Music Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ค่ายเครื่องดื่มต่างก็หยิบยกมาใช้ แต่ละแบรนด์ก็มีแนวทางที่แตกต่างกันในรายละเอียด แต่ทั้งหมดก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย และสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ตัวเอง ล่าสุด ไฮเนเก้น(Heineken) ได้ส่งกิจกรรม Activation “ไฮเนเก้น สตาร์ ไฮฟ์” (Heineken® Star Hive) ฉายภาพความพิเศษสุดพรีเมียมที่จะมาเติมเต็มความสนุกในปาร์ตี้สีขาวระดับโลก Heineken® Presents Sensation Rise 2018 เพื่อฉีกกฎประสบการณ์งานดนตรีระดับสากล เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ทางดนตรีที่แตกต่างและเหนือระดับอีกขั้นด้วยกลยุทธ์ “ไฟฟ์สตาร์ มิวสิค เอ็กซ์พีเรียนซ์” (Five-Star Music Experience)
คุณเศรษฐวุฒิ จิวังกูร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัท ทีเอพี กล่าวว่า “ความเข้มข้นของกลยุทธ์ Music Marketing เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี เพราะดนตรีเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่แต่ละแบรนด์นำมาใช้เพื่อต่อยอดเป็นกิจกรรมที่ถูกใจผู้บริโภค ไฮเนเก้น ในฐานะผู้นำทางด้านดนตรี จึงต้องสร้างความแตกต่างให้กับกลยุทธ์ทางดนตรีมากกว่าการสนับสนุนงานดนตรีทั่วๆ ไป โดยเน้นไปที่การสร้างโมเมนต์ให้คนจดจำและประทับใจในแบรนด์มากกว่าแค่มาร่วมรับชมคอนเสิร์ตหรือศิลปินคนโปรด ซึ่งในงาน Heineken® Presents Sensation Rise 2018 ไฮเนเก้น ใช้กลยุทธ์ “Five-Star Music Experience” ด้วยความพิเศษ 4 รูปแบบในการยกระดับประสบการณ์ทางดนตรีที่แตกต่างและเหนือระดับไปอีกขั้น และตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค (Unmet needs) ของพวกเขาอย่างแท้จริง
จากความแตกต่างทางประสบการณ์ทางดนตรีที่ไม่เหมือนใคร ไฮเนเก้น กลับมาพร้อมกับปรากฏการณ์สีขาวสุดยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่าง Sensation เตรียมสร้างสรรค์ “ไฮเนเก้น สตาร์ ไฮฟ์” (Heineken® Star Hive) ประสบการณ์เหนือระดับที่จะมาเติมเต็มความสนุกในเทศกาลดนตรีแบบครบด้าน ประกอบด้วย
– สตาร์ไฮฟ์ ไวท์ มิวเทชั่น (Star Hive White Mutation) จุดบริการ Self-service ให้คุณเช็คลุคให้เป๊ะก่อนเข้างาน พร้อมด้วยโซน VIP Grooming บริการเสริมความคูลให้เหล่าปาร์ตี้โกเออร์จัดเต็มก่อนเข้าไปมันส์ในงาน โดยมีสไตลิสต์มืออาชีพจาก Smile Club Thailand ช่วยปลุก White DNA ในตัวคุณให้โดดเด่นตลอดงาน
– สตาร์ไฮฟ์ ไรซ์ เลน (Star Hive Rise Lane) เข้าไปสัมผัสงานดนตรีระดับโลกได้ก่อนใครกับอุโมงค์ทางเข้าพิเศษเฉพาะผู้มีริสต์แบนด์(Wristband) พิเศษสำหรับ Heineken® Star Hive Access และผู้ที่มีบัตร VIP ให้คุณก้าวสู่ประสบการณ์ดนตรีเหนือระดับได้ทันที
– สตาร์ไฮฟ์ แพลตตินัม เด็กซ์ (Star Hive Platinum deck) สัมผัสความ Exclusive ระดับ 5 Star กับพื้นที่สุดหรู พร้อมสานต่อความสนุกแบบ Non stop ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อบนโลกโซเชียลด้วย Wi-fi และบริการจุดชาร์จไฟสำหรับโทรศัพท์ของคุณ พร้อมด้วย Exclusive Bar เชื่อมต่อกับโซน VIP ให้คุณดูโชว์จากมุมสูง พร้อมถ่ายรูปโชว์ประสบการณ์ดนตรีที่เหนือใคร สิทธิพิเศษเฉพาะผู้ที่มีบัตร VIP เท่านั้น
– สตาร์ไฮฟ์ ซาวด์ รีไซเคิล (Star Hive Sound Recycle) สานต่อความเป็นแบรนด์แห่งนวัตกรรมด้วยการนำเอาพลังงานเสียงดนตรีมาแปลงค่าเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยสร้างขึ้นจากกระป๋องไฮเนเก้นที่ใช้แล้ว นำกระป๋องที่ใช้แล้วมาเรียงต่อกันเพื่อเกิดเสียงจากการสั่นสะเทือน มาแปลงค่าเป็นพลังงานไฟฟ้าพร้อมชาร์จความสนุกให้คุณตลอดงาน
ทั้งนี้ แม้กลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้งจะไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องการสร้างยอดขายโดยตรง แต่ดนตรีจะเป็นสะพานที่เชื่อมไฮเนเก้นเข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ช่วยให้ไฮเนเก้นคอนเนคกับกลุ่มเป้าหมาย และช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำทางด้านประสบการณ์ดนตรีระดับสากลให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อส่งตัวตนของแบรนด์ (positioning) เจาะเข้าไปให้ถึงใจผู้บริโภค