นับตั้งแต่เปิดตัว Volvo XC90 ตั้งแต่ต้นปี 2017 ถือว่าเป็นการลั่นระฆังเปิดศึกครั้งใหม่ในตลาดรถยนต์ SUV เซกเมนต์รถหรู ตามเทรนด์ในตลาดต่างประเทศ ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลก ที่ปัจจุบันนี้รถ SUV หรือ Cross Over ซึ่งเหมาะสำหรับการขับในเมืองหรือท่องเที่ยวในวันว่าง ก็สามารถทำได้ทั้งนั้น และ Volvo (วอลโว่) ก็ไม่หยุดแค่รถรุ่นใหญ่เท่านั้น แต่ยังส่งรุ่นกลาง Volvo XC60 มาบุกตลาดเมืองไทยอีกระลอก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริหารรุ่นใหม่ที่หัวใจรักการเดินทาง และล่าสุดรุ่นเล็ก Volvo XC40 ก็เปิดตัวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งความสำคัญของรถยนต์รุ่นนี้ไม่ได้มีมาเพื่อให้ครบไลน์ของ SUV ของวอลโว่เท่านั้น แต่โจทย์ใหญ่ที่น้องเล็กคันนี้แบกเอาไว้ก็คือ “การปรับภาพลักษณ์ของวอลโว่” ทิ้งความเชื่อเก่าแก่ไว้เบื้องหลังแล้วพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยอิมเมจใหม่ทั้งหมด…
Story Doing ปั้นประสบการณ์ให้เห็นและสัมผัสได้จริง
เพื่อที่จะทำให้การเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง Volvo เลือกทำให้สิ่งที่แตกต่างจากการเปิดตัวรถยนต์ที่เคยทำมา โดยแบ่งเป็น 3 เฟส
1.สร้างความสงสัยในโซเชี่ยลมีเดีย ช่วงแรกหุ้มรถ Volvo XC40 แล้วออกวิ่งตามท้องถนนในย่านธุรกิจของกรุงเทพ แล้วท้าทายผู้ที่พบเห็นโดยการบอกว่า ถ้าหากว่าอยากเห็นรถคันนี้ให้เข้ามาดู และเชิญชวนให้ไปสัมผัสรถยนต์รุ่นนี้ด้วยตัวเอง ก่อนจะเปิดเผยรายละเอียดมากขึ้นๆ ในทุกๆ สัปดาห์
2.กิจกรรมเปิดตัวที่สร้างเรื่องราวที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ Volvo XC40 ตัวจริง ในที่สุดก็มาถึงอีเว้นท์เปิดตัว ซึ่งใช้เวลา 3 วันเต็ม เปิดโอกาสให้ทั้งลูกค้าเก่า คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย หรือแม้แต่ผู้ที่ให้ความสนใจ และเพิ่มความสนุกสนานแตกต่างจากกิจกรรมทั่วไปของวอลโว่ โดยมี 3 เซเลบบริตี้ชื่อดังอย่าง หลุยส์-สก๊อต นักแสดงที่ตัวเขานั้นใช้รถวอลโว่กลุ่ม Cross Over อยู่แล้ว, คริส-หอวัง รวมถึงวงไทเทเนี่ยมที่มาเปิดมินิคอนเสิร์ตสร้างความมันส์ภายในงาน! ซึ่งตลอด 3 วันของการจัดงานมีผู้ร่วมงานมากกว่า 2,000 คน
“เราเลือกหลุยส์ – สก๊อต และคริส หอวัง ด้วยไลฟสไตล์ของทั้ง 2 แมตช์กับรถเจนเนอเรชั่นใหม่ของวอลโว่ กลุ่มผู้บริโภคชาวไทยของเรากำลังมองหารถยนต์ดีไซน์ใหม่ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว โดยต้องเป็นรถยนต์ที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น สอดรับกับไลฟสไตล์แอคทีฟของคนรุ่นใหม่ที่หลากหลายได้อย่างลงตัว พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ”
โดยเนื้อหาของการแสดงนำเอาเรื่องราวของ หลุยส์-สก๊อต ในฐานะผู้ที่ขับขี่วอลโว่มาเล่าว่าชีวิตของเขาว่าสะดวกและมีฟังก์ชั่นที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของเขาอย่างไรบ้าง เป็นภาพลักษณ์ของชายหนุ่มที่โตพอที่จะเลือกว่าอะไรเหมาะกับตัวเอง มีจุดยืนเป็นของตัวเอง
