นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาด ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แนวถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9 เป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง พื้นที่บริเวณโดยรอบเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ทุกปี ซึ่งแต่ละโครงการได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี และที่สำคัญโครงการที่เปิดขายใหม่ในทำเลนี้จะมีราคาขายขยับเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นที่ยอมรับกันว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม มีส่วนในการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแนวถนนรัชดาภิเษก-พระราม 9 สามารถเดินทางเข้าออกได้หลายเส้นทาง รถไฟใต้ดินที่ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง การไปทำงานนอกเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิสะดวกสบายด้วยแอร์พอร์ตลิงค์ อีกทั้งยังเป็นจุดศูนย์กลางสามารถเชื่อมต่อทางด่วนหลายเส้นทาง
นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วย ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษาชั้นนำ นับเป็นเขตศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ หรือ New CBD (New Central Business District) แนวโน้มอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยศักยภาพของพื้นที่ มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้น มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาที่ดินบริเวณนี้เพิ่มขึ้นไม่ต่างจากย่านสุขุมวิท, สีลม อีกทั้งยังมีที่ดินที่นักลงทุนเข้ามาจับจองและพัฒนาโครงการอยู่อีกหลายแปลง โดยคาดหวังว่าพื้นที่บริเวณนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางเขตธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ จากการมีพื้นที่ของอาคารสำนักงานหลายแห่ง อีกทั้งแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอีกด้วย
ทาง ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) เปิดตัวโครงการ อาร์ติซาน รัชดา สมาร์ทไลฟ์ดีไซน์คอนโดแบบครบวงจร บนพื้นที่ 8.2 ไร่ มูลค่าโครงการมากกว่า 6,000 ล้านบาท บนทำเล NEW CBD ย่านรัชดา-พระราม 9 ภายใต้คอนเซปต์ Mixed-Use อสังหาริมทรัพย์ที่ผสมผสานระหว่างห้องพักเพื่อการอยู่อาศัย และพื้นที่ Lifestyle Shop และ Business Center พร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางกว่า 6,000 ตารางเมตร เริ่มต้นคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่า ระบบสาธารณูปโภคครบครัน ด้วยระบบเทคโนโลยีทันสมัย ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้บริโภคคนไทยที่ต้องการซื้อเพื่อเป็นที่พักอาศัย หรือเพื่อการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากราคาย่านนี้มีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“อสังหาฯไทยได้พัฒนาไปสู่จุดที่ทำให้เห็นว่า Commercial Space มีประโยชน์กับที่อยู่อาศัย ซึ่งคำว่า Mixed-use คือความสะดวกสบายที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันได้ จึงเกิดเป็น โครงการ อาร์ติซาน รัชดา สมาร์ทไลฟ์ดีไซน์คอนโดครบวงจรศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ซึ่งจากโครงการ อาร์ติซาน รัชดา ทำให้ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) สร้างจุดยืน 2 ข้อ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีความหลากหลาย คือ ความเป็น Smart Intelligence Living ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ไม่เคยใช้มาก่อนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย มาปรับใช้และนำเสนอเป็นนวัตกรรมใหม่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการยึดหลัก Humanize Design ในการจัดสัดส่วนของห้องให้น่าอยู่และเหมาะสมที่สุด โดยเน้นให้พื้นที่ห้องสามารถรับแสงธรรมชาติได้”
ทางบริษัทฯ ได้จัดงาน ” Artisan Grand Opening ” (อาร์ติซาน แกรนด์ โอเพนนิ่ง) เพื่อเปิดตัวโครงการ อาร์ติซาน รัชดา ซึ่งได้รับผลตอบรับจากเอเจ้นท์อสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง และบุคคลในวงการให้เกียรติเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เพื่อรับทราบข้อมูลในมิติใหม่สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย และเพื่อการลงทุนแห่งอนาคต โดยภายในโครงการ อาร์ติซาน รัชดา จะได้สัมผัสความเป็น Be The Maker of Your Life ชีวิตที่ทุกคนสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองตลอดงาน พร้อมด้วยบรรยากาศแกลลอรี่จำลองการอยู่อาศัยจริง และ showcase เทคโนโลยีการก่อสร้าง “Artisan Experience Hall” ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดชมห้องตัวอย่าง มาตรฐานการก่อสร้างระดับโลก ลงตัวในทุกฟังก์ชัน โดยมีพื้นที่ใช้สอยขนาด 28 ตารางเมตร ถึง 78 ตารางเมตร ซึ่งล่าสุดการก่อสร้างโครงการฯ คืบหน้าไปแล้วประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่มีทั้งหมด 4 อาคารสูง 1,337 ยูนิต และพื้นที่ Lifestyle Shop และ Business Center คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2563 นี้
ด้านนายเฑียร จึงวิรุฬโชตินันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดแห่งประเทศไทย ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า จุดแข็งของไรส์แลนด์ คือในเรื่องของการมีองค์ความรู้ที่มีอยู่ มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินงาน มีความพร้อมในทุกๆด้าน และคุ้นเคยกับตลาดเอเชีย จึงสามารถนำมาปรับใช้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการเป็น International Thai Company เป็นการผสมผสานปรับตัวและพัฒนา เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับองค์กรต่างชาติที่เข้ามาทำตลาดในพื้นที่ใหม่ และจะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยาวยาวให้กับองค์กรได้เป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุที่มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเป็นอันดับแรก เนื่องจากมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคงและมีคุณภาพ ตลาดการเงินไทยมีการไหลเวียนอยู่ในสภาพคล่องที่ดีอีกทั้งประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ และมีบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาสู่ตลาดอาเซียน จึงเป็นโอกาสในการเข้ามาลงทุน โดยมีเป้าหมายมองหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเหมาะสมมากที่สุด เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกันในระยะยาว
หากถามถึงความแตกต่างระหว่างตลาดคอนโดไทยกับฮ่องกง ทั้ง 2 ประเทศมีจุดที่ใกล้เคียงกัน คือ เป็นตลาดที่ดึงดูดสำหรับนักลงทุน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ฮ่องกง คอนโดมีราคาสูง ในขณะที่ไทย คอนโดกลับมีราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงผู้บริโภคในฮ่องกงมีความพิถีพิถันในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ และนวัตกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงก็แอดวานซ์เป็นอย่างมาก แต่ในไทยอยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็เป็นอีกจุดสำคัญที่ทำให้ไรส์แลนด์ มองว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในไทยยังเติบโตได้อีกมาก ตั้งเป้าพัฒนามากกว่า 10 โครงการต่อปี ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ รวมถึงโครงการมิกซ์ยูส ปัจจุบันไรส์แลนด์ได้เปิดตัวไปทั้งหมด 2 โครงการ เป็นโครงการแนวราบ “เลคซีรีน” (Lake Serene) บ้านเดี่ยวระดับกลาง-พรีเมี่ยม บนทำเลพระราม 2 และโครงการล่าสุดอาร์ติซาน รัชดา สมาร์ทไลฟ์ดีไซน์คอนโดแบบครบวงจร นายเฑียร กล่าวเสริม