หลังใช้งบ 62 ล้านบาท ปรับปรุงร้านแฟลกชิพสโตร์ให้เป็นต้นแบบของ New Concept Store เพื่อสะท้อนภาพ Innovative and Creative Store ให้เด่นชัดและตอบโจทย์ Customer Experience ในปัจจุบันได้มากที่สุด ทั้งการตกแต่งร้านและจัด Display สินค้าภายในร้านให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคปัจจุบัน รวมทั้งการเพิ่ม Digital Experience ภายในร้าน เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในการช้อปปิ้ง และเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างโอกาสจากการขายใหม่ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ล่าสุดได้ฤกษ์เปิดตัวโฉมใหม่ของ New Concept Store สาขาแรก ซูเปอร์สปอร์ต สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ อย่างเป็นทางการ พร้อมแผนในการนำคอนเซ็ปต์ที่ใช้ในสาขานี้ไปพัฒนาแฟลกชิพสโตร์แห่งอื่นๆ โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในพื้นที่ Key City รวมทั้งสาขาใหม่ๆ ที่จะขยายเพิ่มจากนี้ให้เป็นคอนเซ็ปต์เดียวกันนี้
เมื่อ Shopping Journey ลูกค้าเปลี่ยน
คุณอัจฉรา ซุ่นโลกประเสิรฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารสินค้า บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต ผู้บริหารร้านซูเปอร์สปอร์ต ให้ข้อมูลว่า ซูเปอร์สปอร์ตคอนเซ็ปต์ใหม่นี้พัฒนาขึ้นตามข้อมูลที่ได้จากการสำรวจความต้องการและพฤติกรรมการช้อปปิ้ง รวมทั้งการเข้ามาใช้บริการภายในร้านซูเปอร์สปอร์ต เพื่อให้ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกและสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบัน ที่มักจะตรงไปยังกลุ่มสินค้าที่ตัวเองมีความสนใจเป็นหลัก และชอบที่จะเปรียบเทียบสินค้าประเภทเดียวกันกับหลายๆ แบรนด์ นำมาสู่การปรับ Display ใหม่ของซูเปอร์สปอร์ต ที่จะแยกการจัดวางสินค้าตามกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งแยกตามหมวดหมู่สินค้าแต่ละประเภทอย่างชัดเจน
“ซูเปอร์สปอร์ตโฉมใหม่จะแบ่งโซนสินค้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิงอย่างชัดเจน โดยสินค้าของผู้หญิงจะอยู่ในโซนสีชมพูทางด้านซ้ายของร้าน ส่วนของผู้ชายจะเป็นโซนสีฟ้าทางด้านขวามือ และในแต่ละโซนจะแยกหมวดหมู่สินค้าตาม Category สินค้าแต่ละประเภท เช่น Run, Golf, Exercise หรือบางหมวดที่อาจจะมีอยู่แค่โซนเดียว เช่น สินค้าในกลุ่มฟุตบอลที่จะอยู่ในโซนผู้ชาย โดยในแต่ละหมวดก็จะรวบรวมสินค้าประเภทเดียวกันจากหลายๆ แบรนด์มาไว้ด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าเปรียบเทียบกันได้ตามต้องการทั้งรูปแบบ ดีไซน์ หรือราคา จากที่ก่อนหน้านี้เคยจัดสินค้าในแบบ Shop in Shop ที่เน้นพรีเซ็นต์ผ่านความเป็นแบรนด์แต่ละแบรนด์ และจะรวบรวมสินค้าทุกๆ อย่างภายใต้แบรนด์เดียวกันมาไว้ด้วยกัน ซึ่งยังไม่ตอบโจทย์ประสบการณ์ในการช้อปปิ้งของลูกค้าได้มากนัก”