ขณะที่ คริส หอวัง เป็นตัวแทนของสาวสังคมเมืองที่ชิทแชท ติดโซเชี่ยลมีเดีย และทำงานเดินทางอยู่ตลอด ทำให้เธอได้ใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ในรถ ที่เหมาะสมกับเธอ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ ช่องเก็บของมากมายที่ถูกดีไซน์มาอย่างเข้าใจการใช้งานจริงของคนรุ่นใหม่
https://www.facebook.com/volvoTH/videos/343544826209692/
3.จัดแสดง Pop-Store ให้ผู้คนได้เห็น XC40 ชมงานเปิดตัวบนจอขนาดใหญ่ และทดสอบขับ XC40 ได้ ซึ่งเลือกทำเลเมกาบางนา และ เซ็นทรัลเวิลด์ โซนบีคอน 3เพื่อจัดแสดงรถยนต์รุ่นนี้ นานถึง 1 เดือน สร้างโอกาสให้แบรนด์วอลโว่เข้าใกล้กลุ่มลูกค้ารายใหม่มากขึ้น เพราะทั้งสองแห่งถือเป็นย่านที่มีทราฟฟิคของผู้บริโภคทั้งไทยและเทศ ซึ่งก็สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมหาศาลและนำไปสู่การเสนอให้เข้านัดหมาย Test-Drive รถได้มากถึง 700 ครั้ง
“จากเดิมที่แคมเปญของเราจะเป็นการบอกกับผู้คนว่าเราทำอะไร แต่แนวคิดของแคมเปญนี้จะสร้างประสบการณ์ขึ้นมาแล้วกระตุ้นให้ผู้คน “พูดถึงสิ่งที่เราทำ” เราก้าวไปอีกขั้น มากกว่าการโฆษณา ซึ่งเดิมสิ่งที่ทำคือ Story Telling แต่ในแคมเปญนี้เราสร้าง Story Doing เราเชื่อในสิ่งที่เราทำ แล้วเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ (Engagement)” ฌอง-ดาวิด อาเรล (Jean-David Harel) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) กล่าว
“สำหรับ XC40 เราเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าเป็นคนที่ชื่นชอบศิลปวัฒนธรรมอย่างมาก ทั้งโรงละคร พิพิธภัณฑ์ และรวมถึงกิจกรรมกีฬาเช่นการเดินเขาข้ามประเทศหรือการเล่นสกี เป็นไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา มีความหมาย และเลือกสรรสิ่งต่าง ๆ อย่างรอบคอบ พวกเขาจึงต้องการรถยนต์ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ในยามขับขี่บนท้องถนน ความทันสมัยก็มีความสำคัญมาก รวมถึงงานดีไซน์ตัวรถ เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนและสถานะทางสังคมอย่างชัดเจน
ไม่ประนีประนอมเรื่องคุณภาพ
เหตุผลที่วอลโว่พร้อมที่จะให้ลูกค้าทั้งส่วนที่เคยสัมผัสกับวอลโว่อยู่แล้ว และกลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามามีประสบการณ์กับรถยนต์รุ่นนี้ ก็เพราะแนวคิดการออกแบบที่ทีมออกแบบปรับมุมมองใหม่ อาศัยการทำโฟกัสกรุ๊ป สอบถามความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก จนกลายเป็นงานดีไซน์ที่อิงกับอินไซต์และการใช้งานจริงของลูกค้า รถยนต์รุ่นนี้จึงมีประเด็น “เล็กน้อยนิด แต่มหาศาล” หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นหูเกี่ยวไว้แขวนกระเป๋า, จุดวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ๆ กับจุดชาร์ตแบตฯ, พื้นที่วางแล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตที่ประตู ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเบื้องหลังคือทีมวิศวกรต้องย้ายที่ติดตั้งลำโพงไปไว้จุดอื่น แต่ยังต้องคงความสามารถด้านเสียงเอาไว้เช่นเดิม, หน้าจอทัชสกรีนส่วนกลางของรุ่นที่เคยคว้ารางวัลมาแล้วในวอลโว่รุ่นอื่น ก็ถูกนำมาติดตั้งใน XC40 เพียงแค่แตะและปัดเบา ๆ ก็สามารถใช้งานระบบนำทาง รวมถึงฟังก์ชั่นและแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายเหมือนคุณกำลังใช้แท็บเล็ต
