“กรุงเทพ” เป็นเมืองที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัญหา “เมือง” ที่แสนจะซับซ้อนในแบบของเราเอง ทางออกจึงไม่อาจใช้ศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งเท่านั้น แต่ต้องหลอมรวมเอาพลังและความคิดสร้างสรรค์ทุกด้านเข้าไว้ด้วยกัน จนกลายเป็น Solutions เพื่อทำให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายลง นี่เองจึงเป็นที่มาของงาน Bangkok Design Week 2019 ซึ่งมุ่งเน้นเอาความคิดสร้างสรรค์รอบด้านมารวมกัน เพื่อผสานพลังสู่อนาคตหรือ Fusing Forward ซึ่งเป็นธีมของงานในปีนี้ และภายในงานก็มีผู้ให้การสนับสนุนมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ SC Asset แบรนด์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของคนไทยที่เล็งเห็นความสำคัญของการออกแบบว่าสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้ จนกลายเป็นที่มาของผู้สนับสนุนงานออกแบบโปรเจ็กท์ “STREETSCAPE” งานออกแบบที่แก้ปัญหาและสร้างความเปลี่ยนแปลงกับพื้นที่สาธารณะ เช่น ทางเท้า และป้ายต่างๆ ที่แสนจะ คุ้นตาให้สวยและที่สำคัญมีฟังก์ชั่นที่ดีขึ้น ซึ่งเราจะได้เห็นกันใน Bangkok Design Week 2019 ครั้งนี้ด้วย
“STREETSCAPE” จากไอเดียบนแผ่นกระดาษสู่งานทดลองเพื่อใช้จริง
“STREETSCAPE” เกิดขึ้นจากแนวคิดของ CEA ที่ต้องพัฒนาพื้นที่สาธารณะของชุมชนย่านเจริญกรุง ให้สวยงาม ปลอดภัย และ น่าอยู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงได้มีการมาร่วมพูดคุยกับทาง SC Asset และ ด้วยวิสัยทัศน์ ของ SC Asset ที่มุ่งสู่การเป็น Living Solutions Provider ซึ่งตอบโจทย์ทั้งผู้อยู่อาศัยในรั้วโครงการ และ รอบรั้วบริเวณย่านต่างๆ เพื่อ “สร้างคุณภาพชีวิตทุกเช้าที่ดี” และ “รู้ใจ” ผู้อยู่อาศัย และเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับชุมชน โดยมีแนวคิดเดียวกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จึงได้สนับสนุนการจัดงาน Bangkok Design Week 2019 (เทศกาลงานออกแบบที่รวมความคิดสร้างสรรค์เพื่อทำให้กรุงเทพฯก้าวไปข้างหน้า) เพื่อค้นหางานออกแบบที่แก้ปัญหา และสร้างความเปลี่ยนแปลงกับพื้นที่สาธารณะ ทางเท้า และป้ายต่างๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Creative District “Street Scape” ในครั้งนี้
เพื่อค้นหางานออกแบบที่แก้ปัญหา และสร้างความเปลี่ยนแปลงกับพื้
– Street Crossing เปลี่ยนทางม้าลายแบบเดิมๆ ซึ่งสีซีด และคุ้นเคยกันจนรถไม่เบรคให้เราได้ข้าม ให้กลายเป็นทางม้าลายที่ดูโดดเด่น ผู้ขับขี่เห็นแล้วเฉลียวใจชะลอรถแน่ๆ
– Street Activities ปรับ Visual ริมทางให้น่ามอง และสนุกยิ่งขึ้น ด้วยงานศิลปะ แถมยังมี Audio Guide คอยนำเที่ยว บอกรายละเอียดของย่านเจริญกรุง ซึ่งมีเสน่ห์และประวัติศาสตร์มากมายให้ค้นหา (แทรกรูปในงาน)
– Street Creative Walkway แก้ไขภูมิทัศน์ทางเท้า จัดระเบียบ พื้นที่ทางเท้าและพื้นที่สีเขียวให้อยู่ร่วมกันได้ ที่สำคัญคือเอาแนวทางการออกแบบ Universal Design และ Service Design มาเป็นแนวคิดหลัก ทำให้ ใครๆ ก็ใช้ทางเท้าสัญจรได้สะดวก มีต้นไม้ให้ร่มเงา มีที่นั่งให้หยุดพัก
– Street Wayfinding พัฒนาป้ายบอกทางต่างๆ ให้น่าสนใจ อธิบายข้อมูลได้จริง รวมทั้งสะท้อนเอกลักษณ์ของย่านเจริญกรุง ที่ทาง CEA ต้องการชูเรื่องของความคิดสร้างสรรค์
แค่ไอเดีย Mock Up จะใช้ได้จริงเหรอ ?
