“Like Father, Like Son”
ประโยคคุ้นหูที่ได้ยินกันบ่อยๆ ให้ความหมายใกล้เคียงกับคำกล่าวแบบไทยๆ “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” โดยเฉพาะเมื่อคนรุ่นลูกสามารถสานต่อความสำเร็จต่างๆ ที่รุ่นพ่อสร้างสมเอาไว้ โดยสามารถเดินตามต้นแบบและต่อยอดความสำเร็จมาสู่รุ่นของตัวเองได้เช่นเดียวกัน
ยิ่งเมื่อได้เห็นคู่พ่อลูกแห่งอาณาจักรแสนล้าน “พีเอ็ม กรุ๊ป” ตั้งแต่ผู้ริเริ่มสร้างอาณาจักร คุณพ่อประยุทธ มหากิจศิริ ที่พิสูจน์ความสำเร็จด้วยการปั้นธุรกิจในเครือที่หลากหลาย จนครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับที่ 14 ของประเทศไทย จากการจัดอันดับของ Forbs Thailand และฝ่ายลูกชายคนเดียวของบ้านอย่าง คุณกึ้ง – เฉลิมชัย มหากิจศิริ ซีอีโอหนุ่มที่เข้ามารับช่วงการบริหารและดูแลธุรกิจต่อจากคุณพ่อ ในฐานะหัวเรือใหญ่ของรุ่นที่ 2 ที่จะเข้ามาเป็นผู้ขับเคลื่อนและนำพาธุรกิจที่ครอบครัวสร้างขึ้นมาให้ไปได้ไกลและเติบโตมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
พิสูจน์ฝีมือในฐานะทายาทรุ่น 2
ก่อนเข้ามาเป็นผู้นำทัพในการสานต่อธุรกิจครอบครัวอย่างเต็มตัว คุณกึ้งได้เรียนรู้วิชาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการบริหารธุรกิจต่างๆ ภายในเครือจากหลากหลายบริษัท ตั้งแต่การดูแลกิจการสนามกอล์ฟ เลควูด คันทรี คลับ ซึ่งเป็นกิจการแรกที่เข้ามาบริหารในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการหลังจากเรียนจบ รวมทั้งบริษัทอื่นๆ ในเครือ
จนปัจจุบันคุณกึ้ง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ซึ่งสามารถพิสูจน์ฝีมือด้วยการพลิกฟื้นธุรกิจจากที่เคยอยู่ในภาวะขาดทุนต่อเนื่อง ให้สามารถทำกำไรได้สำเร็จ พร้อมปรับภาพลักษณ์จากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการขนส่งสินค้าแห้งแบบเทกอง มาเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนในเชิงกลยทุธ์ในหลากหลายธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น โดยปัจจุบันได้ลงทุนทั้งในกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือ กลุ่มธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจปุ๋ยเคมีเพื่อการเกษตร และกลุ่มการลงทุนอื่นๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม การบริหารจัดการน้ำ และธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นต้น
นอกจากการบริหารและดูแลกิจการของครอบครัวแล้ว คุณกึ้งยังได้บุกเบิกขยายธุรกิจใหม่เพิ่มเติม ด้วยการเปิดบริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ในปี 2550 เพื่อจัดคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลีอย่างเต็มรูปแบบในเมืองไทย ทำให้ภายในเครือเริ่มมีการ Diversify มาในกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
รวมทั้ง Movement ล่าสุด กับการเปิดตัวบริษัทใหม่อย่าง บริษัท เนเชอรัล เบฟ จำกัด ให้เข้ามาอยู่ในเครือพีเอ็ม กรุ๊ป เพื่อเติมเข้ามาในพอร์ตกลุ่มของอาหารและเครื่องดื่มภายในเครือ ซึ่งจะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าที่มีความเป็นนวัตกรรม จากการต่อยอดองค์ความรู้และสนับสนุนการใช้ผลผลิตของคนไทย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาด ซึ่งไม่เพียงแค่ตลาดในประเทศไทยแต่มองโอกาสไปได้ไกลในระดับโกลบอล โดยมีคุณกึ้งนั่งอยู่ในตำแหน่งประธานกรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ และมีสินค้าตัวแรกจากเนเชอรัล เบฟ อย่างเครื่องดื่มสารสกัดเข้มข้นจากลำไย P80 (พีแปดสิบ) มาเป็นสินค้านำร่องในการทำตลาด และเป็นอีกหนึ่งสินค้า ที่ทางคุณกึ้งและครอบครัวตั้งใจจะปั้นให้เป็นอีกหนึ่งธุรกิจดาวรุ่งภายในเครือ PM Group เลยทีเดียว
