อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจ้าของและผู้บริหารงานสโตร์อิเกีย(IKEA)ทั้ง 7 แห่ง ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย เปิดเผยรายงานประจำปี 2561 พร้อมแผนขยายธุรกิจในปีนี้เพื่อครองใจคนรุ่นใหม่ที่รักบ้าน ด้วยการเป็นผู้นำเสนอเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์สวยงาม พร้อมประโยชน์ใช้สอยในราคาย่อมเยาให้ผู้คนนับล้าน ตามวิสัยทัศน์ “สรรค์สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับคนทั่วไปในทุกๆ วัน”
จากรายงานประจำปี 2561 ของอิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าเทคโนโลยีและการขยายตัวของสังคมเมืองได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการช้อปปิ้งของผู้คนและความคาดหวังของลูกค้า ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกต้องปรับตัว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักช้อปรุ่นใหม่ที่ทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันผ่านโทรศัพท์มือถือ และมองหาความผูกพันกับแบรนด์ที่ชื่นชอบ
ทั้งนี้ ลูกค้ามีแนวโน้มสนใจสินค้าตกแต่งบ้านมากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่สวยงามและประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ซึ่งในปี 2561 สโตร์อิเกียทั้ง 7 แห่งในภูมิภาคนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดึงดูดให้ผู้คนมาเยี่ยมชมถึง 85 ล้านครั้ง นับว่ามีผู้มาเยือนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 20% ขณะที่มีผลประกอบการสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 25,200 ล้านบาท) มีสมาชิก IKEA FAMILY รวม 1.71 ล้านราย
โดยความสำเร็จของอิเกียในปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากความพยายามนำเสนอประสบการณ์และแรงบันดาลใจใหม่ๆให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสร้างนิยามใหม่ให้ธุรกิจค้าปลีก เพื่อปั้นให้ “อิเกีย” เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมและเป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับทุกคน โดยสามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นไว้ได้ในหลายๆ เรื่อง อาทิ
– เปิดสโตร์อิเกียแห่งแรกที่เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าทั้งหมดอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทย
– เปิดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศมาเลเซีย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สร้างยอดขายเป็นสัดส่วน 3.8% ของยอดขายทั้งหมด ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือน
– การพัฒนาศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า Customer Contact Centre
นอกจากนี้ อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังได้วางแผนการดำเนินธุรกิจในระยะเวลา 5 ปี นับจากนี้ ดังนี้
– เปิดธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเพิ่มเติม ภายในปี 2562
– เริ่มก่อสร้างสโตร์อิเกียแห่งแรกในฟิลิปปินส์ ใจกลางกรุงมะนิลา บนพื้นที่ประมาณ 65,000 ตารางเมตรซึ่งเมื่อเปิดให้บริการจะนับเป็นสโตร์อิเกียที่ใหญ่ที่สุดในโลก
– วางแผนเปิดตลาดใหม่ในประเทศเวียดนามและเม็กซิโก สามารถเข้าถึงประชากรใน 6 ประเทศ รวมกันกว่า 480 ล้านคน (สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเม็กซิโก)
ขณะที่ผลงานทางด้านการดำเนินการและการพัฒนาเรื่องความยั่งยืนในปีที่ผ่านมานั้น อิเกียได้นำระบบทำความเย็นจากพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ที่อิเกีย อเล็กซานดรา ประเทศสิงคโปร์ ทำให้ช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 24% รวมทั้งประกาศยกเลิกการจำหน่ายและการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง โดยตั้งเป้าหมายให้หมดไปจากสโตร์ของอิเกียภายในปี 2563
การเติบโตของอิเกียตลอด 75 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่พ.ศ. 2486 – 2561
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในประเทศสวีเดนเมื่อปี 1943 (พ.ศ. 2486) ปัจจุบันอิเกียเป็นบริษัทค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีจำนวนสโตร์มากกว่า 415 แห่ง ใน 49 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ซึ่งบริหารจัดการโดยบริษัท อิคาโน่ จำกัด (Ikano Private Limited) ภายใต้แนวคิดในการผนวกเรื่องของความยั่งยืนให้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ และร่วมส่งเสริมโครงการต่างๆ ที่สร้างประโยชน์ให้แก่เยาวชนและสิ่งแวดล้อม