โลกมัน Disrupt เร็ว จนฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย.. อะไรกัน ยังไม่พ้นไตรมาสแรกของปี 2019 ก็มีเรื่องเซอร์ไพร์สมากมายเต็มไปหมด เดือนกุมภาพันธ์ “ดีแทค” ประกาศขายสกูตเตอร์ พลังงานไฟฟ้า(อ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่) มาเดือนมีนาคม บริษัทโทรคมนาคมเบอร์หนึ่งอย่าง AIS ก็มาขาย “ประกันฯ” ซะอย่างนั้น
แต่ความเคลื่อนไหวของ Operator ชั้นนำของประเทศทั้งสองราย น่าจะตอกย้ำภาพ “Mobile First” ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และเมื่อโลกการสื่อสารทั้งใบย่อลงไปอยู่ในฝ่ามือของลูกค้าแบบนี้ คนที่รู้ข้อมูลของผู้บริโภคดีที่สุด 2 รายก็เอาข้อได้เปรียบนั้นมาพยายามพลิกธุรกิจ เสริมเขี้ยวเล็บด้วยบริการอื่นๆ เพื่อแสวงหาช่องทางเติบโต สำหรับ AIS ถึงขนาดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาทำหน้าที่ “โบรกเกอร์” ขายประกัน เลยทีเดียว โดยใช้ชื่อหน่วยงานนี้ว่า AIS Insurance Service ดำเนินการโดย บริษัท แอดวานซ์ ดิจิทัล ดิสทริบิวชั่น จำกัด หรือ ADD บริษัทในเครือเอไอเอส ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ประกอบธุรกิจ “นายหน้าประกันวินาศภัย” จำหน่ายสินค้าประเภทประกันวินาศภัยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยประเภทประกันวินาศภัยที่ให้บริการ อาทิ ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยอุบัติเหตุ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยสุขภาพ ฯลฯ
สำหรับสินค้าตัวแรกที่ โบรกเกอร์ หน้าใหม่รายนี้ประเดิมขายก็คือ “ประกันการเดินทาง” ซึ่งเป็นประกันที่ซื้อง่าย-ขายคล่อง ด้วยมูลค่าที่ไม่สูงมากนัก ลูกค้าไม่ต้อง “คิดเยอะ” แต่อาศัย “ความสะดวก” ในการซื้อ เพียงแค่จิ้มโทรศัพท์สมาร์ทโฟนก็เลือกเงื่อนไข และความต้องการได้แล้ว ในระยะหลังบริษัทประกันฯ ก็มาจำหน่ายในช่องทางออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน โดยโปรดักท์แรกเป็นการประกันด้วย บมจ.แอกซ่า ประกันภัย มี 2 แพ็กเก็จให้เลือก ประกอบด้วย
– ประกันภัยการเดินทางในประเทศ ท่องเที่ยวทั่วไทย เจ็บที่ไหนก็มีจ่าย จ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียง 99 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุด 2 แสนบาท
– ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ เดินทางอุ่นใจ ใกล้ไกลทั่วโลก จ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียง 186 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล กระเป๋าเดินทางสูญหาย หรือเที่ยวบินล่าช้า
คุณปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “วันนี้เทรนด์การซื้อสินค้าและบริการของคนไทยถูกย้ายมาอยู่บนช่องทางดิจิทัลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนไทยมีความชื่นชอบและคุ้นเคยกับการจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นอย่างดี โดยหนึ่งในสินค้าที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจคือผลิตภัณฑ์ประกันภัย ซึ่งเป็นสินค้าที่คนไทยให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตลอดทุกช่วงของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเดินทาง ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ โดยที่ผ่านมา เอไอเอสได้ให้บริการดูแลเครื่องมือถือกับแคมเปญ AIS Mobile Care มาแล้ว ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นอกเหนือจากโปรดักท์แรกแล้ว ต่อๆ ไป AIS Insurance Service (ซึ่งตัวย่อพอย่อออกมาแล้วก็ AIS ซ้อนไปอีก) ก็จะขายสินค้าประกันภัยทางออนไลน์ โดยจับมือกับ บริษัทประกันภัยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ซิกน่า ชับบ์สามัคคี เมืองไทยประกันภัย MSIG และพันธมิตรอื่นๆ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อประกันได้ด้วยตัวเองผ่านทางออนไลน์ หัวใจหลักอยู่ที่การแสดงข้อมูลชัดเจน ทั้งเบี้ยประกัน แผนคุ้มครอง และข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ ขณะที่ลูกค้าสามารถกำหนดข้อมูลการเดินทาง และระยะเวลาคุ้มครองได้เอง หลังจากนั้นระบบจะส่งกรมธรรม์กลับไปให้ลูกค้าทางอีเมลที่ระบุไว้ ส่วนการชำระเงินทำได้โดยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต รวมถึงเตรียมขยายไปสู่การจ่ายด้วย Rabbit LINE Pay ในอนาคต สำหรับลูกค้า AIS จ่ายสะดวกผ่านมือถือ ทั้งลูกค้าระบบเติมเงินและบิลรายเดือน นอกเหนือจากการลุยในธุรกิจใหม่ๆ แล้ว AIS คาดหวังว่าจะเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงสินค้าประกันภัยได้ง่ายยิ่งขึ้น
“ด้วยศักยภาพของดิจิทัล แพลตฟอร์ม ที่เรานำมาประยุกต์ใช้ในการนำเสนอสินค้าประกันภัยให้กับลูกค้าได้อย่างเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เรามั่นใจว่า AIS Insurance Service จะสามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ และเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขัน รวมถึงสามารถนำมาต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการในเครือเอไอเอสได้ในอนาคต เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าได้มากขึ้น เช่น การ Bundle ความคุ้มครองประกันภัยการเดินทางต่างประเทศให้กับลูกค้าที่ซื้อ SIM2Fly เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุน Ecosystem ของพันธมิตร ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” คุณปรัธนา กล่าว
ในเมื่อ AIS ตั้งบริษัทลูกขึ้นมา แล้วดำเนินการขออนญาตกับ คปภ. ขนาดนี้ การมีโบกเกอร์อีกรายในตลาด อาจะไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก แต่ภาพสะท้อนที่ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทแสนล้าน พร้อมจะขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ยึดติดแค่ธุรกิจของตัวเอง น่าจะบอกได้ว่าคำว่า “สึนามิ” ที่ชื่อว่า Disruption ยังพัดแรงไม่หยุด ต่อให้ “ใหญ่” แค่ไหนต้องปรับตัวด่วนๆ …