จากหลายต่อหลายวิดีโอของ CEO ผู้ทรงอิทธิพลของโลกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Min-Liang Tan จนไปถึง Elon Musk แต่จากสถิติกลับพบว่า ไม่มีใครที่ได้รับความสนใจได้มากเท่า Jack Ma เลย
เหตุผลที่เห็นได้ชัดก็คือ เขารวยและมีชื่อเสียง แต่ยังมีเหตุผลอื่น… ในเมื่อ CEO จาก Tech Company ทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่รวยและมีชื่อเสียงกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Elon Musk, Mark Zuckerberg, Lei Jun และคนอื่นๆ อีกมากมาย แต่ไม่มีวิดีโอของใครดีเทียบเท่า Jack Ma
ความจริงแล้วเมื่อเขาพูดในที่สาธารณะ Jack Ma ทำบางอย่างที่ไม่ค่อยมี CEO คนไหนเขาทำกัน ผู้บริหารส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้ขึ้นเวทีใหญ่บ่อยครั้งเหมือน Jack Ma แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถเรียนรู้จากวิธีการนำเสนอของเขาได้ เอาละ เรามาดูจุดเด่น 6 ประการของเขากัน…
1. ช้าๆ และ ชัดๆ
หากคุณดูวิธีการพูดภาษาอังกฤษของ Jack Ma แล้ว คุณจะพบว่าเขาพูดอย่างช้าและรอบครอบ ด้วยการหยุดหลายจังหวะ นั่นเป็นผลข้างเคียงของการพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง แต่ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ในการพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น เพราะเมื่อเขาพูดต่อสาธารณะในภาษาจีน เขาก็ยังคงพูดด้วยสไตล์แบบนี้อีกเช่นกัน
สไตล์การพูดของ Jack Ma ถูกฝึกฝนเพื่อให้คนดูมีความเข้าใจมากที่สุด เขาพูดช้าๆ เพื่อที่ให้ทุกคนที่ฟังได้ตามทัน เขาหยุดบ่อยๆ หลังจุดเน้นย้ำเพื่อที่จะให้เวลากับคนฟังให้ได้คิดในสิ่งที่เขาได้พึ่งพูดออกไป และบ่อยครั้งที่เขาจะใช้ภาษาง่ายๆ และปราศจากคำศัพท์เทคนิคของเฉพาะวงการเทคโนโลยี ที่ผู้บริหารคนอื่นชอบทำกัน
เป็นผลทำให้เกือบจะทุกคน แม้ว่าคนนั้นจะไม่ได้ทำงานในสายเทคโนโลยีและไม่ได้มีความคิดแบบผู้บริหารก็ตาม สามารถฟังสุนทรพจน์ที่ Jack Ma พูดและเข้าใจสิ่งที่เขาพูดได้ คุณจะไม่ได้ยินเขาพูดเกี่ยวกับเทคโนลียีขั้นสูงของ Alibaba นั่นเพราะเขาบอกเองว่าเขาก็ไม่ได้เข้าใจคอมพิวเตอร์มากก็ตาม แต่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าการพูดของเขาถูกออกแบบเพื่อที่จะให้คนหลายคนได้เข้าใจ
หรืออีกนัยยะหนึ่งคือ Keep it simple, stupid
2. ใช้การพูดซ้ำเพื่อการเน้นย้ำ
เทคนิคการพูดซ้ำเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ Jack Ma ใช้บ่อย จากวิดีโอที่พูดเกี่ยวกับรับสมัครงาน เขาได้พูดถึงคนที่ดีที่สุดคือคนที่รู้จักเรียนรู้ด้วยตัวเอง และประโยคต่อมา เขาก็พูดซ้ำอีกครั้งแต่ด้วยประโยคที่ต่างจากเดิมเล็กน้อย
https://www.youtube.com/watch?v=P1A5JUgSW9Y
การซ้ำประโยคไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นความตั้งใจในการพูดต่างหาก ด้วยการพูดสารซ้ำในรูปแบบประโยคที่ต่างกันเล็กน้อย เขาก็ได้ตอกย้ำสิ่งที่พูดให้คนฟังจำได้ เป็นการเน้นย้ำความสำคัญและการให้เวลาคนฟังทำความเข้าใจไปกับสิ่งที่สื่อสารออกไปด้วย
แต่เทคนิคนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้ทุกประโยคของการพูด แต่เลือกประโยคที่สำคัญเท่านั้นก็พอ ข้อสำคัญของการพูดซ้ำอีกครั้งคือการเน้นย้ำและให้เวลาคนฟังทำความเข้าใจก่อนที่จะพูดประเด็นต่อไป
3. ตลกบ้างก็ได้นะ
คุณอาจจะรับรู้ถึงความตลกขบขันเล็กๆ ในการพูดของ Jack Ma เขาชอบที่จะเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับตัวของเขาเอง หรือบ่อยครั้งของการเข้าใจเทคโนโลยีอันน้อยนิดของเขา
