เทรนด์การอยู่อาศัยของคนยุคนี้ เลือกจะอยู่คอนโดมิเนียมมากกว่าการอยู่ในบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ ด้วยเหตุผลสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเพราะครอบครัวมีขนาดเล็กลง อยู่กันเฉลี่ย 1-2 คน จากอดีตหนึ่งครอบครัวอยู่กัน 3-4 คน การพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย โครงการคอนโดฯ จึงเกิดขึ้นเกาะแนวรถไฟฟ้าทุกสาย เพื่อเชื่อมโยงไปยังแหล่งการทำงานของคนส่วนใหญ่ ทั้งดีมานด์และซัพพลายที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญส่งผลต่อเทรนด์การอยู่อาศัยของคนในยุคปัจจุบัน และต่อเนื่องไปในอนาคต นี่เองจึงเป็นที่มาของการเพิ่มบริการใหม่ของ SB Furniture เพื่อรองรับเทรนด์คอนโดฯ โดยมีเหตุผลสำคัญดังนี้
ข้อแรก: 9 เดือนคอนโดฯ เปิดใหม่ 51,000 ยูนิต
ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการคอนโดฯ พบว่า ในช่วงปีที่ผ่านมามีจำนวน 93,683 ยูนิต ส่วนในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้มีจำนวน 44,789 ยูนิต หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จะพบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น 35.4% แสดงให้เห็นว่าคนเข้าอยู่อาศัยในโครงการคอนโดฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา คนก็ซื้อคอนโดฯ และเข้าอยู่กันปีละไม่ต่ำกว่า 70,000 ยูนิต
และหากมาดูจำนวนคอนโดฯ เปิดใหม่ในปีนี้ ใน 9 เดือนแรกก็มีจำนวนกว่า 51,000 ยูนิตแล้ว ส่วนปีที่แล้วก็มีโครงการเปิดใหม่ออกขาย 64,953 ยูนิต ส่วนบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ปีที่แล้วเปิดขายใหม่ 49,241 ยูนิต เฉพาะช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เปิดใหม่ 31,580 ยูนิต ดูตัวเลขแล้วน้อยกว่าคอนโดฯ แสดงให้เห็นว่าตลาดคอนโดฯ ยังถูกพัฒนาออกมาขายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคอนโดฯกว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและโอนได้ก็คงอีก 1-2 ปี ก็ตาม แต่ก็แสดงให้เห็นว่าในอนาคตจะมีคนเข้าอยู่คอนโดฯ มากขึ้น เป็นเทรนด์ที่ชัดเจนตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
ข้อสอง: เฟอร์นิเจอร์ โตตามธุรกิจอสังหาฯ
ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งอาศัยการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ ก็มองเห็นเทรนด์การอยู่อาศัยดังกล่าว จึงต้องปรับธุรกิจของตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่มีเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่เห็นชัดเจน คือ การออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานในห้องชุดของคอนโดฯ การดีไซน์มุ่งเน้นให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย และเน้นเพิ่มพื้นที่การใช้สอยในห้องให้คุ้มค่ามากที่สุด ทำให้เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะชิ้นเล็ก ตามขนาดและพื้นที่ของห้องชุดคอนโดฯ
แต่ด้วยความหลากหลายของรูปแบบห้อง ที่ดีเวลลอปเปอร์พัฒนาออกมาขายมากมาย ทำให้บางครั้งเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว อาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพราะลูกค้าแต่ละคนก็มีความชอบที่แตกต่างและหลายหลายไม่เหมือนกัน แค่มีสินค้าเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบมาให้เลือกอาจจะไม่เพียงพอ โดยเฉพาะลูกค้าที่ต้องการตกแต่งห้องชุดให้สวยเหมือนห้องตัวอย่าง หรือตามโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ ความต้องการเหล่านี้จึงเป็นตัวผลัก ให้ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จึงต้องเพิ่มบริการออกแบบห้องชุดคอนโดฯ ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้า ที่มีจำนวนมากขึ้นตามปริมาณห้องชุดที่ทำการโอกนกรรมสิทธิ์กันในแต่ละปีเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกแนวทางเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจมากขึ้น เพราะยอดขายต่อการออกแบบหนึ่งครั้ง สูงกว่าขายเฟอร์นิเจอร์เป็นชิ้นๆ หลายเท่าตัว
ข้อสาม: สัดส่วนยอดขายเฟอร์นิเจอร์สำหรับคอนโดพุ่ง ตามกระแสคอนโดฯ ปล่อยเช่า
เมื่อ 5 ปีก่อนหน้านี้ SB Furniture เริ่มให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าคอนโดฯ ด้วยการเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องชุดคอนโดฯ “condo fit” ซึ่งขณะนั้นสัดส่วนยอดขายลูกค้าอยู่ในคอนโดฯ ยังมีประมาณ 30% เท่านั้น แต่จากเทรนด์การอยู่อาศัยในคอนโดฯ เพิ่มมากขึ้น ทำให้สัดส่วนยอดขายสูงถึง 60-70% ขณะที่ยอดขายเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านเดี่ยว จากที่เคยมีสัดส่วน 60-70% ลดลงเหลือประมาณ 30% เป็นเทรนด์สวนทางกันระหว่างการอยู่อาศัยของบ้านและคอนโดฯ ซึ่งทางเอสบี เฟอร์นิเจอร์ มองว่าการอยู่อาศัยในคอนโดฯ กำลังเป็น “เมกะเทรนด์” สำหรับอนาคตเลยทีเดียว
