[Adverotial]
ฮอนด้า สร้างมิติใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ประเทศไทยด้วยการเปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี ยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหารถสปอร์ตอเนกประสงค์ทางเลือกใหม่ในตลาดรถยนต์เมืองไทย และนับตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว เส้นทางความเป็นผู้นำของฮอนด้าก็เริ่มออกสตาร์ทนับตั้งแต่นั้น และนี่คือ 10 ปัจจัยที่ทำให้ ฮอนด้า เอชอาร์–วี เป็นเจ้าตลาดครอสโอเวอร์ ระดับคอมแพ็คเซ็กเมนต์
1. ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคทำให้รถอเนกประสงค์เป็นที่นิยมมากขึ้น จากเดิมที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก รถซีดานจึงได้รับความนิยม ต่อมาการเดินทางที่ง่ายขึ้น และสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่คนรุ่นใหม่ให้คุณค่ามากกว่าเดิม ช่องว่างระหว่างรถซีดานกับเอสยูวี จึงถูกเติมเต็มด้วยครอสโอเวอร์ไซส์เล็กลงมาหน่อย แต่พอถึงเวลาลุยก็บุกไปได้ด้วยสมรรถนะที่เพียงพอกับความรู้สึกไปไหนไปกัน สมชื่อรถอเนกประสงค์
2. เปิดตัวสู่ตลาดเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นภายใช้ชื่อ ฮอนด้า วีเซล ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ของโลกที่เปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ผลิตและเริ่มจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้
3. ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงกว่า 62,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยปี 2557 ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 80% ในตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์ระดับคอมแพคท์เซ็กเมนต์ หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 29% ในตลาดรถยนต์เอสยูวีโดยรวมในปี 2560
4. แบรนด์ฮอนด้าครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของประเทศไทย 3 ปีซ้อน นับตั้งแต่ปี 2558-2560 โดยมียอดจำหน่ายรวมในปี 2560 ที่ 127,768 คัน เพิ่มขึ้น 19% จากปี 2559
5. ฮอนด้า เอชอาร์-วี ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิดสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์รถคูเป้ และฟังก์ชั่นการใช้งานแบบอเนกประสงค์สไตล์รถมินิแวน รถคันนี้จึงเหมาะที่จะเป็นทั้งรถสำหรับขับขี่ 1-2 คน มีความเท่ในตัวเอง และยังเหมาะกับการเป็นรถสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ที่นั่งสบายและขนของได้เยอะตอบทุกไลฟ์สไตล์
6. ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น ปราดเปรียว เสริมความรู้สึกแข็งแกร่ง ด้วยตัวถังด้านล่าง มาพร้อมเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวรอบคัน นอกจากนี้ ยังมีหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ที่คนรุ่นใหม่หรือครอบครัวที่กำลังมีเด็กๆ ต้องชอบฟังก์ชั่นนี้แน่ๆ เพราะจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ในการเดินทาง
7. อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เทียบเท่ารถยนต์ในราคาเท่าๆ กัน ไม่น้อยหน้าคนอื่นแน่นอน เช่น เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) แถมยังมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ และเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่สามารถปรับพับได้หลายรูปแบบ จึงสามารถบรรทุกของขนาดใหญ่ได้สบาย
8. ขับเคลื่อนดั่งใจด้วยสมรรถนะอันทรงพลังและประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม และรองรับพลังงานทางเลือก E85 อีกด้วย นี่สิถึงตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้จริง
9. จัดเต็มอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับพรีเมียม เช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่ออกแบบนี้ให้ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ ระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเทียบเท่ารถยุโรป ที่ทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังเหยียบเบรกให้หยุดนิ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
10. ได้รับการันตีคุณภาพด้วยรางวัลจากสถาบันชั้นนำ ได้แก่ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประเภทเอสยูวี เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,800 ซีซี (Best SUV under 1,800 CC) ถึง 3 ปีติดต่อกัน (2558-2560) จากเวที Car of the Year ทั้งยังได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวของ ASEAN NCAP (ASEAN New Car Assessment Program) และรางวัล iCar Asia People’s Choice Awards – Car of The Year 2017 : Crossover of The Year ซึ่งเป็นผลโหวตจากผู้บริโภค
จุดเด่นสำคัญที่สุดของ ฮอนด้า เอชอาร์-วี คือ การออกแบบภายในห้องโดยสาร ที่เน้นความกว้างขวางสะดวกสบาย ในสไตล์รถอเนกประสงค์ พร้อมพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ถ้าได้ไปสัมผัสตัวจริงที่โชว์รูม รับรองว่าต้องประทับใจรถครอสโอเวอร์รุ่นนี้แน่นอน ด้วยความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยทั้งเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันและการเดินทางร่วมกันของคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่รู้ใจนี่เอง ที่ทำให้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นพาหนะคู่ใจของหลายๆ คน ในการเดินทางที่ใกล้-ไกลก็ได้รับความไว้วางใจและเลือกให้อยู่เคียงข้างคนที่เรารักเสมอมา
