ASSETWISE บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอยู่ในตลาดเมืองไทยมานานกว่า 15 ปี มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง แต่ชื่อของบริษัทอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้ามากเท่ากับ 4 แบรนด์ของโครงการ ไม่ว่าจะเป็น MODIZ (โมดิซ) BROWN (บราวน์) ATMOZ (แอดโมส) และ KAVE (เคฟ) เป็นเพราะการทำตลาดและการสื่อสารบริษัทมุ่งไปยังกลุ่มเป้าหมายในแต่ละเซ็กเมนต์ของแบรนด์โครงการนั้นๆ มากกว่า
แต่โจทย์ทางการตลาดสำคัญของปี 2562 ที่ต้องการสร้างอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสิ่งสำคัญกับ Positioning เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จับตลาดระดับกลางไปถึงระดับบน ซึ่งมีความน่าเชื่อถือไม่ต่างจากผู้นำตลาดอย่างแบรนด์แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เป็นเป้าหมายที่อยากจะเป็น แนวทางการทำตลาดในปีนี้จึงจะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ผ่านสื่อโฆษณาให้มากขึ้น โดยเฉพาะการสร้าง Corporate Brand อย่าง ASSETWISE
คุณกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวท์ จำกัด เล่าว่า ที่ผ่านมาลูกค้าจะรู้จักแบรนด์โครงการมากกว่า ปีนี้จึงจะเป็นปีที่สร้างแบรนด์ ทำการตลาด มีภาพยนตร์โฆษณา ซึ่ง Corporate Brand จะเป็นการสื่อสารวิธีคิด จุดยืนของการพัฒนาโครงการ แต่แบรนด์โครงการต่างๆ ก็ยังไม่ทิ้ง และมีการโฆษณาควบคู่กันเพื่อสื่อสารให้เห็นว่า โครงการเหล่านั้นเป็นของ ASSET WISE
“การสร้าง Corporate Brand จะสื่อสารโดยตรงและสร้างผ่านแบรนด์ย่อย ทำให้เห็นว่าเรามีหลากหลายแบรนด์ มีสินค้าหลากหลาย มีความเชี่ยวชาญและหลากหลาย เพราะแต่ละแบรนด์จะมีกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง”
3 กลยุทธ์สู่เป้าหมาย 7,300 ล้าน
ท่ามกลางผู้เล่นรายใหญ่ซึ่งอยู่เต็มตลาด แต่ละรายก็เป็นผู้เล่นมียอดขายและรายได้ระดับหมื่นล้านบาท ปัจจัยเสี่ยงปีนี้ก็มีหลายเรื่องให้กังวล ไม่ว่าจะเป็นมาตรการภาครัฐคุมเข้มการซื้อที่อยู่อาศัยบ้านหลังที่ 2 ด้วยการเพิ่มเงินดาวน์มากขึ้น กำลังซื้อของคนในปัจจุบัน และอีกหลายเรื่อง แต่ ASSETWISE ก็เชื่อมั่นใน 3 กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ ได้แก่
1.Location ความแม่นยำในทำเล ในจุดที่ใกล้กับสถานที่สำคัญ รองรับการใช้ชีวิตของคนเมือง
2.Facility การพัฒนาโครงการและให้พื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้อยู่อาศัย
3.Product ห้องที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างเต็มที่ และใช้ทุกพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีส่วนเสริมตามมา ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ การบริการหลังการขาย ซึ่งปีนี้จะมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน Loyalty Program ด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ กิจกรรมวิ่งปันความสุข การพาลูกบ้านท่องเที่ยว กิจกรรมเวิร์คช็อป เป็นต้น
เปิด 7 โครงการ 8,800 ล้าน
ในปีนี้บริษัทเตรียมเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8,800 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 8,180 ล้านบาท อาทิ ไอโวรี่ รัชดาภิเษก 32 เคฟทาวน์ ชิฟ ใกล้กับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ แอทโมซ แจ้งวัฒนะ และโครงการโมดิซ บางโพ ส่วนโครงการแนวราบเปิดตัว 2 โครงการมูลค่า 620 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์บ้านปุริ ปุริ ลาดพร้าว 41 และบ้านปุริ ปุริ พัฒนาการ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับแบรนด์ปุริ ปุริ นอกจากนี้ในปีนี้ยังพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสมีคอมมูนิตี้มอลล์ รองรับกับกลุ่มลูกค้าซึ่งอาศัยอยู่ในโครงการเคฟทาวน์ ชิฟ ใกล้กับมหาวิทยาลัยกรุงเทพด้วย โดยปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดโครงการจำนวน 6 โครงการ มูลค่ากว่า 6,800 ล้านบาท
ส่วนเป้าหมายปีนี้คาดว่าจะมียอดโอนบ้าน 4,200 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมียอดโอน 4,175 ยูนิต ส่วนยอดขายในปีนี้น่าจะทำได้ 7,300 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีที่แล้วมียอดขาย 6,065 ล้านบาท และมียอดขายรอโอนในปีนี้มูลค่า 3,145 ล้านบาท