วิถี Father & Son ขัดแย้งบนพื้นฐานของความรัก
คุณกึ้งเล่าให้ฟังว่า ได้เรียนรู้วิธีการทำธุรกิจต่างๆ มาจากคุณพ่อ เพราะมีโอกาสได้เข้าไปช่วยงานในบริษัทของคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กทำให้ซึมซับการทำงานต่างๆ มาโดยตลอด รวมทั้งคุณพ่อค่อนข้างเปิดกว้างให้มีโอกาสได้ทดลองและเรียนรู้การทำอะไรต่างๆ ในแบบของตัวเอง ซึ่งธรรมชาติของ Father & Son หรือความเป็นลูกชายกับพ่อ ที่ส่วนใหญ่มักจะมีความเห็นไม่ค่อยตรงกันนัก ไม่ค่อยฟังกันเพราะต่างคนต่างมีวิธีคิดในแบบของตัวเอง แต่สุดท้ายแล้วความเห็นที่ไม่ค่อยจะตรงกันเหล่านี้มักจะนำมาสู่สิ่งใหม่ที่กลายเป็นความสร้างสรรค์อยู่เสมอ
“ผมมักจะมีความเห็นไม่ค่อยตรงกับคุณพ่อหลายๆ อย่าง เราเถียงกันตลอด ไม่ค่อยฟังกัน แต่การที่เรามีไอเดียไม่ตรงกันกลายเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้เกิดความคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้น เพราะถ้าเราคิดเหมือนกัน ตรงกัน ภาพที่ได้ก็จะมีออกมาเพียงภาพเดียว จะมองเห็นได้แค่แนวทางเดียวไปตลอด จะไม่ค่อยมีความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้น ดังนั้น ลูกชายกับพ่อในแบบของคู่เรา จะเป็นอะไรที่รักกันมากแต่ไม่ค่อยฟังกัน เรามักจะมีความเห็นที่ไม่ค่อยตรงกันอยู่เสมอ แต่จะมีสิ่งที่เรียกว่า “ความรัก” เป็นตัวเชื่อมเราเข้าหากัน เพราะความรักไม่ใช่เรื่องของเหตุผล แม้จะเห็นต่างหรือคิดไม่ตรงกัน แต่สุดท้ายแล้วความรักก็จะทำให้เราได้ความคิดที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งใม่ใช่แค่ความคิดของผมหรือความคิดของคุณพ่อ แต่จะกลายเป็นความคิดใหม่ ที่ส่วนใหญ่มักจะนำมาซึ่งความคิดที่ดีกว่าการยึดติดอยู่กับความคิดจากแค่ของคนใดคนหนึ่งเท่านั้น”
ขณะที่ความสำเร็จของคุณกึ้งนั้น มาจากความเป็นคนใฝ่รู้ และขวนขวายที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ รวมทั้งเป็นคนที่เรียนรู้เรื่องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้ทำหน้าที่สำคัญๆ อยู่หลายครั้ง จนสะสมเป็นประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การยอมรับในครอบครัวแต่ยังได้รับการยอมรับจากสังคม ด้วยรางวัลการันตีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
– ‘The Next Tycoon’ ของนิตยสาร Forbes ในปี 2557
– การได้รับคัดเลือกให้เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี จากนิตยสาร ‘Prestige’ ในปี 2559
– ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานโครงการนักธุรกิจรุ่นใหม่ไทย – จีน ในปี 2559
– รางวัล ‘Thailand Headlines Person of The Year Award 2016-2017’ ในสาขาเศรษฐกิจและสังคม จากบริษัท เจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ผู้ผลิตสื่อภาษาจีนในประเทศไทย
และแม้ว่าผู้เป็นพ่อจะวางมือในฐานะหัวเรือใหญ่ของการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยส่งไม้ต่อให้กับลูกชายในฐานะ CEO มานานหลายปี แต่ในหลายๆ โอกาสใหม่ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นนั้น คุณกึ้งยอมรับว่าหลายๆ อย่างเป็นไอเดียมาจากทางคุณพ่อ ที่แม้ว่าจะยกหน้าที่ในการดูแลบริหารธุรกิจของครอบครัวให้ตนดูแลแล้ว แต่ก็ยังติดตามเทรนด์และความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่น่าสนใจอยู่ตลอด โดยเฉพาะธุรกิจล่าสุดในการเข้ามาเป็น New Player ในตลาด Functional Drink ภายใต้แบรนด์ P80 ที่คุณประยุทธ มหากิจศิริ ถึงกับออกมาให้รายละเอียดของธุรกิจใหม่นี้ร่วมกับลูกชายด้วยตัวเอง หลังจากไม่ได้ออกหน้าในเรื่องของธุรกิจต่างๆ มานานหลายสิบปี
