[Advertorial]
ในฐานะ Developer หรือผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หากคุณโชคดีได้ครอบครองที่ดินแปลงใหญ่บนทำเลศักยภาพสูงอย่างถนนสุขุมวิทก็ไม่ต่างจากการได้เพชรเม็ดงามมาอยู่ในมือ คุณคงไม่รีรอที่จะหาวิธีนำเพชรเม็ดนี้มาเจียระไนเพิ่มความงดงามให้ยิ่งเปล่งประกาย เพื่อที่จะสามารถสร้างคุณค่าให้กับผู้เป็นเจ้าของได้มากที่สุด
แต่คำว่า “คุณค่า” ในมุมมองของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป บางคนอาจจะมองในเชิงธุรกิจ มองผลตอบแทนที่จะกลับสู่ผู้เป็นเจ้าของในรูปแบบตัวเงินที่จะได้รับคืนกลับมา ขณะที่บางคนอาจมองในมุมกลับ คำว่า “คุณค่า” อาจมีความหมายถึง “ความสุข” ที่เกิดจากการเป็นผู้ให้ จากการช่วยยกระดับประสบการณ์ด้านการอยู่อาศัยของผู้คนในปัจจุบันให้ได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น หรือความสุขจากการแบ่งปันไปยังผู้คนและสังคมโดยรอบ ให้มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันจากสิ่งล้ำค่าที่เรามีอยู่ได้อย่างเท่าเทียมกัน
นำเทรนด์ด้วยต้นแบบแห่งการ Share Value
โครงการ WHIZDOM 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนในการให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการโดยมีเป้าหมายใหญ่คือ การช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับสังคมและผู้คน ซึ่งไม่เพียงแค่ผู้คนที่อยู่อาศัยอยู่ภายในโครงการเท่านั้น แต่ยังส่งต่อมาสู่สังคมที่อยู่โดยรอบอีกด้วย
เพราะด้วยทำเลของ WHIZDOM 101 ต้องถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่สามารถสร้างให้เกิดความคุ้มค่าจากการลงทุนได้สูงมาก เนื่องจากเป็นที่ดินแปลงใหญ่บนถนนสุขุมวิท ด้วยขนาดพื้นที่ 43 ไร่ หรือพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 350,000 ตารางเมตร และยังอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและตอบโจทย์การเดินทางในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี
จึงไม่ใช่เรื่องยากหากจะพัฒนาทุกตารางนิ้วภายในโครงการให้ผลิดอกออกผลทางธุรกิจ และเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ WHIZDOM 101 ทำคือ เลือกที่จะจัดสรรพื้นที่ราว 14 ไร่ หรือกว่า 35% ภายในโครงการ ให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อให้ทุกๆ คนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เพื่อสร้างให้มีพื้นที่สำหรับเติมเต็มประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ ตามวิถีและรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมเมืองอย่างกรุงเทพฯ ได้อย่างครบถ้วน
WHIZDOM 101 จึงเป็นหนึ่งในโครงการที่ MQDC หรือบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีความภาคภูมิใจในฐานะโครงการต้นแบบที่พัฒนาขึ้นด้วย นวัตกรรมการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน (Sustainnovation) ภายใต้แนวคิด Creating Shared Value ซึ่งเป็นความเฉพาะตัวที่ทำให้เกิดความแตกต่างจากโครงการทั่วๆ ไป และสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้า (Consumer Insight) อย่างแท้จริง เพราะนอกจากการให้ความสำคัญกับเรื่องของบ้าน ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงานแล้ว สถานที่สำหรับการใช้ชีวิต หรือ Third Place ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนในสังคมปัจจุบันให้ความสำคัญไม่ต่างกัน และเริ่มที่จะเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในวิถีชีวิตของคนเมืองที่มักจะเคร่งเครียดกับการทำงาน และมักอาศัยอยู่ในคอนโดหรือที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางมากนัก
เมื่อ Third Place คือพื้นที่เพิ่มคุณภาพชีวิต
ความเข้าใจเทรนด์ในการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ประกอบกับการทำงานอยู่บนพื้นฐานข้อมูลและการให้ความสำคัญกับการทำรีเสิร์ชอย่างลงลึกของ MQDC นำมาซึ่งความเข้าใจและค้นพบ Unmet Need หรือความต้องการที่อยู่ในระดับลึกของผู้บริโภค ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในการตอบสนองความต้องการให้แก่ผู้บริโภคในแบบที่แตกต่างไปจากวิถีเดิมๆ
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ WHIZDOM 101 สามารถพัฒนาโครงการที่ฉีกออกไปจากกรอบเดิมๆ ได้ เพราะในโลกยุคปัจจุบันเพียงแค่การสร้างบ้านให้มีคุณภาพพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่เพียงพอที่จะตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้อีกต่อไป โดยเฉพาะสังคมเมืองที่แวดล้อมไปด้วยความเร่งรีบและการแข่งขัน ทำให้ผู้คนโหยหาถึงคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า รวมทั้งต้องการสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในยามที่ต้องถอดบทบาทจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือวางภาระจากหน้าที่การงานที่ต้องแบกรับออกไป
