Pinkoi ตลาดนัดไอเดีย และดีไซน์ฝั่งเอเชีย ได้มาเปิดตลาดนัดหนแรกที่ไทย ริมน้ำเจ้าพระยาระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม นี้ เรียกได้ว่าเลือกสถานที่จัดงานได้น่าสนใจทีเดียว โดยจัดที่ล้ง 1919 สถานที่ที่รวมทั้งศิลปะและวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน ส่วนตัว Pinkoi เองก็ได้ดำเนินมาถึงเกือบ8 ปีแล้ว นับจากปี 2011 โดยเริ่มต้นจากที่ไต้หวัน ปฎิเสธไม่ได้ว่าไต้หวันเป็นหนึ่งในแหล่งดีไซน์ที่น่าสนใจของเอเชียเหนือ ปีนี้เลยทดลองขยายตลาดมาทางไทยบ้าง เพราะเห็นว่าชาวไทยเองก็สนใจงานดีไซน์ไม่น้อย รวมถึงดีไซเนอร์ชาวไทยในสาขาต่างๆก็เรียกว่าฝีมือไม่แพ้ชาติอื่นเลย
ที่ผ่านๆ มา Pinkoi ได้จัดงานตลาดนัดศิลปะและดีไซน์ในหลายประเทศแล้ว ไม่ว่าจะทั้งที่ ไต้หวันเอง ฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน หรือมาเลเซีย นอกจากนั้น Pinkoi ยังได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นขายงานของต้นด้วย
ภาพรวมของงานวันแรกนี้นับว่าน่าสนใจทีเดียว งานดีไซน์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานผ้า งานพิมพ์ผ้า ผ้าปักต่างๆ อย่างเช่น In Bloom สตูดิโอออกแบบผ้าพิมพ์โดยอิงจากความเป็นไต้หวันในแง่มุมต่างๆมาใส่ในลายผ้า เช่น ลายกระเบื้องเก่าที่พบได้ในบ้านชาวไต้หวันสมัยก่อน นกเฉพาะถิ่นของไต้หวัน หรือลายอาหารไต้หวันที่นับว่าเป็นหนึ่งในของเด่นเมื่อเราๆ ท่านๆ ไปเยี่ยมเยือน
คุณ Chiun-Yu Chiu หัวหน้าสตูดิโอ in-bloom จากไต้หวัน ฝากบอกว่าขอต้อนรับชาวไทย หากไปเที่ยวไทเป ตามไปเจอกันที่ร้านได้ในตลาดค้าผ้า แถบ Dadaocheng
ชิ้นงานผ้าพิมพ์ลายอาหารไต้หวัน พร้อมที่ใส่ช้อนและตะเกียบ ใช้เสร็จสามารถม้วน แล้วพกพาไปที่ต่างๆ ได้
Ui แบรนด์จิลเวรีจากญี่ปุ่น มาจากโอซาก้ากันเลยทีเดียว อาจจะเป็นความอินดี้หรือความขี้เล่นของชาวโอซาก้าก็ได้ ของที่ปกติขายเป็นคู่ สตูดิโอนี้ดันออกแบบมาให้ขายเป็นเดี่ยว โดยให้เหตุผลว่าหน้าคนเราสองข้างยังไม่เท่ากันเลย อาจจะมีด้านสวยหรือด้านเด่นต่างกัน ดังนั้น เราไม่ควรซื้อตุ้มหูที่ทั้งสองข้างเหมือนกัน ลองซื้อแยกซิ แล้วมามิกซ์แอนด์แมทช์กันเอง เปลี่ยนลุคได้ทุกวัน ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจตามสไตล์ความเป็นญี่ปุ่น โดยรับประกันว่าใส่แล้วไม่แพ้แน่นอน เนื่องจากตัวดีไซน์เนอร์เองผิวแพ้ง่ายเลยเข้าใจการเลือกวัสดุใช้งาน
หนุ่มฮาจากโอโซก้ามาเปิดบูธในงานนี้
Eye Candle สตูดิโอออกแบบเทียนแบบแมนๆ สองพี่น้องนักออกแบบชาวไต้หวันบอกว่า ที่ผ่านมารู้สึกว่า เทียนหอมดูเป็นเรื่องของผู้หญิง ทำให้ผู้ชายบางทีไม่กล้าซื้อหามาใช้ สองพี่น้องเลยใช้ความสามารถด้านการแกะสลักในการสร้างแม่พิมพ์เทียนต่างๆ เรียกได้ว่าฝีมือละเอียดเลยทีเดียว เช่น ชุดเทียนรูปสัตว์ต่าง รายละเอียดขนดูจริงและงานละเอียดมาก หรือสาวก Star War ไม่ควรพลาดกับเทียน Darth Vader และ Storm Trooper รวมไปถึง งานเซรามิค Storm Trooper