P80 ไม่ใช่แค่ลำไย แต่คือนวัตกรรม
คุณประยุทธ เล่าถึงธุรกิจใหม่ล่าสุดในเครือ PM Group ที่บอกว่าเป็นอีกครั้งที่รู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกเหมือนย้อนไปในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจกาแฟ ซึ่งในขณะนั้นคนไทยหลายคนชื่นชอบการดื่มกาแฟ แต่ยังไม่สามารถผลิตกาแฟเองได้ ทำให้ตนมีความคิดอยากจะเป็นผู้ผลิตกาแฟสำหรับตลาดในประเทศไทย ร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกและกลายเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของแบรนด์เนสกาแฟในประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรชาวไทย ในการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรให้มีราคาและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรชาวไทยได้มากขึ้นด้วย
เช่นเดียวกับการเริ่มต้น P80 ในครั้งนี้ ที่จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะได้เข้ามามีส่วนบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาลำไยล้นตลาดและราคาตกต่ำ จากการเป็นผู้เข้ามารับซื้อผลผลิตเพื่อนำไปทำเป็นสารสกัดจากลำไย ที่มีสรรพคุณในการช่วยให้ร่างกายหลับได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญให้ร่างกายมีโอกาสได้ซ่อมแซมระบบต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยมีผลการวิจัยจากทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาช่วยรับรอง ซึ่งคุณประยุทธ ออกมาการันตีสรรพคุณด้วยตัวเอง จากการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่องหลายปี และเห็นผลลัพธ์จากสุขภาพของตัวเองที่ดีขึ้นได้จริง จนกลายเป็นเครื่องดื่มประจำครอบครัว รวมทั้งได้พยายามแนะนำให้บุคคลใกล้ชิดดื่ม เพื่อผลดีต่อสุขภาพของทุกๆ คนรอบข้างอีกด้วย
“ความสำเร็จของ P80 จะมากกว่าแค่เรื่องของธุรกิจ แต่จะเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายทั้งกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ที่มีช่องทางในการกระจายผลผลิตในราคาที่ดีขึ้น การสนับสนุนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน และเพิ่ม Value ให้กับผลผลิตอื่นๆ ของประเทศในอนาคต รวมทั้งสุขภาพโดยรวมของคนไทยที่จะดีขึ้นจากการได้นอนอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการมีสุขภาพที่ดีของผู้คน รวมทั้งคุณสมบัติอื่นๆ จากสารสกัดที่ได้จากลำไย ซึ่งล้วนดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น” เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เจ้าสัวประยุทธได้กล่าวไว้
ขณะที่ CEO อย่างคุณกึ้ง เล่าย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจ P80 ซึ่งต้องถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ความเห็นของพ่อลูกดูว่าจะมีความสวนทางกัน โดยคุณกึ้ง เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกที่คุณพ่อมาบอกว่าอยากจะให้ทำ P80 เราก็รู้สึกว่าไม่ใช่ทาง ยังคิดแบบติดตลกว่า ลำไยเป็นสแลงเวลาที่คนเอาไว้พูดกันในทางไม่ดี ในเชิงน่ารำคาญ น่าเบื่อ แต่เราเห็นด้วยตัวเองว่าคุณพ่อใช้สุขภาพของตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์นี้ได้ผลจริง ดีต่อสุขภาพจริง แม้อายุจะมากกว่า 70 ปีแล้ว ก็ยังแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นกว่าเดิมมาก ยาต่างๆ ที่เคยใช้ก็สามารถหยุดใช้ได้ ประกอบกับมีความสนใจในเรื่องของนวัตกรรม เรื่องของ Food Science, Food Tech. อยู่ก่อนแล้ว จึงตัดสินใจเข้ามาทำตลาด P80 โดยไม่ได้มองเป้าหมายแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่วางไว้ว่าจะต้องเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำตลาดได้ทั่วโลก