การปรับ Display ใหม่นี้ ทางซูเปอร์สปอร์ตเชื่อว่าจะเอื้ออำนวยให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะทั้งการปรับปรุงร้าน ดีไซน์ หรือตกแต่งทำตามความคิดเห็นของลูกค้าที่มีการสำรวจมา โดยเฉพาะการรวบรวมสินค้าประเภทเดียวกันจากหลายๆ แบรนด์มาอยู่ด้วยกัน เพื่อสะดวกแก่การเปรียบเทียบและตัดสินใจซื้อ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธรรมชาติของลูกค้า ประกอบกับ Customer Journey สำคัญของลูกค้าปัจจุบันคือ การหาข้อมูลสินค้าที่สนใจมาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาในร้าน ทำให้ส่วนใหญ่จะมีสินค้าที่ต้องการมาแล้ว เมื่อเข้ามาก็สามารถมาหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น จึงเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีและความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
เติม Digital Experience ลดโอกาสสูญเสียการขาย
นอกจากการจัดวางสินค้ารูปแบบใหม่แล้ว ยังเพิ่ม Digital Element ภายในร้านเพื่อสร้าง Engagement กับลูกค้าในแต่ละโซนได้มากขึ้น รวมทั้งเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละคน อาทิ Run Lab, Golf Lab, Interactive Wall, Shopping Online, Personalization Zone ซึ่งเป็นการสร้างความต่างและย้ำฐานะผู้นำใน Sport Retail Store ของซูเปอร์สปอร์ตได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกันยังเป็นสาขาที่รองรับการให้บริการ Click & Collect โดยเป็นจุดสำหรับรับสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อออนไลน์มาก่อน และสามารถเปลี่ยนไซส์ใหม่ในร้านได้ หากทดลองสินค้าที่ซื้อไว้แล้วใส่ไม่ได้ หรือในกรณีที่มาซื้อในร้านแล้วไม่มีเบอร์หรือสีที่ต้องการ ก็สามารถสั่งซื้อจากจอดิจิทัลที่อยู่ภายในร้านเพื่อสั่งสินค้าไว้ก่อนแล้วค่อยมารับสินค้าในโอกาสต่อไป เพื่อป้องกันการเสียโอกาสในการขาย และตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการในรูปแบบ Omnichannel
“การเติมเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาในร้านจะช่วยเสริมทั้งประสบการณ์ในการช้อปปิ้ง รวมทั้งช่วยเป็นอีกหนึ่งช่องทางขายด้วย เช่น ช่วยวิเคราะห์ช้อมูลและแนะนำสินค้าที่เหมาะกับสรีระหรือลักษณะการใช้งานของลูกค้าแต่ละคนพร้อมแนะนำสินค้าที่เหมาะสม อย่างในโซน Run Lab ลูกค้าสามารถมาทดสอบการวิ่งเพื่อดูลักษณะเท้า ลักษณะการวิ่ง การรับน้ำหนักในการวิ่ง เสร็จแล้วระบบจะแนะนำแบรนด์และรุ่นรองเท้าที่เหมาะสมให้เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ ขณะที่รายได้จากทุกๆ ช่องทางผ่านระบบออนไลน์ในปีนี้จะอยู่ที่ 300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 5%”
5 ปัจจัยบวกดันตลาด Sport Retail เติบโต
ซูเปอร์สปอร์ตเผยยอดขายในไตรมาสแรกที่ผ่านมาถือว่าเติบโตได้ดี โดยโตขึ้นกว่า 15% จึงเชื่อว่าจะสิ้นปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 15% เช่นเดียวกัน เนื่องจากปัจจัยบวกที่จะมาผลักดันการเติบโตในปีนี้ อาทิ
1. การเติบโตได้ดีของสินค้าในกลุ่มแฟชั่น ที่เด่นในเรื่องของสีสันและการตัดเย็บ เช่น กลุ่มรองเท้าและเสื้อผ้า จากอิทธิพลของเหล่า Influencer ที่แบรนด์ต่างๆ เลือกใช้ ซึ่งมีคนติดตามและชื่นชอบ ทำให้มีการซื้อสินค้าแบบเดียว หรือแบรนด์เดียวกับที่คนเหล่านี้เป็นพรีเซ็นเตร์
2. แฟชั่นและดีไซน์ของเสื้อผ้าและรองท้าที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น ทำให้สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใส่เพื่อเล่นกีฬาอย่างเดียว และมีส่วนช่วยผลักดันให้ตลาดขยายตัว