เพราะไม่เพียงแต่การซื้อคอนโดฯ เพื่ออยู่อาศัยโดยเจ้าของเองแล้ว อีกเทรนด์หนึ่งที่กำลังเกิดขึ้น และเป็นอีกลุ่มลูกค้าที่กระตุ้นยอดขายเฟอร์นิเจอร์สำหรับคอนโดฯ คือ กลุ่มผู้ซื้อคอนโดฯ เพื่อปล่อยเช่า ซึ่งที่ผ่ามาก็มีเข้ามาซื้อบ้าง แต่ในปีนี้มีภาพชัดเจนขึ้น โดยเอสบี เฟอร์นิเจอร์ มีลูกค้ากลุ่มนี้ถึง 32% ของผู้ที่มาซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับคอนโดฯ จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้มีบริการ CONDO SOLUTIONS ออกมารองรับตลาดกลุ่มนี้ เพราะเทรนด์ของคนรุ่นใหม่และกลุ่มนักลงทุนในอสังหาฯ มีเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด ซึ่ง CONDO SOLUTIONS สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้ได้ด้วยการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ตามแบบในห้องตัวอย่างได้ภายใน 10 วัน ด้วยงบประมาณ 1.2 แสนบาท สำหรับห้องขนาดพื้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร
ข้อสี่: แก้ Pain Point ความยุ่งยากแต่งห้อง
เพราะว่าในความเป็นจริงการแต่งห้องคอนโดมิเนียมมีปัญหาเฉพาะอย่างที่ทำให้ลูกค้ามีความกังวลต่อปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการแต่งห้อง อาทิ ไม่รู้จะเริ่มตกแต่งห้องอย่างไร ไม่รู้ว่าจะต้องใช้งบประมาณเท่าไร มีความต้องการสินค้าที่มีดีไซน์ลงตัวกับห้องคอนโดฯ แต่ไม่รู้จะออกแบบอย่างไรให้เหมาะ มีปัญหาไม่รู้จะหาผู้รับเหมาได้ที่ไหน และความยุ่งยากในการควบคุมงานตกแต่ง เป็นต้น
ข้อห้า: คู่แข่งมี ต้องไล่กวด
หากมองดูคู่แข่งในตลาดตอนนี้ ไม่ว่าค่าย “อินเด็กซ์” หรือ “อิเกีย” ต่างก็มีบริการด้านการออกแบบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์เช่นกัน โดยเฉพาะ “อินเด็กซ์” ได้เปิดตัวทำตลาดและให้บริการใหม่ “ยูนีค บิลต์อิน 4.0 (Youniqe Built-in 4.0)” บริการออกแบบเฟอร์นิเจอร์รวมติดตั้งบิลต์อินครบวงจร ที่ใช้เวลาประมาณ 25-30 วัน เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าอยู่ในคอนโดฯ เช่นกัน ซึ่งกวาดยอดขายไปก่อนหน้านี้แล้ว
ด้วยเหตุผลที่ว่ามา จึงทำให้ เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เปิดแผนกธุรกิจใหม่ CONDO SOLUTIONS @ SB DESIGN SQUARE เพื่อให้บริการด้านการออกแบบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ สำหรับห้องชุดคอนโดฯ โดยเฉพาะ
สำหรับจุดเด่นของบริการ CONDO SOLUTIONS คือ การให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบจนห้องตกแต่งแล้วเสร็จ โดยมีสินค้าให้เลือกครบทุกอย่าง และมีช่างไว้คอยบริการครบ ไม่ต้องหาช่างภายนอก ที่สำคัญการบริการที่คิดขึ้นมา ต้องการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของลูกค้า อย่างเช่น ถ้าไม่มีไอเดียว่าจะแต่งห้องอย่างไร ก็มีห้องตัวอย่างจัดแสดงไว้ 6 แบบ และในเว็บไซต์อีกนับ 100 แบบ ซึ่งนำเอาแปลนห้องคอนโดฯ มาจากผู้ประกอบการชั้นทำแทบทุกบริษัท ลูกค้าอยากได้แบบไหนก็ทำได้เลย หรือการประเมินราคาค่าตกแต่งได้ทันที เป็นต้น ส่วนบริการอินทีเรีย ดีไซน์ ที่มีให้บริการก่อนหน้านี้ เป็นรูปแบบของการให้บริการออกแบบห้อง เพื่อใช้เป็นแบบการตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ และไม่ได้มีการบริการครบวงจรตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนจนตกแต่งห้องแล้วเสร็จ เพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้แล้ว นั่นหมายความว่าจะทำให้สามารถขายเฟอร์นิเจอร์ได้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง สำหรับเป้าหมายปีแรกเอสบี เฟอร์นิเจอร์ จะทำยอดขายจากบริการนี้ได้ถึง 300 ล้านบาท
คุณธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ ได้เล่าถึงทิศทางธุรกิจในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ว่า มีอัตราการขยายตัวเติบโตได้ที่ประมาณ 4-5% คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสร้างการเติบโตได้ 5% แต่หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลออกมาอาจจะเติบโตได้ถึง 10% ด้วยยอดขาย 7,800 ล้านบาท จากปี 2560 มีสามารถทำยอดขายได้ 7,200 ล้านบาท ส่วนในปี2562 บริษัทมีแผนเปิด “เอสบี ดีไซน์สแควร์” อีก 2 สาขา ด้วยงบลงทุน 900 ล้านบาท ได้แก่ สาขาเดอะมอลล์ บางแค พื้นที่ประมาณ 15,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท และสาขาพระราม 2 พื้นที่เกือบ 10,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 300 ตารางเมตร จากปัจจุบันมีทั้งหมด 12 สาขา