หลายต่อหลายครั้งที่ผลงานออกแบบดีๆ ที่เราเคยดูกันตามนิทรรศการแต่ไม่เห็นว่าจะเกิดขึ้นจริง ผู้ชมงานได้แต่ฝันเก้อ… สำหรับผลงานโปรเจ็กท์ “STREETSCAPE” จะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะ SC Asset มีโครงการของตัวเอง ที่เทียบแล้ว ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “เมือง” ขนาดย่อมๆ ของตัวเอง พื้นที่แค่ 200 ไร่!!!
ดังนั้นผลงานที่เกิดขึ้นจะถูกนำไปปรับใช้ในโครงการ The Neighbourhood บางกะดี by SC Asset แน่นอน ด้วยแนวคิดที่ว่า
“เวลาที่คนอยู่รวมกันมากๆ มันต้องมีกฎร่วมกัน แต่กฏที่ว่ามันต้องได้มาจาก “ข้อตกลงร่วมกัน” ของ Regulators และ Users การออกแบบ โครงการ The Neighbourhood ของเราก็มาจากการเก็บข้อมูล เราทำรีเสิร์ชเยอะมาก ถามลูกบ้านของเรา ถามคนในพื้นที่ไม่ใช่เฉพาะแค่คนที่เป็นลูกค้าของเรา เพราะในความเป็นจริงถ้าอยู่ด้วยกัน ก็ต้องอาศัยชุมชนด้วย ก่อนที่เราจะออกแบบ และถ้าลูกบ้านเริ่มมาอยู่จริง เราก็จะถามอีก เพื่อปรับปรุงให้การใช้ชีวิตของลูกบ้านและชุมชนทั้งหมดดีขึ้น” คุณโฉมชฎา กุลดิลก Head of Corporate Brand, SC Asset กล่าว
โดยผลงานที่ใช้นี้ได้รับความร่วมมือจากชุมชนชาวบางกะดี ซึ่งผสานความร่วมมือกับ SC Asset เป็นอย่างดี จนทำให้ Design Solutions ที่นักออกแบบคิดถูกนำไปต่อยอดประยุกต์ใช้จริง ตอกย้ำความเป็น Living Solutions Provider ซึ่งแบรนด์ SC Asset ทำเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมให้เห็นมาแล้ว เช่น “รั้ว” ของโครงการคอนโดมิเนี่ยม ที่ปกติจะเป็นพื้นที่โฆษณาโครงการที่กำลังก่อสร้าง แต่สำหรับ SC Asset แล้ว กลับเลือกที่จะสร้างสรรค์ให้รั้วของ Beatniq คอนโดมินเนียมระดับ Super Luxury ที่สุขุมวิท 32 กลายเป็น นิทรรศการศิลปะริมรั้วกับสื่อผสมผสาน ‘CHANEGE IS…’ ที่หมุนเวียนเอาภาพของศิลปินชื่อดังมาจัดแสดง
หรือ แคะเอาอินไซต์เรื่อง “รองเท้า” จากลูกบ้านมาพัฒนาเป็น 1. Robi พื้นที่วางรองเท้าเฉพาะ ที่แยกส่วนก่อนถึงห้องรับแขก 2. ตู้รองเท้า One Hundred Shoes