“ปัจจัยที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ตลาดเติบโตอย่างเห็นได้ชัดคือ การพัฒนาในเรื่องของดีไซน์และแฟชั่น รวมทั้งการมี Influencer มาเป็นต้นแบบทั้งในเรื่องของการเลานกีฬาและการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีกว่านี้ ที่จะเห็นการเติบโตของตลาดอย่างชัดเจน จากที่ก่อนหน้านี้ตลาดจะโตได้เพียงหลักเดียวเฉลี่ยประมาณ 5-7% แต่ช่วงที่เริ่มมีเรื่องของแฟชั่นเข้ามาช่วยทำให้ตลาดสามารถโตได้มากกว่า 10% โดยเฉพาะในหมวดสินค้าที่เป็นกลุ่มแฟชั่นโดยตรงที่เน้นสีสันสดใน หรือคัตติ้งต่างๆ เช่น รองเท้า เสื้อผ้า สามารถโตได้ดีถึงกว่า 20% เลยทีเดียว”
3. การออกสินค้าในกลุ่ม Limited Edition ทั้งของแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Exclusive รวมทั้งการทำคอลเล็กชั่นพิเศษร่วมกับทางซูเปอร์สปอร์ต ช่วยสร้างความเคลื่อนไหวในตลาดและผู้ที่ชื่นชอบสะสม
4. การมี Sport Event สำคัญๆ เกิดขึ้นในปีนี้ เช่น ฟุตบอลโลก ซึ่งปีนี้ประเทศเจ้าภาพอยู่ใกล้กับประเทศไทย ทำให้จะมีคนเดินทางไปร่วมมากขึ้น และช่วยกระตุ้นให้ตลาดสินค้าและอุปกรณ์กีฬาขยายตัวเพิ่มขึ้นได้
5. ในส่วนการเติบโตของซูเปอร์สปอร์ตเชื่อว่าการปรับ New Concept Store จะมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตได้ดีขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มเป็น 15% จากปีก่อนหน้าที่โตได้ 10% ขณะที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์เองคาดว่าหลังการปรับปรุงยอดขายจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 30%
“บริษัทมีแผนขยายสโตร์ในรูปแบบใหม่ต่อเนื่อง โดยปีนี้จะรีโนเวทจากสาขาเดิมเพิ่มอีก 5 แห่ง และเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมที่ชลบุรี รวมทั้งในปีหน้าจะปรับร้านเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่อีกประมาณ 10 สาขา ขณะที่จำนวนลูกค้าที่เข้ามาในร้านปัจจุบันสัดส่วนผู้ชายและผู้หญิงจะใกล้เคียงกันที่ 50% แต่ในส่วนของยอดการใช้จ่ายผู้ชายจะมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย โดยยอดขายมาจากกลุ่มลูกค้าผู้ชายประมาณ 55% ขณะที่มาจากผู้หญิง 45%”
เทียบฟอร์มคู่แข่ง…ตลาดนี้วิ่งไม่มีหยุด
จากสาขาแฟลกชิพซึ่งตั้งอยู่ที่ Central World นับว่าโลเคชั่นที่เป็นหัวใจของสังคมเมืองเช่นนี้ สะท้อนภาพการแข่งขันในตลาดที่ต้องการสร้าง Experience ให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ผู่บริโภคปัจจุบันต้องการทดลองสินค้าก่อนซื้อ ทำให้ก่อนหน้านี้ Adidas ก็เดินหน้าเปิดร้านที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เช่นกัน รวมทั้งเทรนด์รองเท้ากีฬาที่เติบโตขึ้น และกลายเป็นสินค้าที่ใส่ได้ทั้งเป็นแฟชั่นและฟังก์ชั่น จนเกิดการเติบโตของร้านรองเท้ากีฬา ไม่ว่าจะเป็นร้าน Atmos ที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆ นี้ รวมทั้งร้าน Sketchers ที่เพิ่งขยายล่าสุดก็เป็นแฟลกชิพ สโตร์เช่นกัน
ทำให้เมื่อมองภาพรวมของ Central World แล้วต้องบอกว่าห้างสรรพสินค้าแห่งนี้กำลังผันตัวไปเป็นศูนย์กลางของ Sport Lifestyle อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา และฟิตเนส ซึ่ง Fitness First คอนเซ็ปท์ใหม่กำลังจะเปิดตัวในต้นไตรมาส 4… เทรนด์การออกกำลังกาย คืบคลานเข้าใกล้ตัวผู้บริโภค จนยึดทำเลทองใจกลางกรุงเทพไปแล้ว…