“สิ่งที่เราขาย เราไม่ได้ขายแค่ลำไย แต่เป็นการขายนวัตกรรม ขายสารสกัดจากลำไย ที่สรรพคุณต่างๆ สามารถพิสูจน์ได้จริง และจะเป็นจุดแข็งให้ผลิตภัณฑ์เราแตกต่างจากตลาดฟังก์ชั่นนัลทั่วไป ที่แม้จะบอกว่าดีเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพแต่ก็ไม่สามารถจับต้องหรือพิสูจน์ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมได้ ประกอบกับฟังก์ชั่นของ P80 ยังไม่เคยมีใครในตลาดโฟกัสมาก่อน จึงเป็นการสร้าง New Segment ให้กับตลาด Functional Drink ในกลุ่ม Deep Sleep ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และอาศัยในเมืองที่ต้องพบเจอปัญหาและความครียดรอบด้านทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทำให้การมาของ P80 ไม่ได้มาเพื่อแข่งกับใครแต่เราจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะมาทำให้ตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลโดยรวมที่มีมูลค่ากว่า 17,700 ล้านบาท มีความหลากหลายและเพิ่มโอกาสในการเติบโตได้มากยิ่งขึ้น”
อนาคตต้องเติบโตได้มากกว่าที่พ่อสร้าง
การมารับช่วงต่อธุรกิจของคุณกึ้งนั้น มีหนึ่งในเป้าหมายใหญ่ที่อยากทำให้ได้คือ การทำให้อาณาจักร PM Group ภายใต้การนำทัพของตัวเองนั้น ยิ่งใหญ่ไม่แพ้หรืออาจจะมากกว่าช่วงที่รุ่นพ่อเป็นผู้ขับเคลื่อน ซึ่งจากการเติบโตทั้งในแง่รายได้และการขยายธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจในพอร์ตก็เชื่อว่าเป้าหมายนี้มีโอกาสเกิดขึ้นจริงได้ไม่ยากนัก
โดยเฉพาะกับธุรกิจใหม่อย่าง P80 ที่คุณกึ้งมองเส้นทางในการสร้างแบรนดิ้งและการเติบโตไว้มากกว่าแค่โอกาสจากการสร้างตลาดเฉพาะแค่ในประเทศไทยแต่เพียงอย่างเดียว แต่มองภาพในต่างประเทศไว้ด้วย จึงเตรียมพร้อมสำหรับการผลักดันธุรกิจอย่างเต็มที่ด้วยงบลงทุนในช่วงเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท โดยครึ่งหนึ่งใช้สำหรับการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดลำพูน บนพื้นที่กว่า 140 ไร่ และมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นฐานในการรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกรทั่วประเทศ ส่วนงบที่เหลือจะใช้ทั้งในส่วนของการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมทั้งในการสร้างการรับรู้แบรนด์ และการทำตลาดเพื่อผลักดันให้ยอดขายเติบโต
สำหรับการทำตลาดในประเทศจะเน้นสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจโปรดักต์ว่า P80 เป็นนวัตกรรมเครื่องดื่มสารสกัดจากลำไยเข้มข้นจนได้ 5 สารประกอบสำคัญ ที่มีคุณประโยชน์ในการช่วยฟื้นฟูเซลล์ร่างกาย ควบคุมความดัน บรรเทาอาการปวดเมื่อย เพิ่มพลังในการทำงานในแต่ละวัน ช่วยในเรื่องของความจำ และทำให้สดชื่นดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งสามารถดื่มได้ทุกคนและดื่มได้ต่อเนื่อง โดยมีพรีเซ็นเตอร์อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่มีคาแร็คเตอร์ของการเป็นคนที่ให้ความใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ และสามารถเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่มและทุกเพศทุกวัย เพื่อต้องการสื่อสารถึงการเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์และสามารถดื่มได้ทุกวัย เพื่อเริ่มต้นดูแลตัวเอง
