ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยดูเหมือนจะปรับตัวดีขึ้น หากวัดจากรายได้ต่อหัวของประชากรไทย ในปีที่ผ่านมามีถึง 6,600 ดอลล่าร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงปี 1988 ทีมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 1,159 ดอลล่าห์ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลางที่เพิ่มมากขึ้น หรือจะดูตัวเลขภาคการลงทุนของกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยในช่วงเวลาเดียวกันก็เติบโตสูงเช่นกัน ในปี 2017 มีมูลค่าการลงทุนถึง 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 1988 ที่มีมูลค่าการลงทุนที่ 1.64 แสนล้านบาท ซึ่งหากดูในรายละเอียดของการลงทุนในโครงการ 1.45 ล้านบาทต่อโครงการ แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีวิถีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก้าวไปสู่ความเป็นพรีเมียมมากขึ้น
การที่คนไทยฐานะดีขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นโอกาสทางการตลาด สำหรับผู้ประกอบการสินค้าที่จะพัฒนาสินค้าออกมารองรับ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าพรีเมียม เพราะถือว่าเป็นตลาดที่ไม่ได้รับผลกระทบ ตามความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ต่างจากตลาดที่อยู่ในระดับกลางหรือล่าง มักจะมีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อมากที่สุด
Electrolux (อีเลคโทรลักซ์) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศสวีเดน ก็มองเห็นแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคไทยไปในทิศทางที่ก้าวสู่ความเป็นพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งนับเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า และต่อธุรกิจของบริษัท จึงมีเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจในระยะ 3 ปีนับจากนี้ ใน 2 เรื่อง คือ 1.การเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) และ 2.การเป็นผู้นำสินค้าพรีเมียม (Premium Leader) จึงวางนโยบายการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Shape Living for The Better หรือ อีเลคโทรลักซ์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ผ่าน 4 กลยุทธ์ทางด้านการตลาด ได้แก่
1.Create Brand Desirability
การสร้างแบรนด์ที่แข็งแรง ผ่านสินค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Taste เป็นสินค้าสร้างแรงบันดาลใจในด้านการทำอาหาร ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว กลุ่ม Care เป็นกลุ่มรักษาดูแลเสื้อผ้า ซึ่งเป็นกลุ่มเครื่องซักผ้า และกลุ่ม WellBeing ที่จะดูแลความสะอาดภายในและสุขภาพของผู้ที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มเครื่องปรับอากาศและเครื่องดูดฝุ่น โดยจะมีการปรับปรุงหน้าร้านให้เป็นพรีเมียมมากขึ้น เพื่อรักษาความเป็นผู้นำเครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องดูดฝุ่น และเตาอบไมโครเวฟ รวมถึงจะผลักดันให้ทุกสินค้าเป็นผู้นำในตลาดเมืองไทย และจะมีการสื่อสารกับผู้บริโภค มากยิ่งขึ้น ผ่าน Key Influencer
2.Drive Digitally led Marketing Excellence
การทำตลาดเชิงรุกผ่านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง จะทำคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น และทำตลาดผ่านโลกดิจิทัล ปีที่ผ่านมามีการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งมีจำนวนผู้บริโภคเข้าถึงเฟซบุ๊กเพิ่ม 54% ผู้บริโภคเข้ามาหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์สูงขึ้นถึง 40% มีผู้บริโภคเปลี่ยนใจมาซื้อสินค้าสูงขึ้นถึง 35% มีการรีวิวสินค้าสูงขึ้น 54% มีการเพิ่มประสิทธิภาพของอีคอมเมิร์ซ ด้วยการเชื่อมต่อระบบอีคอมเมิร์ซกับคู่ค้าของบริษัทให้แข็งแรงยิ่งขึ้น มีการนำสื่อดิจิทัลไปไว้ที่หน้าร้านจำหน่ายสินค้า ให้มีการติดต่อกับลูกค้ามากขึ้นและสะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะผ่าน Chat Bot หรือ QR Code
3.Build Outstanding Ownership Experience
การเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค ผ่าน Ownership Experience มีการยกระดับการบริการหลังการขายให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย การเพิ่มศักยภาพคอลเซ็นเตอร์ การนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อนำผู้บริโภคไปยังจุดขายผ่านระบบ CRM ผู้บริโภคสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ประโยชน์ผ่านทาง Privilege Program ต่างๆ
4.Strengthen Partnership
มีการยกระดับคู่ค้าให้เติบโตไปด้วยกัน ด้วยการออกแคมเปญโปรโมชั่นให้ตรงความต้องการของคู่ค้ามากขึ้น และการร่วมมือกับคู่ค้าในการจัดแสดงสินค้าให้เห็นถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ และการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรให้มากขึ้นด้วย
คุณรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด มองทิศทางตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีหลังว่า ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราการเติบโต 3-5% โดยประเมินว่ามีมูลค่าตลาดรวมกว่า 55,000 ล้านบาท ไม่รวมสินค้ากลุ่มทีวี โดยกลุ่มสินค้าพรีเมียมคาดว่าจะมีสัดส่วนประมาณ 20% เพิ่มขึ้นจากช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนประมาณ 10% ในส่วนอีเลคโทรลักซ์คาดว่าปีนี้จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง มากกว่าภาพรวมของตลาด และเติบโตมากกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของบริษัทในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่มีอัตราการเติบโต 11.1%
“นอกจากทิศทางของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนแปลงไป คือ ผู้บริโภคมีความต้องการประสบการณ์จากสินค้าก่อนการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคมีความคิด ในการเลือกสินค้า โดยไม่ได้พิจารณาจากราคาเพียงอย่างเดียว และเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าที่ทำจากโปรดักส์รีไซเคิล หรือสินค้าประหยัดพลังงาน ขณะที่เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้เข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เพราะผู้บริโภคมีความคาดหวังที่สูงขึ้น ผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการสินค้า เพื่อพัฒนาสินค้าที่ดีกว่าให้กับผู้บริโภค และผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายขึ้น จากโลกดิจิทัล ทำให้อำนาจการต่อรองของผู้บริโภคมีสูงขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวทำให้อีเลคโทรลักซ์ จึงต้องสร้างวิสัยทัศน์ การทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้บริโภคทีดีขึ้น ดังกล่าวออกมาทำตลาดรองรับ เพื่อไปสู่เป้าหมายการเติบโตที่ยั่งยืน ด้วยอัตราไม่ต่ำกว่า 2 ดิจิต การเพิ่มสัดส่วนกลุ่มบีทูบีเป็น 30% จากปัจจุบันมี 5% และการผลักดันสินค้าไปสู่ความเป็นผู้นำตลาดพรีเมียมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องล้างจาน และเตาอินดักชั่น ภายใน 2-3 ปีนับจากนี้” คุณรัชตะ กล่าวในตอนท้าย