หนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทย มีทั้งโครงการที่อยู่อาศัยและธุรกิจโรงแรม แถมมีโรงแรมสวยๆ ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปพักผ่อนถ่ายรูปเก๋ๆ ลงโซเชียลมีเดีย คงต้องให้กลุ่มชาญอิสสระ ของคุณสงกรานต์ อิสสระ มีโรงแรมขึ้นชื่ออย่าง โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต โรงแรมบาบาบิช คลับ หัวหิน หรือโครงการทิวทะเลเอสเตท รูปแบบมิกซ์ยูสครบวงจร ทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม พูลวิลล่า ร้านอาหาร และพื้นที่จัดกิจกรรมอีเวนต์ ซึ่งราคาห้องพักของโรงแรมของกลุ่มชาญอิสระ ต้องยอมรับว่ามีราคาสูงสำหรับกลุ่มลูกค้าบางกลุ่ม
แต่ตลาดนักท่องเที่ยวยังเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตดี แถมมีขนาดใหญ่มีกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ กลุ่มชาญอิสสระจึงมองเห็นเป็นโอกาสในการต่อยอดเพิ่มรายได้กับกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว แม้ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนจะหดหายไปบ้างก็ตาม ซึ่งแผนธุรกิจในปี 2562 จึงเตรียมโปรเจ็กต์ขยายธุรกิจโรงแรมใหม่ และส่วนต่อขยายจากโครงการเดิม นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการด้านที่อยู่อาศัยอีกหลายโปรเจ็กต์ด้วยกัน
คุณสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เล่าว่า แผนการธุรกิจในปี 2562 บริษัทเตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงการใหม่ และโครงการส่วนต่อขยาย ประกอบด้วย 1.โครงการคอนโดมิเนียมหรูย่านถนนจันทร์ – สาทร มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท 2.ส่วนต่อขยายโรงแรมบาบา บีช คลับ หัวหิน เมนโฮเทล อาคารสูง 12 ชั้น จำนวน 50 ห้อง มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท 3.โครงการบ้านพักตากอากาศ พูลวิลล่า 7 หลังภายในโครงการทิวทะเลเอสเตท มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท 4.โครงการวาเคชั่น คลับ อาคารสูง 10 ชั้น 80 ยูนิต ภายในโครงการทิวทะเลเอสเตท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท 5.ส่วนต่อขยายของโรงแรม ศรีพันวา ภูเก็ต คอนเวนชั่นฮอลล์ขนาดจุ 400 คน พร้อมห้องพักแบบพูลสวีท จำนวน 20 ห้อง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท และ 6.โครงการบ้านพักตากอากาศ พูลวิลล่าอีกจำนวน 4 หลัง มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท
ไฮไลท์สำคัญที่น่าสนใจ คือ โปรเจ็กต์วาเคชั่นคลับ เป็นโครงการจำหน่ายบัตรที่พักในโรงแรมของกลุ่มชาญอิสสระ ด้วยราคาไม่ถึง 1 ล้านบาทตลอดระยะเวลา 20 ปี เป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจลักษณะไทม์แชร์ริ่ง ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อแพ็กเกจที่พักได้ในราคาที่กำหนด และใช้ได้ตามจำนวนครั้งที่ระบุไว้ ในโรงแรมในเครือ แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการกำหนดรายละเอียดทั้งหมด คาดว่าราคาเบื้องต้นอยู่ในระดับ 600,000-700,000 บาท ต่อระยะเวลาการใช้งานนาน 20 ปี แต่ยังไม่ได้กำหนดจำนวนครั้งเข้าพัก ซึ่งแพ็กเกจรูปแบบนี้จะทำให้ลูกค้าได้ราคาของห้องพักถูกกว่าการไปซื้อเป็นรายครั้งอย่างแน่นอน เบื้องต้นจะนำห้องพักจำนวน 72 ห้องของโรงแรมในเครือไม่ว่าจะเป็นโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต โรงแรม บาบา บีช คลับ ภูเก็ต และ โรงแรม บาบา บีช คลับหัวหิน เข้าร่วมนำโครงการก่อน
นอกจากโรงแรมในเครือที่สามารถเข้าพักได้แล้ว แต่ในช่วงไฮซีซั่นห้องพักอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า จึงได้เตรียมอาคารสูง 10 ชั้น 80 ยูนิต ภายในโครงการทิวทะเลเอสเตท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ไว้รองรับด้วย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2562 นอกจากนี้ในปีหน้าเราได้เจรจากับพันธมิตรในการพัฒนาปั้มน้ำมัน และแหล่งช้อปปิ้ง บริเวณด้านหน้า โครงการ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 20 ไร่ โดยจะแบ่งพื้นที่ดังกล่าวออกมาจำนวน 6 ไร่ ในการพัฒนาเติมเต็มรูปแบบความเป็นโครงการ Mixed Use ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
“ถือเป็นโปรเจคใหม่ที่น่าสนใจสำหรับการสร้างประสบการณ์การวางโปรแกรมการท่องเที่ยวยุคใหม่ และเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ ของการพัฒนาที่พักตากอากาศ สำหรับกลุ่มคนที่สนใจเป็นเจ้าของในงบประมาณที่ไม่ถึง 1 ล้านบาท แต่ได้พักในอาคารที่บริการระดับโรงแรม 5 ดาว”
นอกจากการพัฒนาโรงแรมในประเทศไทยแล้ว กลุ่มชาญอิสสระยังได้ไปทำธุรกิจที่ปรึกษา และบริหารงานโรงแรมที่ไฮหนาน มณฑล ยูนนานประเทศจีน กับกลุ่มจุนฟาเรียลเอสเตท ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 18,000 ล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้วกว่า 40 % ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนตุลาคม ปี 2562 และกลุ่มจุนฟาได้บริษัทเข้าไปดูพื้นที่และศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรงแรมต่อที่ สิบสองปันนา ประเทศจีน เพื่อลงทุนพัฒนาในปีหน้าอีกด้วย
ส่วนของโครงการทิวทะเลเอสเตท โครงการ Mixed Use เต็มรูปแบบแห่งแรกในหัวหิน ด้วยคอนเซปต์โครงการบ้านพักตากอากาศแบบครบวงจร ที่มีทั้ง คอนโดมิเนียม โรงแรม พูลวิลล่า ร้านอาหาร รวมถึงพื้นที่รองรับการจัดกิจกรรม อีเว้นท์ และงานสันทนาการต่างๆ ปัจจุบันมีโครงการแล้วเสร็จรวม 4 โครงการ ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียม ได้แก่ โครงการบ้านทิวทะเล อความารีน (Aquamarine) โครงการบ้านทิวทะเล บลูแซฟไฟร์ (Blue Sapphire) โครงการบลู (Blu) นอกจากนี้ยังมีโครงการ Baba Beach Club Hotel & Residences Hua Hin และ “บ้านโชค” ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศเก่าแก่ของตระกูลโชควัฒนา ในสไตล์หัวหินโคโลเนียล ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี ประกอบกับเราได้มีการทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีอีกด้วย