การมองหาพื้นที่สาธารณะ หรือ Third Place เพื่อเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อน นั่งชิล นัดพบแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ จึงเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่เรามักจะทำกันอยู่เป็นประจำ แต่จะมีสักกี่สถานที่ที่สามารถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่มีความแตกต่างได้อย่างครบครันภายในที่เดียว เพราะตามปกติเมื่อนึกอยากไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ก็จะต้องนัดพบกันที่หนึ่ง อยากไปหาร้านนั่งชิลๆ ก็จะต้องไปที่หนึ่ง อยากไปสัมผัสบรรยากาศสีเขียวแบบธรรมชาติก็ต้องไปอีกที่ หรือบางครั้งอาจจะต้องออกไปไกลจนถึงต่างจังหวัดเลยก็มี
การออกแบบ Third Place ในพื้นที่โครงการ จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งโจทย์ใหม่ที่มีความสำคัญ ซึ่งผู้พัฒนาพื้นที่หรือเจ้าของโครงการต่างๆ ต้องหันมาให้ความสนใจ เพราะเป็นเครื่องสะท้อนคุณภาพชีวิตที่ดีของคนที่อยู่ในโครงการหรือในพื้นที่ใกล้เคียงได้ โดยเฉพาะในสังคมเมืองที่มีความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและแตกต่างกันอย่างมาก คนแต่ละกลุ่มก็จะมองหาสิ่งที่สามารถเติมเต็มประสบการณ์และความต้องการตามแบบฉบับของตัวเอง ขณะที่การออกแบบพื้นที่ Third Place ของ WHIZDOM 101 นั้น มีความโดดเด่นที่สามารถตอบโจทย์สำคัญๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเมืองให้ความสำคัญ อาทิ เรื่องของความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต มีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร และยังสามารถตอบโจทย์ Unmet Need ของผู้บริโภคได้ด้วย
One Stop สำหรับทุกไลฟ์สไตล์
สำหรับ WHIZDOM 101 นั้น ต้องถือว่ามีความพร้อมในการเติมเต็มสิ่งที่ผู้บริโภคมองหาเพื่อเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับการเป็น Third Place เพื่อชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง ทั้งในแง่ของผู้ที่กำลังมองหาวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ หรืออยากซึมซับธรรมชาติสีเขียว โดยที่ไม่ต้องเดินทางออกไปต่างจังหวัดไกลๆ แต่สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาถึงได้ในไม่กี่นาที เพราะพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร ในไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ ได้จัดสรรไว้เป็นพื้นที่สีเขียวในบรรยากาศที่แตกต่าง เพราะสวนลอยฟ้าที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนสนามหญ้ากว้างๆ ในต่างประเทศเลยทีเดียว
สำหรับสายแฮงค์เอ้าท์ที่ต้องการหาที่พบปะเพื่อนฝูงหรือปาร์ตี้ ภายในโครงการยังมีส่วนของ Innovative Lifestyle Complex ที่รวบรวมร้านค้าไว้ถึง 200 ร้านค้า โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีทั้งแบบ Fine Dining, Quick Meal และ Grab&Go หรือจะเป็นร้านกาแฟชิคๆ คูลๆ พร้อมพื้นที่สำหรับคนที่อยากหาพื้นที่สร้างไอเดีย หรือแรงบันดาลใจใหม่ๆ ก็มีให้เลือกเช่นกัน
ส่วนสายรักสุขภาพก็มีสปอร์ตคลับ ฟิตเนส หรือจะเลือกวิ่งจ็อกกิ้งหรือขี่จักรยาน บนเส้นทางลอยฟ้า Whizdom Track ที่ยาว 1.3 กิโลเมตร รอบๆ โครงการ รวมทั้งสระว่ายน้ำในรูปแบบ Outdoor เพื่อปลดล็อกและปล่อยวางจากภารกิจต่างๆ ที่ต้องแบกรับมาตลอดทั้งวันได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงการรองรับไลฟ์สไตล์ในระหว่างวันเท่านั้น เพราะ WHIZDOM 101 ยังไม่ลืมกลุ่มที่ชื่นชอบชีวิตแบบ Night Life ด้วยโซน 24-Hour Street ที่เปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างให้เป็น Sleepless Community พื้นที่สำหรับคนนอนดึก ไม่ว่าจะมานั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ หากาแฟดื่ม หรือหาเพื่อนคุยแก้เหงา จากหลากหลายร้านค้าที่เปิดให้บริการอยู่ในโซนนี้ เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศให้มีความคึกคัก และเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัย ด้วยการอยู่เป็นเพื่อนเพื่อคอยดูแลผู้ที่ต้องใช้เส้นทางนี้ในยามค่ำคืนอีกด้วย
เป้าหมายสำคัญในการพัฒนา WHIZDOM 101 คือการผลักดันให้โครงการนี้กลายเป็น Third Place ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการให้กับทุกๆ ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมเมือง เป็น Destination ในการเข้ามาใช้ชีวิตของผู้คนทั่วกรุงเทพฯ และยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาโครงการที่ให้ความสำคัญในการตอบโจทย์สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนก็ตาม
ขณะเดียวกันยังสามารถเป็นต้นแบบของการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตบนพื้นฐานของความรับผิดชอบหรือการตอบแทนสังคม ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับผู้คนไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในโครงการหรือไม่ก็ตาม ตลอดจนการสร้างระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ที่เอื้อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งความสามารถในการส่งต่อแนวคิดเหล่านี้ไปยังภาคส่วนต่างๆ เพื่อเพิ่มแนวร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลสังคมโดยรอบต่อไป
สำหรับน้องๆนักศึกษา และผู้ที่สนใจในการทำหนังสั้น โอกาสมาถึงแล้ว กับโครงการประกวดหนังสั้น My Third Place Short Film Contest โดย WHIZDOM 101 ลุ้นโอกาสเป็นผู้กำกับหนังสั้นร่วมกับทีมงานมืออาชีพ พร้อมร่วมทริปดูงานที่ญี่ปุ่น รวมมูลค่าสูงสุดกว่า 500,000 บาท ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.whizdom101bangkok.com