ข้ามมาฝั่งงานวาด งาน illustration บ้าง สาวน้อยจากเกาหลี กับบูธ Café and Hof ซึ่งเป็นงานวาดตัวเธอเองกับหมาน้อยพุดเดิ้ลสีน้ำตาลคู่หู ตอนแรกสาวน้อย Sarim Lee บอกว่าไม่กล้าทำออกมานักเพราะคิดว่าไม่น่าจะขายได้ ปรากฏว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าที่เกาหลีและมีฐานแฟนๆ FC จำนวนมากใน Pinkoi สาวน้อยSarim ว่าน่าจะเป็นเพราะการที่เธอจับจุดความเป็นเพื่อนคู่หูของน้องหมาก็เป็นได้ โดยเฉพาะน้องหมาพุดเดิ้ลสีน้ำตาลในเกาหลีไม่ค่อยเป็นที่นิยมเลี้ยงนัก ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาวกันหมด พอเป็นสีน้ำตาลเลยทำให้เกิดกลุ่มแฟนคลับพุดเดิ้ลสีน้ำตาลกล้าแสดงตัวขึ้นมา โดยไอเทมหลักขายดีของปีนี้ที่เกาหลีคือที่หูหิ้วผ้าใส่ถ้วยชาไข่มุก ที่เป็นสีน้ำตาลนั่นเอง เรียกว่าช่วยโลกร้อนแล้วยังมีดีไซน์อีกต่างหาก
สาวน้อย Sarim Lee กับไอเทมฮิตปีนี้ น้องหมาพุดเดิ้ลสีน้ำตาลใส่ไปควงคู่กับแก้วชาไข่มุก
ชิ้นงานวาดต่างๆ ของ Café and Hof
ปิดท้ายร้านที่อยากแนะนำอีกร้านคือ น้องพอลลี่ น้องบอกว่าต้องเขียนอย่างงี้เท่านั้น น้องพอลลี่อดีตวิศวกรไฟฟ้า สาวน้อยฮ่องกง หลังจากทดลองทำงานด้านวิศวะไปสองปี น้องพอลลี่คิดว่างานวิศวะคงไม่ใช่ทาง และค้นพบว่าอยากทำงานออกแบบมากเลย หลังจากนั้นลยเบนเข็มไปศึกษาเพิ่มเติมในด้านการออกแบบและฝึกงานตามสตูดิโอต่างในฮ่องกง พิเศษไปกว่านั้นน้องพอลลี่เลือกเรียนภาษาไทยเป็นวิชาเลือกพิเศษตอนปริญญาตรี และมีความสนใจมากเกี่ยวกับภาษาไทย เมื่อได้มาทำงานออกแบบเลยเอาสองสิ่งที่ชอบมาผลิตงาน นั่นคือภาษาไทยและผู้ชายมีเครา!!!น้องบอกว่าหลงใหลมากๆ ในทั้งสองสิ่ง
โดนงานของน้องพอลลี่จะมีหลากหลายแบบ มีทั้งภาพวาดสีอะคริลิคบนแผ่นไม้ งานสกรีนเสื้อ โปสการ์ด รวมไปถึงการเพ้นท์จาน ซึ่งน้องพอลลี่ได้ทดลองด้วยเทคนิคหลากหลายบนจานแต่ละชนิด สามารถไปเลือกชม หรือพูดคุยกับน้องพอลลี่ได้บูธ Ma Lut
นอกจากบูธสินค้าแล้วยังมี workshop ต่างๆ ของแต่ละสตูดิโอหมุนเวียนมาให้ความรู้พื้นฐาน สร้างชิ้นงานเล็กๆ น้อยๆ เอากลับบ้านเป็นของที่ระลึกได้ เช่น งานพิมพ์ผ้า งานทดลองทำเทียนหอม
เด็กๆ สามารถร่วมงานได้ ถือเป็นกิจกรรมครอบครัวที่ดีเลยทีเดียว
วันนี้วันสุดท้าย ถ้าใครว่างลองแวะไปดูได้ นอกจากหาซื้อสินค้าใช้เองแล้ว หากอยากติดต่อเป็นตัวแทนของแต่ละผลิตภัณฑ์ก็ได้ สามารถติดต่อโดยตรงที่แต่ละสตูดิโอได้เลย หากใครไปไม่ทันงานนี้ แล้วสนใจงานดีไซน์ต่างๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ pinkoi.com หรือแอพลิเคชั่นบนมือถืออีกทางหนึ่ง
Story : Khem C.