HomePR News‘Hungry Hub’ ดันรายได้ 21 ล้านบาท ฮังกรี้ ฮับ แอปฯ สร้างรายได้ให้ร้านอาหารอาลาคาร์ทด้วยบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม [PR]

‘Hungry Hub’ ดันรายได้ 21 ล้านบาท ฮังกรี้ ฮับ แอปฯ สร้างรายได้ให้ร้านอาหารอาลาคาร์ทด้วยบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม [PR]

แชร์ :

Hungry Hub (ฮังกรี้ ฮับ) แอปพลิเคชั่นจองร้านอาหารด้วยข้อเสนอสุดคุ้ม คุมงบได้ ไม่เหมือนใครในเมืองไทย อิ่มอร่อยไม่อั้นแบบบุฟเฟ่ต์และเซ็ตเมนู (Set Menu Sharing) ที่ร้านอาหารแบบ a la carte (อาลาคาร์ท) นวัตกรรมใหม่แห่งการพลิกโฉมศักยภาพธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในกรุงเทพฯ สร้างทางเลือกสุดฉลาดด้วยแนวการรับประทานอาหารแบบได้ประโยชน์ทั้งนักชิมและผู้ประกอบการ “ออเดรย์ คาเฟ่” (Audrey Café) ร้านอาหารชื่อดังที่มี 8 สาขาในไทยและเป็นหนึ่งในร้านอาหารพันธมิตรของ Hungry Hub ที่เติบโตขึ้นในตลาดรับประทานอาหารนอกบ้าน (Dining-Out Market) เผยรายได้ประจำปีที่ เพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปัจจุบัน Hungry Hub มีผู้ใช้บริการจองโต๊ะร้านอาหารกว่า 280,000 คน และสร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท ให้กับร้านอาหารที่เข้าร่วมโดยมียอดค่าใช้จ่ายต่อการจองโต๊ะเฉลี่ย 2,100 บาท นับเป็นการเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนสูงขึ้นถึง 50% กับ 3 แพ็คเกจการรับประทานที่แตกต่างบนแอปพลิเคชั่นที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ All You Can Eat
โปรโมชั่นอิ่มอร่อยแบบไม่อั้นแบบบุฟเฟ่ต์เฉพาะร้านอาหารที่มีเมนูอาหารตามสั่ง หรือแบบ a la carte (อาลาคาร์ท) เท่านั้น Party Pack  แพ็คเกจที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งนำเสนอเมนูชุดพิเศษสำหรับกลุ่มนักรับประทานในร้านตั้งแต่ 2 – 4 คนขึ้นไป พร้อมส่วนลดอย่างน้อย 20% สำหรับร้านอาหารที่ไม่ค่อยมีส่วนลด และ Buffet Plus ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา กับข้อเสนอตัวเลือกเมนูพิเศษสำหรับลูกค้า Hungry Hub เท่านั้น และส่วนลดที่เพิ่มมากขึ้นจากโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ที่มีอยู่เดิมอีกด้วย

นายสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hungry Hub เน้นย้ำถึงเหตุผลของการเป็นแอปพลิเคชั่นจองร้านอาหารที่ดีที่สุดว่า “HungryHub ช่วยให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเข้าถึงโอกาสในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะการจองโต๊ะแบบกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นงานเฉลิมฉลองหรืองานเลี้ยงอาหารค่ำของบริษัท ซึ่งสามารถควบคุมงบประมาณได้ ขณะเดียวกันก็มั่นใจได้ว่า จะได้ร้านอาหารที่มีสถานที่ อาหาร และบรรยากาศเหมาะสมที่สุดโดยเราจะแนะนำร้านอาหารใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้บริการในขณะเดียวกันก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ
และเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย” ด้านร้านออเดรย์ คาเฟ่ เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่เป็นพันธมิตรกับ Hungry Hub มากว่า 2 ปี ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น โดยมีผู้ใช้บริการผ่านแอปฯ กว่า 60,000 คน ได้รับการแสดงความคิดเห็นกว่า 4,700 รีวิว ซึ่งมากกว่า Google และ Wongnai 4 – 5 เท่า ด้วยคะแนนที่สูงขึ้น 4.5/5

บีท-ชวิทย์ เสรีวัฒโนภาส ผู้อำนวยการบริษัท ออเดรย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าว่า “เราได้ทำงานร่วมกับ Hungry Hub มาเกือบ 2 ปีแล้ว และรู้สึกประทับใจกับจำนวนลูกค้าที่ได้รับ โดยเราได้ทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่า
จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าของเรา” การดำเนินงานของ Hungry Hub จะคิดค่าดำเนินการเพียงเล็กน้อยกับลูกค้าแต่ละรายเท่านั้น และจำกัดข้อเสนอแบบบุฟเฟ่ต์เพียง 10 – 15% ของที่นั่งทั้งหมดในร้านเท่านั้น สำหรับบุฟเฟ่ต์ Hungry Hub มีราคาเริ่มต้นเพียง 249 – 2,000 บาทต่อคน โดยทำงานร่วมกับร้านอาหาร 130 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ทั้งนี้ Hungry Hub มีผู้ใช้บริการกว่า 4,300 คน ต่อร้านอาหาร 1 แห่ง
สร้างรายได้ในหนึ่งเดือนให้แต่ละร้านถึง 1.9 ล้านบาท

เจฟฟรีย์ สปีลแมน ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพ และโรงแรมดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ หนึ่งในพันธมิตรที่เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กล่าวว่า “เราได้มีโอกาสร่วมงานกับ Hungry Hub โดยได้นำห้องอาหาร Scalini ที่โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท เข้าร่วมแคมเปญ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในตลาดและรักษาระดับค่าเฉลี่ยของเราไว้ ในขณะที่ยังช่วยให้มีโอกาสขายเพิ่มขึ้น Hungry Hub เป็นแอปฯ ที่ไม่ซ้ำแบบใคร มีสมาชิกหลากหลายและมีความสามารถในการใช้จ่าย" ปัจจุบัน Hungry Hub ดำเนินธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ นอกจากนี้ กำลังขยายธุรกิจไปยังเขตชายฝั่งตะวันออก (Eastern Seaboard) และเมืองอื่น ๆ ในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าเปิดตัวในระดับนานาชาติในปีพ.ศ. 2562 อีกด้วย โดยมีร้านอาหารพันธมิตรชื่อดังหลายแห่ง อาทิ Audrey Cafe, Arno’s, Cafe Pla (กลุ่ม iberry), Maisen (กลุ่ม S&P), Yuutaro, Outback Steakhouse, Hongmin, Hong Kong Noodle, โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท และโรงแรมบันยันทรี

จากการขยายตัวของ Hungry Hub ที่ครอบคลุมร้านอาหารที่เข้าร่วมมากขึ้น ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น แ ละธุรกิจร้านอาหารยังได้ขยายตัวสำหรับกลุ่มผู้ใช้บริการที่ต้องการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ ด้วยแนวคิดการรับประทานอาหารแนวใหม่ และการันตีด้วยรางวัลสตาร์ทอัพระดับนานาชาติอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น รางวัลชนะการนำเสนอแอปฯ ในงาน The Pitch Corner ในการประชุมสุดยอด The Seedstars World Summit 2018 ณ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งมีนักลงทุนต่างชาติและผู้เข้าร่วมประชุมเข้าแข่งขันจาก 14 ประเทศทั่วโลก และได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน Echelon Asia Summit 2018 ในการแข่งขัน The Pitch สาขาอีคอมเมิร์ซ ณ​ ประเทศสิงคโปร์ อีกด้วย


แชร์ :

You may also like