บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (ALL INSPIRE DEVELOPMENT) มาแรง ผนึก 2 พันธมิตรญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ ฮูซิเออร์ส โฮลดิ้งส์ (Hoosiers Holdings) และ คิวชู เรลเวย์ คัมปะนี (Kyushu Railway Company) เปิดตัว “อิมเพรสชั่น เอกมัย” คอนโดมิเนียมหรูแห่งแรกของบริษัท มูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 7.9 ล้านบาท มุ่งเจาะกลุ่มไฮเอนด์ มั่นใจดีมานด์เพียบทั้งผู้อยู่อาศัยและปล่อยเช่า โดยเฉพาะห้องชุดประเภท 2 ห้องนอน ที่กลุ่มเป้าหมายยังมีความต้องการสูง แต่ตลาดยังขาดโปรดักต์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว
คุณธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากจุดแข็งของบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ทำให้ทุกโครงการของออลล์ อินสไปร์ฯ ได้รับการการันตีด้วยยอดขายที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เหตุผลนี้ทำให้ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นอย่าง ฮูซิเออร์ส โฮลดิ้งส์ (Hoosiers Holdings) และ คิวชู เรลเวย์ คัมปะนี (Kyushu Railway Company) เห็นถึงศักยภาพ ความโดดเด่น และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จึงได้มั่นใจในการร่วมทุนจับมือกับ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อบริษัท เอเอชเจ เอกมัย จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โดย ออลล์ อินสไปร์ฯ จะถือครองหุ้นในสัดส่วน 51% ฮูซิเออร์ส โฮลดิ้งส์ 29% และ คิวชู เรลเวย์ คัมปะนี 20%
3 พลังหลอมรวมความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้กับผู้บริโภค
สำหรับพันธมิตรทั้ง 2 รายจากญี่ปุ่นของออลล์ อินสไปร์ฯ คือ ฮูซิเออร์ส โฮลดิ้งส์ และ คิวชู เรลเวย์ คัมปะนี ถือเป็นบริษัทชั้นนำในญี่ปุ่น ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวโยง ทั้งยังมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่โดดเด่น โดยเฉพาะด้านคุณภาพ การออกแบบสถาปัตยกรรม และการบริหารพื้นที่ใช้สอย รวมถึงทีมออกแบบและทีมควบคุมคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนออลล์ อินสไปร์ฯ มีความมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพในพื้นที่ศักยภาพ และบริเวณพื้นที่แนวระบบขนส่งมวลชนหลักของกรุงเทพฯ เช่น BTS และ MRT เพื่อการคมนาคมที่สะดวกสบาย ใกล้แหล่งชุมชน และสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง ดังนั้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการผสมผสานการดำเนินงานพัฒนาโครงการอย่างกลมกลืนจากทั้ง 3 พันธมิตรทางธุรกิจ จะเสริมสร้างศักยภาพให้การพัฒนาโครงการมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยก้าวสู่ระดับสากล
“ทั้ง 2 บริษัท ได้ใช้โนว์ฮาวทั้งหมดที่ทำที่ญี่ปุ่น นำมาพัฒนาห้องชุดในประเทศไทย โดยใช้จุดแข็งของทั้งสามบริษัท ปลุกปั้นโครงการอิมเพรสชั่น เอกมัย เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุด และประกาศชัดเจนที่จะพัฒนาโครงการอื่นๆ ในประเทศไทยต่อไป”
ส่วนในมุมมองของพันธมิตรญี่ปุ่นทั้งสองบริษัทระบุว่า ออลล์ อินสไปร์ฯ ถือเป็นดีเวลลอปเปอร์ไทย ที่มีความน่าเชื่อถือ เติบโตอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น ทั้งยังมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล และมีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน กอปรกับมีความหลงใหลในการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้จะมีคู่แข่งจำนวนมาก แต่ก็มั่นใจมากเช่นเดียวกัน เพราะมีการสำรวจตลาดมาอย่างละเอียด เพื่อเติมเต็มดีมานด์การอยู่อาศัยย่านเอกมัย
เจาะลึก 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น
