับแค่ปีละ 1 คนเท่านั้น”
ปั้น พนักงาน สู่ ผู้บริหาร
ปัจจุบัน JTI มีสำนักงานกว่า 75 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานราว 30,000 คน การส่งพนักงานหมุนเวียน ไปทำงานยังประเทศต่างๆ ถือเป็นการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ซึ่งในประเทศไทยเองนั้นมีพนักงานต่างชาติทำงาน อยู่กับเราถึง 30 คน วิสัยทัศน์ของคุณลัคกี้คือต้องการให้ JTI Thailand เป็น Regional Hub เอเชียแปซิฟิกที่ส่ง พนักงานไทย ไปทำงานที่ JTI ในภูมิภาคอื่นๆ บ้าง ด้วยการ
1. สร้าง localization เราวางเป้าหมายพัฒนาบุคลากรของเราซึ่งเป็นพนักงานคนไทยให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารในประเทศไทยให้มากที่สุด
2. นอกจากนี้ เราต้องการที่จะส่งออกพนักงานคนไทยของเราไปทำงานในประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในเอเชียแปซิฟิกหรือยุโรป เราเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ซึ่งหวังว่าอีกไม่นานเราจะมีผู้บริหารคนไทยไปโลดแล่นในภูมิภาคอื่นๆ มากขึ้น
ก้าวสู่ Top Employer
ด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องทำให้ JTI Thailand ได้รับรางวัล Top Employer Thailand 2018 และ Top Employer Asia Pacific 2018 จาก Top Employer Institute ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ
“กว่าที่เราจะได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เราได้ถูกประเมินและตรวจสอบด้าน HR ถึงประมาณ 700 ข้อ ภายใต้ 9 หัวข้อหลัก ในเรื่อง Talent Strategy, Workforce Planning, Onboarding, Learning & Development, Performance Management, Leadership Development, Career and Succession Management, Culture, Compensation and Benefits โดยองค์กร Top Employer Institute ใช้เวลาในการประเมินถึง 8 เดือน และเมื่อผลลัพธ์ออกมาว่า JTI Thailand ได้คะแนนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงนับได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของ ผู้บริหารและพนักงาน JTI Thailand ทุกคน”
“ใน 2 ปีที่ผ่านมา เรารู้สึกภูมิใจว่าเราสามารถ transform บริษัทจากบริษัทเล็กๆ ที่อาจจะยัง ไม่มีชื่อเสียงมากนัก ณ ตอนนั้น ให้เติบโตขึ้นมาเทียบเท่ากับบริษัทระดับชั้นนำในประเทศไทยได้ จนมีคนจำนวนมากอยากเข้ามา ทำงานกับบริษัทเรา ซึ่งพนักงานของเราเป็น Brand Ambassador ที่แท้จริงที่ได้ชักชวนให้เพื่อนๆ มาทำงานกับเรา เพราะพวกเขามีความสุขกับองค์กร ซึ่งทำให้เราลดงบประมาณในการทำ recruitment เป็นอย่างมาก เราดีใจที่ พนักงานภูมิใจในการเป็นพนักงานของ JTI Thailand และมีส่วนร่วม มีความผูกพันกับองค์กร และอยากทำงาน อยู่กับเราไปนานๆ นั่นคือสิ่งที่เป็นรางวัลในการทำงานที่ดีที่สุดของเรา”
องค์กรแห่งคน กล้า และ (ชอบ) ท้าทาย
คุณลัคกี้กล่าวว่า JTI Thailand เป็น Fun Fearless Organization ดังนั้นคนที่ อยากจะมาร่วมงานกับเรา ต้องเป็นคนที่พร้อมรับความท้าทาย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าทำ
“เราเป็นองค์กรที่ young ทีมผู้บริหารทุกคนอายุยังน้อย และเต็มไปด้วย passion ดังนั้น เราอยากได้คนที่ เต็มไปด้วยพลัง มีความคิดใหม่ๆ กล้าที่จะท้าทายสิ่งเดิมๆ และไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง เวลาเราคัดเลือกคน เราจะดูก่อนว่าเขาเข้ากับวัฒนธรรม องค์กรได้หรือเปล่า เสร็จแล้วเราค่อยมาดูว่า คุณสมบัติของเขาเหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่”
คุณลัคกี้เชื่อมั่นว่าประสบการณ์การทำงานในทุกๆ ด้านที่ JTI Thailand มอบให้พนักงานนั้นแตกต่างและยืดหยุ่น จะตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่ และทำให้พวกเขาอยากมาร่วมงานกับ JTI Thailand ซึ่งเป็นองค์กรของคนรุ่นใหม่และให้ความสำคัญกับคนจริงๆ
“เรามีสัญญา 3 อย่างให้กับพนักงานของเรา คือ 1. Long-term Career Success 2. Care and Respect 3. Investing in Our People นั่นคือสัญญาที่พนักงานจะได้จากเรา”
“value ของเราคือเรา Enterprising เรากล้าคิดกล้าทำสิ่งใหม่ๆ เรา Open เราสื่อสารอย่าง เปิดเผย กับพนักงาน เรารับฟังฟีดแบ็ก เราทำ employee survey แบบสำรวจความคิดเห็นพนักงาน และเรา act on ตัวฟีดแบ็กเหล่านั้นจริงๆ อันที่สามคือ Challenging คนที่เข้ามาต้อง challenge status quo เสมอ เราไม่พอใจกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นทำยังไงให้มันดีขึ้น โลกพัฒนาไปเร็วมาก เรากำลังจะมีหุ่นยนต์มาแทนที่เราอยู่แล้วในทุกๆ อย่างรวมถึงแม้กระทั่งงาน HR ด้วยถ้าเป็นไปได้ ดังนั้นถ้า HR เอง องค์กรเองไม่มีการ evolve ไม่มีการปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น เราก็คงจะไม่สามารถอยู่ได้ แต่พี่มั่นใจว่า JTI agile และ dynamic เพียงพอที่จะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง โลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้ นั่นคือความเชื่อมั่นของพี่อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ”