กรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทร่วมลงทุน (Corporate Venture Capital) ในเครือกรุงศรี ร่วมลงทุนในกองทุน SBI AI & Blockchain Fund ของ SBI Holdings บริษัทชั้นนำของโลก สัญชาติญี่ปุ่น ไม่ปล่อยโอกาสควานหาสตาร์ทอัพแถวหน้าของโลกด้าน Artificial Intelligence และเทคโนโลยี Blockchain เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินของกรุงศรี
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด เปิดเผยว่า “กรุงศรี ฟินโนเวต ตัดสินใจลงทุนในกองทุนของ SBI ด้วย 2 เหตุผลสำคัญ ประการแรก SBI จัดตั้งกองทุนขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกที่มุ่งลงทุนในเทคโนโลยีทางการเงิน หรือฟินเทค และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้อย่างมาก โดยที่ผ่านมา SBI ประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุนฟินเทค และกระจายการลงทุนไปกว่า 100 สตาร์ทอัพทั่วโลก ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่มีความน่าสนใจและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ประการต่อมาคือ SBI เปิดกองทุนใหม่ที่มีชื่อว่า SBI AI & Blockchain Fund ที่เน้นการลงทุนในเทคโนโลยี AI และ Blockchain โดยเฉพาะ ซึ่งตอบรับกับความสนใจของภาคการเงินโลกและสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของกรุงศรีที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีทั้งสองอย่างชัดเจน ดังนั้นกรุงศรี ฟินโนเวต เชื่อว่าการเลือกลงทุนในครั้งนี้จะตอบโจทย์กลยุทธ์ของกรุงศรีอย่างยิ่ง”
การลงทุนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ของกรุงศรี ฟินโนเวต หลังจากก่อนหน้านี้เน้นการลงทุนตรงในสตาร์ทอัพ โดยกองทุน SBI AI & Blockchain Fund เป็นกองทุนระยะยาวที่มีขนาดใหญ่มากกว่าประมาณ 5 หมื่นล้านเยน
“การตัดสินใจลงทุนกับ SBI ครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของกรุงศรีในเรื่องเทคโนโลยี AI & Blockchain อย่างชัดเจน เราใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ SBI ในการเฟ้นหาสตาร์ทอัพแถวหน้าระดับโลกมาร่วมงานได้ เปรียบเทียบเหมือนเรากำลังมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญช่วยสืบเสาะหาสตาร์ทอัพฝีมือดีจากที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมา เราพบว่าสตาร์ทอัพที่ SBI เลือกลงทุนนั้น มีศักยภาพและเติบโตได้ดี และพร้อมที่จะเปิดรับโอกาสในการลงทุนรอบถัดไป ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสตาร์ทอัพที่ตรงกับเป้าหมาย กรุงศรี ฟินโนเวต ก็สามารถร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพเหล่านั้นได้ในครั้งต่อไป”
ในปี 2561 กรุงศรี ฟินโนเวต มีเป้าหมายชัดเจนที่จะนำ 40 สตาร์ทอัพมาทำงานกับธนาคารและบริษัทในเครือ ซึ่งปัจจุบันกรุงศรีได้มีโอกาสร่วมงานกับสตาร์ทอัพกว่า 25 บริษัทแล้ว ซึ่งการลงทุนในกองทุนของ SBI นี้จะช่วยให้ กรุงศรี ฟินโนเวต สามารถหาสตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีจากทั่วโลกมาร่วมงานด้วย สำหรับในส่วนของการลงทุน บริษัทมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในอีก 2-3 สตาร์ทอัพจากทั้งในและต่างประเทศในปีนี้