ขึ้นแท่นผู้บริหารหญิงมากความสามารถได้อย่างฉลุย ทั้งความสามารถ ไหวพริบ พ่วงด้วยความสวยสำหรับ“ภคมน ตุลยาพิศิษฐ์ชัย”ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายดิจิทัล และสื่อสารการตลาดบริษัท เงินติดล้อ จำกัดที่ดูแลครบวงจร 360 องศา ตั้งแต่สาขาไปจนออนไลน์ รวมถึงภาพลักษณ์การสื่อสารภายในองค์กร, การสร้างแบรนด์, UX และ CX เพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากเงินติดล้อบริษัทสินเชื่อทะเบียนรถอันดับต้นๆ ของประเทศ
ภคมน บอกว่า“กว่าจะถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะธุรกิจสินเชื่อเป็นการบริการทางการเงิน ดังนั้นเราจึงต้องสื่อสารข้อมูลออกไปให้ชัดเจนทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือและไว้ใจ จึงได้นำเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ปรับไปตามพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อให้เกิดภาพจำของเงินติดล้อในแบบที่เราอยากให้เป็นโดยยังคงโฟกัสที่กลุ่มลูกค้าของเราเป็นหลัก ให้ได้รับบริการทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใส เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจที่เราทำอยู่ก็มีส่วนช่วยให้ลูกค้าของเรามีชีวิตที่หมุนต่อได้ และมีส่วนช่วยเหลือสังคมคนไทยอีกด้วย”
หากพูดถึงแนวคิดของการทำงานสิ่งสำคัญที่คิดเสมอคือ“คิดว่าตัวเราเองเป็นเจ้าของบริษัทที่เราทำอยู่ ดังนั้นเวลาที่เราเห็นว่าอะไรทำแล้วดีกับองค์กร หรือมองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ เราจะลงมือทำ และพยายามทำให้ดีที่สุดในมุมมองของทั้งองค์กรและลูกค้า ซึ่งทำให้เวลาที่เราทำงาน ไม่ว่าจะทำกับทีมงาน หรือทำกับเพื่อนร่วมงาน ทุกคนจะรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่น และพลังงานที่มีอยู่ในตัว เพราะคนรอบข้าง ๆ เราจะชอบบอกว่า อยู่กับเราแล้วรู้สึกมีพลัง! จริง ๆ เคยได้ทำแบบทดสอบ StrengthsFinder™ ของ Gallup ซึ่งคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นของตัวเราคือ Futuristic, Ideation, Relator, Strategic และ Arranger ตามลำดับ ซึ่งพอย้อนกลับมาดูตัวเอง ก็ค่อนข้างที่จะตรงตามนั้น”
นอกจากเวลางานแล้ว เวลาส่วนตัวต้อง relax“ถ้ามีโอกาสหยุดยาวก็จะเดินทางไปที่ใหม่ ๆ ไปถ่ายรูป เพราะชอบถ่ายรูปมาก รู้สึกว่า สิ่งที่สวยที่สุดบนโลกนี้ คือสิ่งที่ธรรมชาติให้มาแต่ถ้าเป็นวันว่างโดยทั่วไป จะดูหนัง ดูซีรีย์ เพราะรู้สึกว่าได้ผ่อนคลายจริงๆ โดยปกติเป็นคนที่ชอบดูหนังมากชอบดูในโรงหนัง เพราะได้บรรยากาศดีชอบหนังแนวMarvel, Animation, Drama โดยเฉพาะถ้าสร้างจากเรื่องจริง ดูตั้งแต่ เนื้อหาว่าพล๊อตเรื่องเป็นยังไง กับวีธีการถ่ายทำ จนไปถึงผู้กำกับ และคนเล่น ซึ่งหนังทุกเรื่องส่วนใหญ่จะมีข้อคิดดี ๆ ให้เราอยู่เสมอ อยู่ที่เราต้องหยิบแนวคิดนั้นมาปรับใช้แล้วแต่สถานการณ์ค่ะ”
ทั้งนี้ได้เกิดแนวคิดการตลาดรูปแบบใหม่และไม่เคยทำมาก่อน กับการเข้ามาสนับสนุนภาพยนตร์ไทย เรื่อง “ไบค์แมนน์ ศักรินทร์ตูดหมึก”ของค่ายหนังเอ็มพิกเจอร์ และมีการถ่ายทอดแบรนด์เงินติดล้อผ่านเรื่องราวในภาพยนตร์อย่างสร้างสรรค์ “ที่ผ่านมาเงินติดล้อเน้นไปที่การสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์, สื่อสาขา และสื่อออนไลน์ เป็นหลักแต่ถ้าเป็นการร่วมงานกับภาพยนตร์โดยตรงแบบนี้เลยถือว่าเป็นครั้งแรกต้องขอบคุณทางเอ็มพิกเจอร์ที่นึกถึงเงินติดล้อเพราะ เรื่อง“ไบค์แมนน์ ศักรินทร์ตูดหมึก” ตัวเอกของเรื่องคือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งเป็นตัวแทนของลูกค้าเงินติดล้อ มันคือInsight ของเขาจริงๆ ที่นำมาถ่ายทอดผ่านหนัง ทั้งปัญหาชีวิต ทางเลือกการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โอกาส ความคิดและมุมมองการใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ ซึ่งเรามองว่ามันจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนในสังคมจะได้เห็นและเข้าใจคนกลุ่มนี้มากขึ้นทำอาชีพอิสระไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอนไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ นั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าถึงสินเชื่อผ่านทางธนาคาร คล้ายกับเหตุการณ์ที่ตัวเอกของเรื่องเจอ แต่เงินติดล้อเองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเขาเราเลยอยากสื่อสารให้คนกลุ่มนี้ที่ยังไม่เคยทราบ ได้ทราบว่าเขามีทางเลือกในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีมาตรฐาน เป็นธรรม และโปรงใสทำให้ชีวิตของเขาหมุนต่อได้ โดยภาพยนตร์เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถสื่อไปได้ถึงคนวงกว้าง เพราะคนไทยชอบดูหนังอยู่แล้ว และวงการหนังพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา มีหนังดี ๆ ของคนไทยออกมามากมาย และแทบทุกเรื่องก็ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี อยากให้คนพูดถึงหนังไทยว่าเป็นหนังที่เนื้อหาดีมาก ทั้งสนุก ทั้งซึ้ง และได้ข้อคิดดี ๆ อย่างภาพยนตร์เรื่อง“ไบค์แมนน์ ศักรินทร์ตูดหมึก”นี้ค่ะ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดี อาชีพที่สุจริต คืออาชีพที่ทุกควรจะภูมิใจ เราเลยอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบอกเล่าเรื่องนี้ด้วยค่ะ”
และสุดท้าย“สิ่งที่ลูกค้าของเราอยากได้ด้วยเช่นกันซึ่งคงจะได้เห็น “เงินติดล้อ” ในมุมที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าของเรา เห็นถึงความตั้งใจที่เรามีต่อคนไทย และอยากให้ชีวิตเค้าหมุนต่อได้ค่ะ”