บริษัท เฟโล ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของอุปกรณ์ส่องสว่างแบรนด์ “ซีลวาเนีย” ซึ่งพัฒนาทั้งระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมไปถึงบริการดิจิตอล ที่จะช่วยให้ชีวิตของเราง่าย สะดวกสบายและปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมสู่การใช้ชีวิตในยุค Smart City ด้วยคอนเซ็ปต์ Smart Light Smart Life
อาทิ นวัตกรรมที่ซีลวาเนียเรียกว่า “Smart Pole” ซึ่งเปรียบเสมือนเสาไฟอัจฉริยะที่รวมทุกเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน เช่น อุปกรณ์ส่องสว่าง EV Charger หรือ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ทำหน้าที่เป็นตัวชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ตัวส่งสัญญาณ WIFI กล้องวงจรปิดพร้อมตรวจสอบระบบการจราจรและความปลอดภัย แสดงผลผ่านจออัจฉริยะของเสา Smart Pole ของซีลวาเนีย นอกจากนั้นก็ยังมีอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่น่าจับตามองของแบรนด์ซีลวาเนีย ซึ่งเรียกว่า ToLEDo 360 View Cam เป็นหลอดไฟอัจฉริยะ ที่รวมหลอดไฟส่องสว่างและกล้องวงจรปิด CCTV ไว้ด้วยกัน สามารถจับภาพได้อย่างแนบเนียน คมชัดแบบ 360 องศาเลยทีเดียว
และที่สำคัญ ภายในงานยังได้เปิดตัว 4 ผู้บริหารคนสำคัญ ได้แก่ Mr.Davis Yin : General Manager of Feilo Investment , Mr.Patrick Zhang : Deputy General Manager of Feilo Investment, Mr.Walter Hiew : SEA General Manager of Feilo Sylvania และนายปูมเทพ มาลากุล ณ อยุธยา Country Manager Thailand บริษัท เฟโล ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้แสดงวิสัยทัศน์และแนวทางในการขับเคลื่อนซีลวาเนีย ให้เป็นผลิตภัณฑ์อัจฉริยะสำหรับ Smart City อย่างแท้จริง
Mr.Davis Yin : General Manager of Feilo Investment กล่าวว่า “กรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่ใหญ่มากอีกเมืองหนึ่งของกลุ่มประเทศ SEA ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วมากโดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ที่สำคัญเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยมีเยอะมาก ไม่ใช่แค่เฉพาะกรุงเทพฯ เท่านั้น นักท่องเที่ยวจึงให้ความสนใจมาเที่ยวที่ประเทศไทยมาก เศรษฐกิจของประเทศจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เหตุผลนี้จึงทำให้เป็นประเทศไทยเป็นอีกหนึ่ง
ประเทศที่น่าเข้ามาลงทุน ต้องถือว่าเป็นความโชคดีที่ซีลวาเนียได้เข้ามาทำการตลาดที่ประเทศไทยมากว่า 20 ปี จึงมีฐานลูกค้าอยู่มากพอสมควร แต่สิ่งที่เราจะพัฒนาแบรนด์ซีลวาเนียเพิ่มเติมก็คือการนำนวัตกรรมใหม่ๆมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้ทันสมัยและตอบรับการใช้ชีวิตในยุค Smart City เราเริ่มต้นพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะของแบรนด์ซีลวาเนียในประเทศจีน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี และตอนนี้ได้เริ่มนำไปใช้ที่มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และในวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำความรู้และเทคโนยีเหล่านี้มาใช้และพัฒนาร่วมกับประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะของซีลวาเนียที่เราคิดค้นขึ้นมา จะช่วยให้ชีวิตของทุกคนสะดวกสบายปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น และพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในยุค Smart City ด้วยคอนเซ็ปต์ Smart Light Smart Life”
สำหรับนวัตกรรมใหม่ๆ ของแบรนด์ซีลวาเนีย นอกจาก “Smart Pole” ซึ่งเปรียบเสมือนเสาไฟอัจฉริยะที่รวมทุกเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน และ ToLEDo 360 View Cam เป็นหลอดไฟอัจฉริยะที่ผสานอุปกรณ์ส่องสว่างและกล้องวงจรปิด CCTV ที่คมชัดแบบ 360 องศาแล้ว ก็ยังมี หลอดไฟ LED แบบใหม่ที่เรียกว่า Stik Pro ที่มีรูปทรงเพรียวบาง กะทัดรัด สามารถใช้งานร่วมกับโคมได้หลากหลายประเภท ที่สำคัญให้แสงสว่างมากขึ้นและมุมแสงกว้างขึ้นถึง 240 องศา ทำให้ถนอมสายตาและรู้สึกสบายสายตาเวลาใช้งาน รวมไปถึงหลอดไฟ LED ที่เรียกว่าToLEDo Switch CCT ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีได้ 3 สี วอร์มไวท์, เดย์ไลท์, คูลไวท์ โดยใช้สวิสต์เปิด-ปิดไฟทั่วไป
ทั้งหมดนี้นั้น Mr.Patrick Zhang : Deputy General Manager of Feilo Investment ซึ่งดูแลในส่วนของการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้กล่าวว่า “เป้าหมายของเราก็คือการพัฒนาอุปกรณ์ส่องสว่างแบรนด์ซีลวาเนีย ให้เป็นมากกว่าแค่อุปกรณ์ส่องสว่าง นั่นหมายความว่า เราต้องนำเรื่องนวัตกรรมเข้ามาเป็นหลักในพัฒนา ซึ่งก็คือการพัฒนาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในยุค Smart Life ที่ทำงานได้อย่างอัจฉริยะ รวดเร็วและประหยัดพลังงาน ควบคุมการทำงานด้วยสมาร์ทโฟน สั่งงานอัตโนมัติจากปลายทางคือผู้ใช้งานด้วยแอพพลิเคชั่นบนมือถือ สิ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของโลกอนาคตที่ทั่วโลกกำลังสร้างเมืองอัจฉริยะขึ้นมาหรือ Smart City ซึ่งที่ประเทศไทยก็เช่นกัน ซึ่งซีลวาเนียก็พร้อมที่จะร่วมกับทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศไทย ในการบริการด้านดิจิตอลสร้างระบบมาตรฐานให้ Smart City ทั้งแอพพลิเคชั่น WIFI การแจ้งเตือนเรื่องการจราจร สภาพอากาศ การเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวไปจนถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค”
Mr.Walter Hiew : SEA General Manager of Feilo Sylvania กล่าวถึงการบริหารประเทศต่างๆใน SEA ซึ่งรวมถึงประเทศไทยว่า “สำหรับประเทศในกลุ่ม SEA เราจะใช้หลักในการบริหารและการตลาดที่คล้ายคลึงกันได้ในบางส่วน แต่จะต้องดูที่รูปแบบการปกครองหรือกฎระเบียบของรัฐบาลของแต่ละประเทศซึ่งแตกต่างกัน โดยสำหรับภูมิภาคนี้ทางบริษัทฯ ตั้งศูนย์การบริหารอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ทั้งในส่วนของ HR และ Product & Marketing ซึ่งก็ไม่ห่างไกลจากประเทศไทย ดังนั้นเชื่อมั่นว่าทุกประเทศในกลุ่ม SEA จะทำงานสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันและช่วยเหลือกันได้อย่างแน่นอน”
ทางด้าน นายปูมเทพ มาลากุล ณ อยุธยา Country Manager Thailand บริษัท เฟโล ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์ส่องสว่างในประเทศไทยว่า “แบรนด์ซีลวาเนียอยู่ในประเทศไทยมากว่า 20 ปี ช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาด มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนมากจากเดิมแหล่งขายส่งขนาดใหญ่ ถือเป็น 80% ของตลาด แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นช่องทางการค้าปลีกหรือโมเดิร์นเทรดและ DIY มากขึ้น ซึ่งมากกว่า 50% ของตลาดทั้งหมด เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ จากเดิมที่ผู้บริโภคใช้หลอดไฟหลายประเภท ทั้งหลอดไส้ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ฮาโลเจน โคมไฟ HID แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นหลอด LED เกือบทั้งหมด เพื่อให้ง่ายและสะดวกสบายกับการใช้ชีวิต”
นวัตกรรมใหม่ที่นายปูมเทพ ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานอย่างชาญฉลาดในเมืองอัจฉริยะ สำหรับโครงการ Smart City ในประเทศไทยระยะแรก มีทั้งหมด 7 เมืองด้วยกัน ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น ชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทรา “ซีลวาเนียพยายามนำเสนอโมเดลที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ อย่างชลบุรี ก็นำเสนอนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์กับการท่องเที่ยว รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น และการประหยัดพลังงาน ถือเป็นเรื่องดี ที่ Feilo Investment ได้เข้ามากำหนดนโยบายของแบรนด์ซีลวาเนียในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีนมาปรับใช้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นต่างๆ ที่เหมาะสมกับประเทศไทยต่อไป เพื่อการใช้ชีวิตในยุค Smart City ตามคอนเซ็ปต์ Smart Light Smart Life และในวันนี้เรายังได้เปิดตัวเว็บไซต์ www.feilosylvania.co.th ซึ่งเป็นช่องทางการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆของผลิตภัณฑ์ซีลวาเนีย รวมถึงเป็นช่องทางใหม่ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถึงผู้บริโภคโดยตรงอีกด้วย” นายปูมเทพ มาลากุล ณ อยุธยา Country Manager Thailand บริษัท เฟโล ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวสรุป