จากการที่ประเทศไทยมีสภาพอากาศค่อนข้างร้อน ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างหาวิธีดับร้อน ด้วยการเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หรือไม่ก็เข้าห้างค้าปลีก เพื่อหาสินค้าและบริการเย็นๆมาดับร้อน เพราะหากอยู่บ้านเปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวันคงต้องจ่ายค่าไฟต่อเดือนไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน เนื่องจากสภาพอากาศภายนอกจะมีความร้อนเป็นพิเศษ ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักและใช้ไฟฟ้าค่อนข้างสูง
ปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ (Beger) ได้พัฒนานวัตกรรมสีทาอาคารใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน
ด้วยการเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค จึงมีสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบัน สีเบเยอร์ กลายเป็น “ผู้นำนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” ภายใต้แนวคิด “Eco-Wellness Innovation” คำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้งานเป็นหลัก
จากพันธกิจการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันกลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ มีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ด้วยกัน 5 กลุ่ม คือ สีทาอาคาร , ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ , เคมีก่อสร้าง , สีอุตสาหกรรม และสีพิเศษ ได้แก่ สีสร้างลาย และสีทอง
สำหรับกลุ่มสินค้าที่น่าจะเป็นพระเอกสำหรับการทำตลาดในหน้าร้อนนี้น่าจะหนีไม่พ้น สีทาอาคาร ภายใต้แบรนด์ เบเยอร์คูล (BegerCool) นวัตกรรมสีบ้านเย็น ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากการตระหนักถึงภาวะโลกร้อนและ urban heat island ที่เป็นปัญหาหลักของโลกปัจจุบัน
จุดเด่นของสินค้าตัวนี้ คือ การนำนวัตกรรมไมโครสเฟียร์เซรามิก ซึ่งเป็นนวัตกรรมระดับโลกที่นาซ่า ใช้ เคลือบผิวกระสวยอวกาศ เพื่อต้านความร้อนจากการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศขณะปล่อยตัวและกลับมายังพื้นโลก ที่มีความร้อนสูงถึง 1,600 องศาเซลเซียส นอกจากกระสวยอวกาศยังมี ชุดผจญเพลิง ท่อไอเสียและเบรครถฟอร์มูล่าวัน เป็นต้น ไมโครสเฟียร์เซรามิก (Microspheres Ceramic) สามารถสกัดกั้นความร้อนและป้องกันไฟลุกลามได้อย่างดี จึงนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องต้านทานความร้อน
และเพื่อตอกย้ำแบรนด์ของ สีเบเยอร์คูล ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ปีนี้จึงได้มีการใช้กลยุทธ์ Music marketing มาช่วยในการทำตลาดเพื่อสร้าง Brand Awareness และ Brand Reminding
เป็นครั้งแรกในวงการสีทาอาคารที่มีการใช้ Music Marketing มาสร้างสีสันให้ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง สีเบเยอร์แหวกแนวการทำการตลาดแบบเดิมๆ โดยการส่ง MV ของศิลปินวง 4 เต่าคูล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสีเบเยอร์คูล มาเป็นผู้สื่อสารคุณสมบัติสินค้าผ่านเสียงเพลง แถมยังมี Dancer สาวๆ มาเพิ่มสีสัน ให้ MV น่าสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนเนื้อหาของเพลง สีเบเยอร์คูล ยังได้มีการตอกย้ำ Market Positioning ในด้านของการเป็นสีทาบ้านเย็น เพื่อต่อสู้กับสภาพอากาศที่ร้อนได้แบบ คูล คูล ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวจะช่วยให้ผู้บริโภคที่ใช้สีเบเยอร์คูลประหยัดค่าไฟเมื่อต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเวลานานๆ เหมือนกับเนื้อเพลงที่ว่า “พี่อยากคูล น้องอยากคูล บ้านอยากคูล ทาสีเบเยอร์”
และเพื่อตอกย้ำแบรนด์พร้อมกับคุณสมบัติของสินค้า ในเนื้อเพลงจึงได้มีการเน้นประโยค “เบเยอร์คูล” และคำว่า “คูล” เป็นระยะ เพื่อให้แบรนด์และคุณสมบัติของสินค้าเป็นที่จดจำ และก่อนที่จะจบเพลงยังได้มีการปิดท้ายด้วยคำว่า “จะร้อนไปไหน ไปซื้อสีเบเยอร์คูล” เพื่อชักชวนให้ผู้บริโภคหันมาใช้สีเบเยอร์คูล
จากทำนองและเนื้อหาของเพลงที่ฟังง่ายมีความสนุกสนาน การสร้าง Brand Awareness ของสีเบเยอร์คูล ในครั้งนี้น่าประสบความสำเร็จแบบ คูล คูล อย่างแน่นอน