คุณฌอง–ดาวิด อาเรล ระบุว่า “แค่ใช้ครั้งแรกก็ใช้เป็นแล้ว มันใช้งานง่ายมาก คุณแถบไม่ต้องเรียนรู้อะไรเลย“ อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นการสั่งงานด้วยเสียง ที่พร้อมระบบเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ตามเทรนด์ปัจจุบันที่ ดีไวซ์ต่างๆ รอบตัวผู้บริโภคต้องทำงานร่วมกันได้
ในขณะเดียวกันเรื่องของ “สมรรถนะ“ และ “ความปลอดภัย” ซึ่งเป็นจุดเด่นหลักของวอลโว่ในรุ่นนี้ก็ยังจัดเต็มเช่นเคย โดยมีทั้ง Pilot Assist (ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ) , City Safety (ระบบความปลอดภัยล่าสุดจากวอลโว่ที่ช่วยป้องกันการชนขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ) , Run-off Road Mitigation (ระบบป้องกันรถยนต์วิ่งออกนอกทาง)ฟังค์ชันความปลอดภัยที่จะช่วยเหลือผู้ขับขี่รอบคัน พร้อมกับระบบแจ้งเตือนการจราจรด้านหลัง Cross Traffic Alert ทำงานร่วมกับระบบช่วยเบรก Brake Support และด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.09 ล้านบาท ทำให้วอลโว่ XC40 เป็น SUV ที่มีความปลอดภัยครบครันในราคาคุ้มค่าที่สุดในเวลานี้
“หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า วอลโว่ เมื่อราว 30 ปีก่อน เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมเข็มขัดนิรภัยที่ล็อค 3 จุด และเรารู้สึกว่านี่คือเรื่องสำคัญที่เราต้องส่งมอบองค์ความรู้นี้ให้กับอุตสาหกรรมเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถทุกคน มาถึงวันนี้วิสัยทัศน์เรื่องนี้ของเราก็ยังชัดเจน และพัฒนาอยู่ตลอด เราไม่เคยประนีประนอมกับเรื่องความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารของเรา”
สำหรับ Volvo XC40 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ซึ่ง คุณฌอง–ดาวิด อาเรล อธิบายว่า “ในยุโรป Volvo XC40 มีรุ่นย่อยให้ผู้บริโภคเลือก 5 รุ่น เพราะว่าผู้บริโภคที่นั่นมีความต้องการที่ชัดเจน บางคนต้องการรถที่สปอร์ต เราก็ตกแต่งและใส่กำลังแรงม้าเข้าไปให้เหมาะกับเขา บางคนอาจจะมองเรื่องของความหรูหรา รถก็จะเน้นไปทางนั้น แต่ในประเทศไทยเรานำเสนอแบบ Full Package ผสานความต้องการเอาไว้ครบครันทุกด้าน”
ทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วย 1. Volvo XC40 T5 AWD R-DESIGN เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 252 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ 2.Volvo XC40 T4 Momentum with white roof (หลังคาขาว) และ 3. Volvo XC 40 T4 Momentum ซึ่งเน้นการขับขี่แบบสปอร์ต ให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ และสมรรถนะที่แรงสุดขั้วจากเครื่องยนต์ 1969cc เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์อัจฉริยะที่มีระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Geartronic
อนาคตของรถยนต์ อนาคตของวอลโว่
