Burberry ภายใต้การนำของ Riccardo Tisci ผู้เป็น Chief Creative Officer คนใหม่ของแบรนด์ ได้เปิดเผยโลโก้ใหม่ผ่านโพสใน Instagram พร้อมกันนี้ยังออกลายพิมพ์ Monogram ใหม่ โดยมีองค์ประกอบหลักจากตัวอักษร T และ B ตามชื่อของผู้ก่อตั้ง Thomas Burberry
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ทำการเปลี่ยนโลโก้ในรอบ 20 ปี การเปลี่ยนโลโก้ครั้งที่แล้วมีการนำตัว “S” ออกไปจากชื่อ (ดีไซน์โดย Fabien Baron ในปี 1999)
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นผลงานการออกแบบของอาร์ตไดเรกเตอร์และนักออกแบบกราฟฟิกชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง Peter Saville ที่เป็นรู้จักจากผลงานการออกแบบปกอัลบั้ม New Order และ Joy Division และผลงานล่าสุดที่ออกแบบให้กับ Calvin Klein ภายใต้การทำงานร่วมกับ Raf Simons และโลโก้ใหม่ของแบรนด์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเห็นเอกสารเก่า “โดยเฉพาะโลโก้จาก 1908 และลายพิมพ์โมโนแกรม Thomas Burberry” จากอีเมลคุยกันระหว่างครีเอทีฟ 2 คนซึ่ง Tisci นำออกมาเปิดเผยบนโลกออนไลน์
ทั้งโลโก้และ Monogram ใหม่นี้จะปรากฏอยู่ในทุกช่องทางโฆษณาของ Burberry ซึ่ง Identity ใหม่นี้ออกมา 5 เดือนหลังจาก Tisci เข้ามาทำงานให้กับแบรนด์แทนที่ Christopher Bailey และ Marco Gobbetti ซีอีโอของ Burberry ที่เข้ารับตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ปี 2017 มีแผนการ reposition ให้ Burberry ใน 5 ปี เพื่อให้เป็นผู้ออกแบบหรูหราที่แท้ทรูและ re-energise ให้กับแบรนด์ เนื่องจากยอดขายลดลงไปจากเดิมมากให้กับ LVMH และ Kering กลยุทธ์หลักในการรีแบรนด์ครั้งนี้คือโฟกัสไปที่เครื่องหนังที่เป็น 40% ของยอดขายปัจจุบันและจะใช้ประโยชน์จากลาย Monogram ให้ได้มากที่สุด
หลังจากวิกฤตการเงินปี 2008 วงการแฟชั่นก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเต็มๆ แม้กระทั่ง Louis Vuitton ยังต้องเปลี่ยนแปลง เช่น เก็บ Signature ให้กับ Limited-edition เท่านั้น สุดท้าย ลดจำนวนลงเพื่อเพิ่มความ exclusive และสำหรับแบรนด์หรูหลายแบรนด์สิ่งนี้คือการเพิ่มดีมานด์
ในปัจจุบัน แบรนด์หรูหลายแบรนด์ได้กลับมามุ่งเน้นที่โลโก้ เช่น Alessandro Michele ผู้เป็น Creative Director ของ Gucci นำโลโก้อักษร G ไขว้กันจากยุค ’90 อันเฟื่องฟู นำมาทำให้เด็กลง เข้าถึงวัยรุ่นได้มากขึ้น ยังรวมไปถึงแบรนด์อื่นอย่าง Dior และ Fendi ด้วย
Tisci ยังแง้มออกมาว่า Burberry จะมี collaboration กับ Vivienne Westwood ที่จะเปิดตัวในเดือนธันวาคม ปี 2018 นี้ด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้ตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ และการเปิดตัวในครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าจะฉีกกฎเกณฑ์การเปิดตัวลาย Monogram เพราะ IG ทางการของแบรนด์เล่นเอาอีเมล์ที่ดีไซน์เนอร์ส่งให้ทีมผู้บริหารมาลงกันเลยทีเดียว