สมิติเวช ชูความเป็นเลิศในทุกมิติ คว้ารางวัลโรงพยาบาลที่มีการพัฒนาก้าวไกลที่สุดในประเทศ จากเวที รางวัลระดับนานาชาติ Asian Hospital Management Awards (AHMA) เดินหน้าเป็นองค์กรแห่งคุณค่าด้วยแนวคิด “เราไม่อยากให้ใครป่วย” ใช้นวัตกรรมให้ผู้รับบริการ รู้เท่าทัน–สกัดกั้น–วางแผน เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแบบองค์รวม
นายแพทย์ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า การได้รับรางวัล เป็นโรงพยาบาลที่มีการพัฒนาก้าวไกลที่สุดในประเทศ (The Most Improved Hospital in Thailand) จาก Asian Hospital Management Awards (AHMA) ก็ด้วยผลงานการบรรลุวิสัยทัศน์องค์กรในการเป็น “Hospital of Choice” โรงพยาบาลที่สามารถครองใจผู้ที่มีส่วนร่วมทำให้องค์กรเจริญเติบโตในทุกด้าน (Stakeholder) รวมทั้งแนวคิดการสร้างคุณค่าต่อผู้รับบริการ สังคมและประเทศด้วยคอนเซปต์ #เราไม่อยากให้ใครป่วย
การบรรลุวิสัยทัศน์ เป็นองค์กรที่ครองใจและเป็นที่ไว้วางใจของทุก Stakeholder อันประกอบด้วย 1.ผู้รับบริการ 2.แพทย์ 3.เจ้าหน้าที่ 4.สังคม และ 5.ผู้ถือหุ้น เป็นผลมาจากการบรรลุดัชนีชี้วัดต่างๆ อันได้แก่
- ด้านผู้รับบริการ
- คะแนนการแนะนำคนรู้จักและผู้อื่นให้มาใช้บริการสมิติเวช (Net Promoter Score) สูงถึง 96% จากเดิม 80% เท่านั้น
- คะแนนความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้รับบริการ Empathic score สูงถึง 85 จากเดิม 4.16
- ด้านเจ้าหน้าที่องค์กร
- คะแนนความสุขที่ได้มาอยู่ร่วมกับองค์กรสมิติเวชสูงถึง 81% จากเดิม 65% โดยมาตรฐานการชี้วัดคะแนนความสุขสากลอยู่ที่ 65%
- รวมถึงการสนองต่อความต้องการของชุมชนด้วยการทำ CSR อย่างต่อเนื่อง และการตอบโจทย์ผู้ถือหุ้น ซึ่งให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นทุกปี
ในด้านการสร้างคุณค่าต่อผู้รับบริการ สังคม และประเทศชาติ นายแพทย์ชัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงจุดประสงค์ของแนวคิดนี้ อันสืบเนื่องมาจากปัญหาของผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานทั้งกายและใจ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้นทุกปี อีกทั้งเมื่อผู้ป่วยมีจำนวนมากขึ้น ย่อมส่งผลต่อ GDP (Gross Domestic Product) ของประเทศซึ่งกระทบต่อการพยุงเศรษฐกิจชาติ
ทำให้กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช ปรับ Business Model ใหม่ด้วยแคมเปญ #เราไม่อยากให้ใครป่วย โดยนอกจากการรักษาของสมิติเวชที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น World’s Best Hospital แล้ว เราปรับจุดเปลี่ยน สู่การสกัดกั้นไม่ให้เกิดโรคทั้งในปัจจุบันและในอนาคต รวมถึงการทำ Health Promotion เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแบบองค์รวม
นอกจากนี้ การใช้นวัตกรรมดูแลสุขภาพ Precision Medicine เทคโนโลยีตรวจวิเคราะห์ระดับยีนเฉพาะบุคคล สามารถเจาะลึกได้ทุกโรค เพื่อบ่งบอกความเสี่ยงการเกิดโรคได้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่ในครรภ์ สามารถสกัดกั้นโรคต่างๆ ตั้งแต่ก่อนคลอด หรือแรกเกิด ทำให้ทุกชีวิตเกิดมาอย่างมีคุณภาพและปลอดโรคตั้งแต่เริ่มแรก
เพราะ #เราไม่อยากให้ใครป่วย นวัตกรรมและเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพต่างๆ ข้างต้นจึงมุ่งเน้นให้ผู้คนไม่เจ็บป่วย อันจะช่วยลดความทุกข์ทรมานจากโรคที่เกิด ลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษา หรือ Healthcare cost โดยรวมลดลง ช่วยให้ GDP ของประเทศดีขึ้นเมื่อสุขภาพดีขึ้น และนี่คือการสร้าง “องค์กรแห่งคุณค่า” (Organization of Value) มากกว่าการเป็นแค่ องค์กรแห่งความสำเร็จ (Organization of Success)
นอกจากนี้ สมิติเวช ยังได้นำระบบดิจิทัลผนวกรวมกับการให้บริการทางการแพทย์ พัฒนาแอปพลิเคชัน “สมิติเวช พลัส” (Samitivej Plus) เพื่อสนองต่อปัญหาของผู้รับบริการในด้านการรอคอย โดยแอปพลิเคชันนี้สามารถลดการรอคอยในทุกขั้นตอนได้มากกว่าครึ่ง
ทั้งหมดนี้ คือ การพลิกมิติใหม่ของกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเก่าของประชาชน สร้างคุณค่าต่อชุมชน สังคม ประเทศชาติดังได้กล่าวข้างต้น