“ในส่วนของการวางจำหน่ายมีทั้งในรูปแบบของการขายแบบ Direct ผ่านช่องทางออนไลน์และคอลเซ็นเตอร์ของบริษัท รวมทั้งจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซี กรูเมต์มาร์เก็ต วิลล่ามาร์เก็ต ท็อปส์ วัตสัน บูทส์ อีฟแอนด์บอย รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ และช่องทางร้านขายยา โดยทุกช่องทางจะมีขายทั้ง 2 รูปแบบ คือ Natural Essence ซึ่งเป็นแบบเข้มข้น รับประทานวันละ 1 ช้อนโต๊ะ ขนาด 260 ml. ราคา 1,200 บาท และขนาด 100 ml. ราคา 500 บาท รวมทั้งรูปแบบ Nutri Drink หรือแบบพร้อมดื่ม ขวดบรรจุ 50 ml. (1 กล่อง บรรจุ 6 ขวด) ราคา 450 บาท โดยมองว่าระดับราคาสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะไม่แตกต่างจากสินค้าในกลุ่ม Supplement ต่างๆ มากนัก โดยเฉพาะแบบพร้อมดื่มที่เมื่อเฉลี่ยราคาต่อขวดแล้ว เชื่อว่าจะสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแน่นอน”
ขณะที่การขยายตลาดต่างประเทศ ได้เริ่มจำหน่ายแล้วในกัมพูชาด้วยการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย และเตรียมจะขยายตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งในจีนและญี่ปุ่น ที่มีแนวโน้มได้รับการตอบรับที่ดีเพราะเริ่มมีออเดอร์ทั้งจากจีนและญี่ปุ่นติดต่อเข้ามา เนื่องจากมีความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับลำไยในฐานะผลไม้จากสวรรค์ ขณะเดียวกันจะเพิ่มการกระจายตลาดไปในภูมิภาคต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการหาตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศให้ครอบคลุมไปในหลายๆ ประเทศ
ไม่เพียงแค่การหาตัวแทนขายในต่างประเทศเท่านั้น P80 ยังมีแผนในการสร้างแบรนด์ในต่างประเทศ ด้วยการใช้ตำนานนักมวยชื่อดังอย่าง แมนนี่ ปาเกียว นักมวยชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงในวงกว้างและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งมีภาพของคนที่มีความแข็งแรง และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพที่ดี ตรงกับคาแร็คเตอร์ของแบรนด์
ส่วนเป้าหมายในเชิง Performance ของการเพิ่มแบรนด์ใหม่ของ PM Group ครั้งนี้ ได้ตั้งเป้ายอดขายในปีแรกไว้ราว 2 พันล้านบาท ขณะที่วิสัยทัศน์ของอดีตผู้นำองค์กรอย่างคุณประยุทธมองว่า ผลิตภัณฑ์มีโอกาสที่จะทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปีนับจากนี้ อย่างไม่ยากเย็นนัก และมีความพร้อมสำหรับการขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังผลิตให้เพียงพอต่อการรองรับเติบโต ทั้งในแง่ของศักยภาพของเครื่องจักรรวมถึงปริมาณวัตถุดิบที่ต้องใช้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ขณะที่ซีอีโอหนุ่ม ผู้รับมอบ KPI จากผู้เป็นพ่อ พูดติดตลกว่า
“P80 จะเป็นอีกหนึ่งวิถีที่ผมทำสวนทางกับสิ่งที่คุณพ่อเคยทำไว้อดีต เพราะที่ผ่านมาคุณพ่อเคยทำกาแฟที่ทำให้คนตื่น แต่ตอนนี้ผมกำลังทำ P80 ที่จะช่วยให้ผู้คนหลับอย่างมีคุณภาพ คุณพ่อเป็นคนนำแบรนด์ระดับโลกเข้ามาเติบโตในประเทศไทย แต่ตอนนี้ผมจะเป็นคนนำแบรนด์ไทย นำสินค้าไทยให้ออกไปเติบโตในระดับโลกแทน ส่วนยอดขายที่คุณพ่อตั้งเป็น KPI ให้ผมทำไว้ที่ 2 พันล้านหรือหมื่นล้าน แต่ผมอาจจะไม่ทำตามที่พ่อบอก เพราะผมอาจจะทำได้ถึงสองหมื่นล้านเลยก็ได้นะครับ”
ส่วนเป้าหมายสำคัญในฐานะผู้นำของครอบครัวในรุ่นที่ 2 นั้น คุณกึ้งมองว่า ต้องพยายามทำให้ธุรกิจมั่นคงและเติบโตอย่างแข็งแกร่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถรักษาสิ่งที่รุ่นพ่อแม่สร้างและมอบให้ไว้เพื่อพร้อมสำหรับการส่งต่อไปสู่รุ่นหลานได้เหมือนกับที่พ่อเคยทำให้กับตนมาก่อนหน้านี้เช่นกัน
Photo Credit : Facebook P80