สำหรับเจ้าของธุรกิจค้าปลีกทั่วไป การเติบโตและขยายสาขาไปสู่ยุคดิจิทัลเป็นเรื่องน่าขยาดอยู่พอสมควร เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เริ่มมองหา – คาดหวังกับธุรกิจค้าปลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น การคาดหวังว่าธุรกิจค้าปลีกจะสามารถสร้างประสบการณ์ในร้านได้ดีและความสะดวกสบายต่างๆ พวกเขาจึงจะยอมควักเงินจ่าย ดังนั้นหากธุรกิจค้าปลีกไม่มีการเตรียมตัวในจุดนี้ ก็เสี่ยงที่จะถูกเมินจากผู้บริโภคได้โดยง่าย
แต่สำหรับ “นิวรีเทล” (New Retail) ธุรกิจค้าปลีกแนวคิดใหม่ของอาลีบาบาที่นำเสนอผ่านซูเปอร์มาร์เก็ต “เหอหม่าเฟรช” (Hema Fresh) ต้องบอกว่าเป็นหนังคนละม้วน เพราะ Hema Fresh เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตไฮเทคที่กำลังเติบโตและจะมีสาขาครบ 100 แห่งในเดือนธันวาคมนี้แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วมากจากปีก่อนหน้าที่เหอหม่ามีสาขาอยู่ราว 20 แห่งทั่วจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น
Hema Fresh ซุปเปอร์มาร์เก็ตไฮเทคนี้มีสินค้าหลากหลายทุกกลุ่มแคทิกอรี่อุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว ผักสด เหล้าไวน์ อาหารทะเลสดๆเป็นๆ ฯลฯ และยังมีมุมปรุงอาหารที่สามารถนำเอาอาหารหรือผักสดๆไปปรุงและรับประทานได้ทันทีในร้าน
สิ่งที่ Hema Fresh ทำได้ยังมีอีกหลายจุดที่น่าสนใจ และเข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการนำบาร์โค้ดมาประยุกต์ใช้กับสินค้าสดต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้ว่า ผักหรือผลไม้เหล่านี้มาจากแหล่งใด เป็นต้น รวมไปถึงบริการสั่งสินค้าผ่าน Mobile App ที่จัดส่งสินค้าภายใน 30 นาที (รัศมี 3 กิโลเมตรจากร้าน) และยังมีรางเลื่อนอัตโนมัติมาติดตั้งอยู่รอบตัวร้าน โดยรางเหล่านี้จะ “นำพา” อาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภคไปส่งให้พนักงานขับรถ และจัดส่งให้ถึงบ้านของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
มากไปกว่านั้น Hema Fresh ยังจัดเต็มในเรื่องประสบการณ์ภายในห้าง ด้วยการนำ “หุ่นยนต์” มาใช้ในการเสิร์ฟอาหารให้กับแขกแทนการใช้แรงงานคนด้วย โดยเหอหม่าในเซี่ยงไฮ้ตั้งชื่อภัตตาคารนี้ว่า Robot He ความพิเศษของมันก็คือ อาหารทุกจานที่ปรุงในร้านแห่งนี้ จะเสิร์ฟด้วยหุ่นยนต์เสมอ (หน้าตาหุ่นยนต์คล้าย ๆ กับกล่องพัสดุสีขาวขนาดใหญ่ มีฝาเปิดปิดได้ พ่อครัวจะนำอาหารที่ปรุงแล้ววางลงในตัวหุ่นยนต์แล้วปิดฝา จากนั้นหุ่นยนต์จะวิ่งไปยังโต๊ะที่สั่งอาหารนั้น ๆ ทันที ซึ่งในภาพของการให้บริการจริง จะพบว่ามีหุ่นยนต์ในลักษณะนี้วิ่งสวนกันไปมาบนรางเต็มไปหมด โดยที่พวกมันสามารถหลบหลีกกันและกันได้)
https://www.youtube.com/watch?v=8VqtLgr3Oj0
ส่วนการชำระเงินนั้น Hema Fresh มีช่องทางให้เลือกหลายช่องทาง ทั้งการสแกนใบหน้า การสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชันอาลีเพย์ หรือเถาเป่าก็ได้
Hou Yi ซีอีโอของ Hema Fresh เคยกล่าวสั้น ๆ ว่า
“Hema Fresh เป็นธุรกิจค้าปลีกรายแรกที่ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์พร้อมกัน”
หากพิจารณาคำกล่าวนี้ให้ดีจะพบว่า มันคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจค้าปลีกของอาลีบาบาประสบความสำเร็จในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นโลกยุคที่มีทั้งคนถนัดออนไลน์และคนถนัดออฟไลน์อาศัยอยู่ร่วมกันนั่นเอง และคำกล่าวนี้ยังแสดงให้เห็นว่า อาลีบาบาเลือกที่จะให้ผู้บริโภคมีช้อยส์ ว่าจะกดซื้อจากที่บ้านผ่านแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ และจ่ายเงินด้วยอาลีเพย์ จากนั้นก็รอสินค้ามาส่ง หรือจะเดินมาที่ Hema Fresh หยิบสินค้าที่ต้องการ จ่ายเงินด้วยอาลีเพย์ และบอกให้ส่งไปที่บ้านก็ได้เช่นกัน
กลยุทธ์ของอาลีบาบาไม่จบแค่นี้ เพราะพวกเขายังมี Data การจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าแต่ละราย อาลีบาบากำลังใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคจากออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ทีละน้อย ๆ ด้วยการให้แอปพลิเคชันเสนอรายการสินค้าที่ลูกค้าซื้อเป็นประจำ หากลูกค้ายืนยันคำสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน สินค้าทั้งหมดก็จะจัดส่งไปที่บ้านให้อย่างรวดเร็ว โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องเดินมาที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเลย
Hema Fresh มีแผนจะขยายเป็น 150 สาขาในปีหน้า และเติบโตสู่ 2,000 สาขาภายในปี 2566 ในจุดนี้จึงถือเป็นโอกาสดีของผู้ผลิตสินค้าจากไทยด้วย เพราะแว่ว ๆ ว่า กระทรวงพาณิชย์ของเรามีแผนจะดีลกับ Hema Fresh เพื่อจัดส่งสินค้าจากไทยไปขายถึง 3 รายการ ได้แก่ ผลไม้ อาหารทะเล และอาหารแปรรูปในเร็ว ๆ นี้นั่นเอง