Viu (วิว) ผู้ให้บริการด้านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT (Over-the-top) ซึ่งเป็นการให้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ของ PCCW Media Group ให้บริการอยู่ 16 ประเทศในเอเชีย มีจำนวนดาวน์โหลดทั่วโลก 20 ล้านดาวน์โหลด โดย Viu เข้ามาเปิดตัวและทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงกลางปี 2560 ความโดดเด่นและจุดขายของ Viu คือ คอนเทนต์จากประเทศเกาหลี ซึ่งคนไทยสามารถรับชมในไทยหลังจากประเทศเกาหลีออนแอร์ได้เพียง 1 วัน
แต่ท่ามกลางกระแสการแข่งขันในธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT ซึ่งปัจจุบันมีความรุนแรงและเข้มข้น แถมผู้เล่นในธุรกิจเดียวกันกับ Viu ก็มีความแข็งแกร่งและเป็นผู้เล่นรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Netflix หรือ Line TV ทำตลาดในเชิงรุกอยู่ตลอดเวลา บุกหนักและขนทัพคอนเทนต์ซึ่งเป็นแม่เหล็กมาเรียกคนดู หลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้ Viu ต้องปรับตัวและรับมือกับการแข่งขัน ด้วยการใช้คอนเทนต์มารับมือ ทั้งการซื้อสิทธิ์แบบเอ็กซ์คลูซีพมาฉาย การขยายคอนเทนต์ไปในรูปแบบหลากหลาย โดยเฉพาะการผลิตคอนเทนต์ออริจินัลเป็นของตนเอง ด้วยการจับมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นนำ
2 กลยุทธ์เพิ่มการเติบโต 150%
หลังจากเข้ามาทำตลาดในไทย Viu ซึ่งเป็นน้องใหม่ในตลาด จึงต้องเร่งสร้างตัวตน และขยายฐานกลุ่มเป้าหมายคนดูให้กว้างมากขึ้น โดยใช้ 2 กลยุทธ์สำคัญ คือ 1.การสร้างแบรนด์ ผ่านสื่อโฆษณา ทั้งสื่ออนไลน์ และสื่อนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา สื่อบนบีทีเอส เป็นต้น และ 2. การใช้คอนเทนต์เป็นจุดขาย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นคอนเทนต์ซื้อสิทธิ์มาจากประเทศเกาหลีเท่านั้น ปีที่ผ่านมายังเสริมด้วยคอนเทนต์จากประเทศจีนและญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง ช่องจีเอ็มเอ็ม25 นำเอาคอนเทนต์มาฉายใน Viu จำนวน 200 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์ต่างๆ หรือรายการวาไรตี้โชว์ ดีเอ็นเอของช่อง อย่าง Club Friday Show เป็นต้น
คุณธวัตวงศ์ ศิลมานนท์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท พีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการวิดีโอแบบ OTT ภายใต้แบรนด์ Viu เล่าว่า ผลการดำเนินงานของ Viu ถือว่าประสบความสำเร็จจากจำนวนผู้ดาวน์แอปพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นถึง 150% จากก่อนหน้าที่มีจำนวนผู้ดาวน์โหลด 2.3 ล้านดาวน์โหลด เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 4.5 ล้านดาวน์โหลด ซึ่งเป็นผลจากการทำตลาดการสร้างแบรนด์ และการเสริมคอนเทนต์ต่างๆ เข้ามาเพิ่ม รวมถึงจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เนตของคนไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถเข้าถึงและรู้จัก Viu เพิ่มมากขึ้นด้วย
แค่เกาหลีไม่พอ ต้อง Original Local Content