“เราพบว่าลูกบ้านของเรามีรองเท้าเยอะมาก เพราะรองเท้าประเทศเราถูก ส่วนผู้ชายเดี๋ยวนี้ก็มี Sneaker เยอะมาก แต่ไม่มีที่เก็บ เราก็เลยโยนโจทย์ให้ทีมออกแบบของเรา ผลปรากฏว่าออกมาเป็น Solutions 2 แบบ 1. คือ Robi เป็นคำที่เราคิดขึ้นเอง อารมณ์เหมือนบ้านโนบิตะ ที่พอเข้ามาโนบิตะก็จะถอดรองเท้า ก่อนจะเข้าไปที่ห้องรับแขก ซึ่งเราใช้พื้นที่แค่นิดเดียวขยักเข้าไป และใช้วัสดุที่แตกต่าง กลายเป็นว่าเบรคอารมณ์ได้อย่างมหาศาล และใช้ฟังก์ชั่นเป็นที่วางรองเท้าได้ 2.ตู้เก็บรองเท้าที่เราบรีฟไปเลยว่า ตู้นี้ต้องใช้พื้นที่เท่าเดิมแต่เก็บรองเท้าได้ 100 คู่ อันนี้เป็นโซลูชั่นสำหรับรองเท้าแพงๆ ซึ่งปรากฏว่าทีมออกแบบของเราก็ทำได้สำเร็จ นี่คือการใช้ดีไซน์มาแก้ปัญหา” คุณจูน-โฉมชฎา ยกตัวอย่างเรื่องเล็กๆ แต่เป็นจุดแรกที่เปิดเข้าบ้านแล้วจะเจอทันที
การที่ทาง SC Asset เข้าไปสนับสนุนกิจกรรมของ Bangkok Design Week 2019 ในครั้งนี้ รวมทั้งนำเอาไอเดียมาใช้ในโครงการนี้ ทาง SC Asset คาดหวังว่า แนวคิดเรื่องการออกแบบที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ใช้ได้จริง จะกลายเป็นรากฐานความคิดของ “คนรุ่นใหม่” ดึงเอาความสามารถทางศิลปะของคนไทยที่ไม่แพ้ใคร มาใส่ฟังก์ชั่นการใช้งานจนกลายเป็น “วัฒนธรรม” ที่ใช้ดีไซน์มาแก้ปัญหา (Design Thinking) ให้กับสังคมอย่างต่อเนื่องและขยายวงต่อไปไม่หยุดเพียงแค่งานนี้หรือแค่โครงการอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น
สำหรับผู้ที่สนใจ จะตามไปดูโครงการเบื้องต้น สามารถเข้าชมไอเดียเด็ดๆ ที่ว่ามาได้เลยวันนี้ ที่งาน Bangkok Design Week 2019 ตั้งแต่วันนี้ – 3 กุมภาพันธ์ 62 บริเวณอาคารไปรษณีย์กลาง และย่านเจริญกรุงทั้งย่าน! และร่วมชมนิทรรศการ “หมู่บ้านรู้ใจ” และกิจกรรมที่บูธ SC Asset เพื่อบอกเล่าปัญหาการใช้ชีวิตในเมืองให้ทีมงานของ SC Asset และ CEA ได้รับรู้และเก็บเป็นการบ้านไปพัฒนา Design Solutions มันส์ๆ มาตอบสนองการใช้ชีวิตของเรา ฝากไว้สำหรับผู้ที่จะแวะเวียนไปงานนี้ เตรียมกล้อง, สมาร์ทโฟนเอาไว้ให้พร้อม เพราะมุมสวยๆ เจ๋งๆ หรือผลิตภัณฑ์โดนๆ เพียบ ไปแล้วถ่ายรูป สร้าง Social (Media) Moment ได้เลย
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมติดตามได้ที่ facebook ของนิทรรศการ: http://bit.ly/2Hpbtbm และ Hashtag #DesignForGoodMornings