การหัวเราะทำให้คนรู้สึกดี และการได้ฟังเรื่องราวตลกขบขันของ Jack Ma ช่วยทำให้คนเชื่อมต่อกับเขามากขึ้น มันทำให้เขาเป็นคนคนหนึ่ง ที่เหมือนๆ กับทุกคน มากกว่าเป็นเศรษฐีพันล้าน
แต่เรื่องตลกอาจเป็นดาบสองคมก็ได้ และอย่าทำให้มันกลายเป็นเดี่ยวไมโครโฟนไปซะละ แต่การเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับเรื่องของตัวเอง เน้นย้ำความผิดของตัวเอง สามารถทำให้เชื่อมโยงกับคนดูได้อย่างรวดเร็ว
4. ภาษามือ ภาษากาย
หากคุณปิดเสียงเมื่อดูวิดีโอของ Jack Ma จะพบว่า ส่วนใหญ่หรือถ้าเป็นไปได้เขาไม่ค่อยพูดหลังโพเดี้ยมเท่าใดนัก ตลอดเวลาของการกล่าวสุนทรพจน์ เขาจะเดินไปรอบๆ เวที ทำสีหน้าต่างๆ เพื่อที่จะเน้นย้ำความสำคัญของข้อความนั้น เมื่อเขานั่งคุยก็จะมีการโบกไม้โบกมือไปมาบ้าง เขาใช้ร่างกายร่วมด้วยในการพูดของเขา
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับวิธีการพูดของ Elon Musk จะพบว่า Musk ไม่มีภาษากายเท่าไหร่ มีแค่การเปลี่ยนวิธีการกุมมือเล็กน้อยเท่านั้น
5. ใช้การเปรียบเทียบ
ไม่ว่าจะเทคโนโลยีหรือธุรกิจล้วนเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อน และก็ยากไปอีกเมื่อต้องพูดเกี่ยวกับธุรกิจเทคโนโลยีให้เข้าใจได้ง่าย แน่นอน Jack Ma หลีกเลี่ยงการพูดถึงระบบ Cloud หรือเรื่องที่ซับซ้อนอย่าง Deep Learning แต่กลับใช้การเปรียบเทียบแทน เช่น เขาทำการเปรียบเทียบการจ้างคนที่มีความสามารถมากเกินกว่าที่ต้องการเหมือนกับเอาเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ทมาติดให้กับรถไถนา
การเปรียบเทียบนี้มี 2 จุดประสงค์ นั่นก็คือทั้งจดจำได้ง่ายและตลกขบขัน มันไม่เพียงแค่ทำให้คนจดจำคำพูดนี้ได้ แต่ยังทำให้คนเข้าใจว่าการจ้างคนที่มีความสามารถมากเกินไปไม่ได้ตรงไหน เพราะมันน่าจะดีมากซะด้วยซ้ำไป การอธิบายเรื่องยากด้วยการเปรียบเทียบ ว่าเหมือนกับติดเครื่องยนต์เครื่องบินเจ็ทกับรถไถนากลับทำให้คนเข้าใจได้ทันที เทคนิคนี้ Jack Ma อาจจะได้มากจากช่วงที่เขายังเป็นครูอยู่นั่นเอง
6. มีจุดยืนชัดเจน
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะได้จากการฟังการพูดของ Jack Ma คือเขาจะไม่พูดจาวกไปวนมา เขาชอบใช้การพูดที่ตรงไปตรงมา ใช่คือใช่ ไม่ก็คือไม่ และเขาประกาศจุดยืนออกมาอย่างโต้งๆ เช่น เขาพูดออกมาอย่างโต้งๆ ว่า คนที่ชอบบ่นนั้นเป็นคนโง่ แล้วก็ยังล้อเลียนคนที่ชอบ คอมเพลนท์ ให้กลับบ้านไปซะ แม้ว่ามันอาจจะฟังดูห้วนและไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่หลังจากนั้นเขาก็ใช้โทนเสียงที่อ่อนลง ว่าบางครั้งเขาเองก็คอมเพลนท์เหมือนกัน
การพูดออกไปโต้งๆ แบบนี้เป็นเรื่องดีที่จะได้ขึ้นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง แม้จะไม่ได้อยู่บนหน้าหนึ่ง แต่อย่างน้อยคนฟังก็จะหันมาสนใจคุณทันที การพูดแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องดีหรือเรื่องเลวร้าย เพราะโลกนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สีดำหรือสีขาวเท่านั้น และการมีจุดยืนด้านใดด้านหนึ่งคือส่วนที่มีการถกเถียงมากที่สุดสำหรับวิวาทะทางการเมืองในหลายประเทศ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การมีความคิดเป็นหนึ่งเดียวดีกว่าความคิดที่กลับไปกลับมาแน่นอน และคุณจะได้ยินบ่อยๆ จาก Jack Ma ว่าให้ทำสิ่งนั้น ไม่ให้ทำสิ่งนี้ มากกว่าการให้ตัวเลือกว่าจะทำอะไรได้บ้าง