สำหรับรถ SUV ระดับพรีเมี่ยมที่ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท เกมนี้นับว่าสะเทือนวงการอย่างมาก ไม่ใช่แค่เพียงคู่แข่งในระดับแบรนด์ยุโรปด้วยกันเท่านั้น แต่น่าจะมีผลไปถึงลูกค้าแบรนด์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 และโชว์รูมวอลโว่ทั่วประเทศ ซึ่งนำเสนอสิทธิพิเศษและส่วนลดสุดคุ้มสำหรับผู้ที่สั่งจองรถยนต์ภายในงาน รวมทั้ง บริการ Volvo Premium Service Program บริการบำรุงรักษานาน 5 ปี การรับประกันคุณภาพ 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งภายในงาน บูธของวอลโว่จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน โซนแรก นำเสนอ Art Design ที่เต็มไปด้วยความบันเทิง ที่ทั้งสนุก และสร้างการมีส่วนร่วมให้ผู้มาเยี่ยมชม ส่วนที่สอง เป็นการเอาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามาให้สัมผัส ต่อมาเป็นเรื่องของ Premium Next โชว์ความหรูหราของ Volvo XC90 Excellence 7 ที่นั่ง ที่ภายในพรีเมี่ยมสุดๆ เช่น แผงวางขวดแชมเปญ และส่วนสุดท้าย ที่จะเน้นหนักกับ Volvo XC40 ซึ่งทางวอลโว่เชื่อว่าจะเป็นรุ่นรถที่พลิกโฉมของวอลโว่ทั้งในแง่ของภาพลักษณ์และยอดขาย หลังจากประสบความสำเร็จกับพี่คนกลาง Volvo XC60 มาแล้วในประเทศไทย
รถเซกเมนต์ SUV เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในยุโรป รถยนต์ที่ขายได้ 80-90% ในระยะหลังล้วนแล้วแต่เป็น SUV กับกระบะ ส่วนรถซีดานมีจำนวนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และแนวโน้มนี้ก็ขยายตัวไปยังประเทศอื่น เช่น จีน ญี่ปุ่น ในประเทศไทยรถกระบะและซีดานยังขายดีอยู่ แต่ซีดานก็มีเทรนด์ความต้องการลดลงเรื่อยๆ ประกอบกับคู่แข่งของวอลโว่มีความได้เปรียบในการสร้างแบรนด์ในส่วนของรถซีดาน ดังนั้น เมื่อเทรนด์รถ SUV กำลังก้าวกระโดดขึ้นมา Volvo จึงขอทุ่มสรรพกำลังลงไปในตลาดที่เป็นปัจจุบันและอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งทางวอลโว่ประเทศไทยเชื่อว่าการเปิดตัว Volvo XC40 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็น Right Moment, Smart Invest ขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่การแข่งขันในทศวรรษหน้า ที่ผู้บริโภคกำลังตั้งตารอคอยเทคโนโลยีใหม่ๆ จากผู้ผลิตรถยนต์ทุกค่าย
“สิ่งที่ผู้บริโภคกำลังมองหาในรถยนต์สำหรับอนาคต ก็คือ 1. EV รถที่ใช้พลังงานทางเลือก ซึ่งวอลโว่เราจริงจังและให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้า 2. Connectivity การเชื่อมต่อกับดีไซน์ที่ตอนนี้เราก็ทำออกมาได้ดี เราจับมือกับพันธมิตรทุกส่วนเพื่อทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีที่สุดในรถของเรา 3. Autonomous Driving Car ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังอาจจะไม่ได้มีให้เห็นอย่างแพร่หลายในเชิงพาณิชย์ แต่เราก็กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนามัน…หัวใจก็คือผู้บริโภคต้องการทางเลือกที่ง่ายและสะดวกขึ้นสำหรับชีวิต ซึ่งนี่คือปรัชญาของวอลโว่ที่เรียกว่า Circle of Life หมายถึงนำเอาแนวคิดที่ช่วยแก้ปัญหาของคน (Thinking Solution) และการออกแบบเทคโนโลยี (Design Technology) มาสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรม”
เยี่ยมชมเว็บไซต์วอลโว่ พร้อมร่วมอัพเดทข้อมูลข่าวสาร ได้ที่
https://www.volvocars.com/th-th
https://www.facebook.com/volvoTH/
https://www.instagram.com/volvocarth/?hl=en