แม้ว่า Viu จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เหมือนแค่นี้ไม่เพียงพอต่อการยืนอยู่ในธุรกิจ ภายใต้ภาวะการแข่งขันรุนแรง คนไทยมีทางเลือกหลากหลายในการเข้าถึงคอนเทนต์ ซึ่งปีนี้เอง Viu ยังต้องรักษาการเติบโตไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาด้วย และยิ่งคอนเทนต์เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ จึงต้องเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่ไม่สามารถไปดูที่อื่นได้เข้ามา จึงทำให้ล่าสุด Vie จับมือกับเวิร์คพอยท์ ผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบออริจินอลขึ้นมา
“การมีออริจินัลคอนเทนต์เป็นการสร้างความแตกต่าง และตอบสนองความต้องการของคนดู หากไม่มีออริจินัลคอนเทนต์ ก็จะทำให้ต้องซื้อคอนเทนต์ที่เป็นแบบเอ็กซ์คลูซีพ ซื้อมีระยะเวลากำหนด และทำให้เจ้าของคอนเทนต์มีความได้เปรียบเรื่องราคา เพราะจะมีคนมาแย่งซื้อ ทำให้ไม่แน่ใจว่าคอนเทนต์ดีๆ เขาจะขายให้เราหรือไปขายให้แข่งคู่ เราจึงพึ่งการซื้ออย่างเดียว ถือเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ทุกประเทศ”
ออริจินัลคอนเทนต์แรก ผลิตเป็นซีรี่ส์เรื่อง โฮะ แฟมิลี่ นำแสดงโดยเก้าจิรายุและปันปันกำหนดออกฉายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี (ช่อง 23) และทาง Viu ใน 16 ประเทศ สัปดาห์ละ 1 ตอน รวม 15 ตอน ซึ่ง Viu มั่นใจว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปีนี้จะมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีก่อนอย่างแน่นอนหรืออีกประมาณ 2 ล้านดาวน์โหลด
“รายได้จากออริจินัลคอนเทนต์มาได้หลายรูปแบบ เอาไปขายช่องทีวีก็ได้ หรือออนไลน์ก็ได้ แต่ละประเทศโมเดลไม่เหมือนกัน สิ่งที่เราต้องทำสม่ำเสมอ คือ พัฒนาคุณภาพคอนเทนต์ เราไม่สามารถอยู่นิ่งได้ ทั้งปริมาณและคุณภาพ การทำในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อต้องการมีคอนเทนต์ให้เพียงพอ กับการสนองความต้องการลูกค้า และสร้างความแตกต่างจึงพยายามเพิ่มคอนเทนต์ในทุกๆ ด้าน”
คุณธวัตวงศ์ เล่าอีกว่า การมีออริจินัลคอนเทนต์ นอกจากการเพิ่มจำนวนผู้ชมแล้ว ยังส่งผลดีในเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์ และทำให้แบรนด์แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่องจีเอ็มเอ็ม25 และช่องเวิร์คพอยท์เท่านั้น อนาคตจะมีความร่วมมือกับพันธมิตรช่องทีวีดิจิทัลเพิ่ม เพื่อผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบอื่นๆ ต่อไปด้วย เป็นการขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น จากปัจจุบันมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้หญิงอายุ 18-34 ปี โดยคงมุ่งไปสู่ตลาดผู้ชายในวัยเดียวกันด้วย ซึ่งสุดท้ายการร่วมกับพันธมิตรในการผลิตคอนเทนต์ ก็เพื่อต้องการขยายกลุ่มเป้าหมายให้แมสขึ้นนั่นเอง
ปัจจุบันคนที่ดู Viu ในภูมิภาคนี้จะใช้เวลาเฉลี่ย 108 นาทีต่อวัน สำหรับประเทศไทยและอินโดนีเซีย ถือเป็น 2 ประเทศของ Viu ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดทั้งในจำนวนผู้ดาวน์โหลด และพฤติกรรมการรับชม ปี 2561 ที่ผ่านมา Viu เปิดตัวรายการ Viu Originals ใหม่ 70 รายการ มีการแพร่ภาพกว่า 900 ตอน โดยผลิตจากประเทศจีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งกลุ่มคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมจะเป็น ซีรีส์ แนวโรแมนติกคอมเมดี้เป็นหลัก รวมถึงคอนเทนต์ไทยที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น