ต้องเรียกว่าเป็นข่าวสะเทือนวงการธนาคาร เมื่อสององค์กรใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย (KBank) และ LINE ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่ส่งท้ายปี 2561 เปิดตัวกิจการร่วมทุน บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด ให้บริการทางการเงินผ่านประสบการณ์ดิจิทัลและโซเชียล แบงก์กิ้ง
KBank x LINE ประสบการณ์ทางการเงินรูปแบบใหม่
พัชร สะมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงแนวคิด การตั้งกิจการร่วมทุน (Newly Invested Company) บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นการลงทุน ที่ธนาคารกสิกรไทย ผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด(เควิชั่น) และ LINE โดยลงทุนผ่าน บริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล เอเชีย ในสัดส่วนร้อยละ 50 ทั้งสององค์กร เพื่อให้บริการด้านการเงิน ผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ในรูปแบบ Social Banking เป็นครั้งแรก
“ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการ Disrupt ตัวเองของธนาคารสิกรไทย เพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์ทางการเงินบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ไปยังกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่คุ้นเคยกับการใช้สมาร์ทโฟน ใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนโลกดิจิทัล” พัชรกล่าว
ขณะเดียวกัน ธนาคารกสิกรไทย ยังมองเห็นโอกาสธุรกิจ อีก 2-3 ด้าน คือ KASIKORN LINE สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในการทำธุรกรรมต่างๆได้สะดวก รวดเร็ว กว่าการที่ธนาคารพาณิชย์ทั่วไปเข้ามาทำเอง ซึ่งแข่งขันได้ยากทั้งในเรื่องความเร็ว และ ต้นทุนการลงทุนด้านไอที
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลยืนยันจากการทำสำรวจ พบว่าปัจจุบัน 1 ใน 8 แอปพลิเคชั่นหลักของผู้ใช้สมาร์ทโฟน คือ LINE ซึ่งมีฐานผู้ใช้บริการในประเทศไทย 44 ล้านรายในปัจจุบัน ดังนั้น การผนึกกำลังของ 2 ฝ่ายครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ในกลุ่มเป้าหมายนี้ อีกด้วย
ด้าน อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย ในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน LINE จำนวน 44 ล้านคนในประเทศไทย มีโอกาสเข้าถึงความต้องการซื้อสินค้า บริการ ต่างๆ ได้ในทุกจังหวะความต้องการใช้เงินโดยไม่สะดุด
“จุดนี้เรียกว่าเป็นการเข้าไปสร้าง Experience ใหม่ทางการเงินให้กับผู้บริโภคได้ทุกที่ ทุกช่วงเวลา ผ่านพาร์ทเนอร์ด้านการเงินที่น่าเชื่อถือ อย่างธนาคารกสิกรไทย ขณะที่ LINE จะเป็น Access Point สำคัญในการเข้าถึงลูกค้า” อริยะ กล่าว
ยอง อึน คิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ไลน์ไฟแนนเชียล เอเชีย กล่าวว่า การจัดตั้งบริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด ในครั้งนี้ ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญต่อการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของการใช้บริการทางการเงินบนโซเชียลมีเดียอย่างเต็มรูปแบบ
แชทเพลินๆ ยืมเงินได้เลย
สำหรับแผนต่อไป พัชร บอกว่าจะเป็นการปลั๊กอินระบบไอทีเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมพัฒนาบริการด้านการเงินใหม่ๆออกมาในอนาคต โดยผลิตภัณฑ์ทางการเงินแรกที่จะออกมาในช่วงครึ่งหลังปี 2562 คือ บริการสินเชื่อส่วนบุคคลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ (Digital Lending) หรือเรียกง่ายๆว่า “การกู้ยืมเงินผ่านช่องทางออนไลน์” ซึ่งขณะที่ลูกค้าแชตไลน์ก็สามารถให้ยืมเงินกันได้ หรือ กู้เงินทางธนาคารได้ทันที เพราะโอกาสในตลาดการเงินที่น่าสนใจ คือ ตลาดกู้ยืมเงิน หรือ Unsecure Loan ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 5 แสนล้านบาท โดยจะช่วยทำให้พอร์ทสินเชื่อของ KBank ที่มีอยู่ 2 หมื่นล้านบาทเติบโตอย่างก้าวกระโดด
“เรามองว่าหากทำให้การขอสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่ง่าย และสนุกขึ้นเหมือนการพูดคุยผ่านแอปฯไลน์ โดยระหว่างที่ผู้ใช้งานสนทนาผ่านแอปฯ สามารถสลับโหมดเพื่อขอสินเชื่อได้ทันทีแล้ว ขณะเดียวกัน โซเชียล แบงก์กิ้ง ยังจะช่วยลูกค้าบางรายที่กลัวการใช้แอปฯการเงินทั่วไป สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่านโซเชียล แบงก์กิ้ง ซึ่งจะถูกฝังเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน ให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น”
เป้า 5 ปี Digital Lending แตะสองหมื่นล้านบาท
พัชร ยังวางเป้าหมายธุรกิจต่อว่า KASIKORN LINE จะสามารถเติบโตได้ถึง 6 เท่าตัวในอนาคต ซึ่งมาจากกลุ่มลูกค้าบัญชีใหม่หมด โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก จะมีทั้งกลุ่มลูกค้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ฐานผู้ใช้แอปพลิเคชั่น LINE จำนวน 44 ล้านราย และกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มาจากสถาบันการเงินรายอื่น
และ KASIKORN LINE ยังวางเป้าหมายเป็น 1 ใน 5 บริษัทชั้นนำที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล และภายใน 3- 5 ปี คาดว่าจะสามารถให้บริการวงเงินสินเชื่อได้ราว 2 หมื่นล้านบาท