ด้วยความที่เป็นบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในตลาดอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานทำให้พันธมิตรทั้ง 2 รายของออลล์ อินสไปร์ฯ มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจความต้องการ ตลอดจนพฤติกรรมในการเลือกซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างดี
ฮูซิเออร์ส โฮลดิ้งส์ ประกอบกิจการด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยมายาวนานกว่า 24 ปี เป็นบริษัทชั้นนำที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศญี่ปุ่น มีธุรกิจในเครือบริษัทที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม บ้าน อพาร์ทเม้นท์ อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุ และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวโยงกับอสังหาริมทรัพย์ ในกว่า 70 เมือง ทั่วญี่ปุ่น ทุกปีบริษัทฯ จะมีการลงทุนเพื่อการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่าราว 31,900 ล้านบาท และยอดขายรวมของบริษัท 16,700 ล้านบาท ต่อปี และลิสต์อยู่ใน 1st Section ของตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
คิวชู เรลเวย์ คัมปะนี ก่อตั้งขึ้นหลังจากการแปรรูปรถไฟแห่งชาติญี่ปุ่นในปี 2530 เป็นบริษัทรถไฟที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในเมืองคิวชู มีเครือข่ายทางรถไฟครอบคลุมทั่วภูมิภาคคิวชู ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น มีประสิทธิภาพและมีการสร้างเมืองผ่านธุรกิจที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังขยายธุรกิจทั้งด้านการขนส่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีกร้านอาหาร รวมไปถึงธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่นเมื่อปี 2559 โดย ณ ปัจจุบันมีรายได้รวมล่าสุด คิดเป็นเงินไทยประมาณ 111,000 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 200,000 ล้านบาท (ข้อมูลเมื่อปีงบประมาณ 2560) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market cap.) อยู่ที่ 160,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 27 กันยายน 2561) ซึ่งการร่วมทุนในครั้งนี้เป็นการร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยเป็นครั้งแรก
ก่อนหน้านี้ในปี 2017 คิวชู เรลเวย์ คัมปะนี ได้เริ่มธุรกิจในไทยเป็นครั้งแรก ด้วยเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ภายใต้ชื่อ ชามา เลควิค อโศก บางกอก ต่อมา ปี 2018 ได้ทำโรงแรม Aloft Bangkok Sukhumvit 11 สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่ 3 ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย
เอกมัย…ทำเลทองตลอดกาล 1 ใน 3 ย่านยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น
หากพูดถึง Prime location ในใจกลางกรุงเทพฯ หนึ่งในนั้นต้องมีย่านเอกมัยอยู่ด้วยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเป็นย่านที่อยู่อาศัยในฝันของชาวญี่ปุ่น รวมถึงคนไทยที่มีกำลังซื้อสูง ที่อยากจะครอบครองคอนโดมิเนียมสักห้องในย่านนี้ ดังนั้นสำหรับโครงการแรกที่เอเอชเจพัฒนาร่วมกันคือ อิมเพรสชั่น เอกมัย บนที่ดินผืนงามในเอกมัย ติดถนนใหญ่ เยื้องกับบิ๊กซี เอกมัย ใกล้บีทีเอส สถานีเอกมัย
“แน่นอนว่าเอกมัยเป็น CBD ขณะเดียวกันก็มีคหบดีอาศัยอยู่เยอะมาก ส่วนต่างชาติที่อยู่อาศัยในย่านนี้ก็มีกำลังซื้อสูง ในขณะที่เอกมัยก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์จำนวนมาก ล่าสุดดองกิที่เพิ่งเปิด ก็อยู่ห่างจากอิมเพรสชั่น เอกมัย ไม่ถึง 200 ม. ,ร้านอาหารนานาชาติ โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น, โรงพยาบาลระดับเวิลด์คลาส เช่น สมิติเวช สุขุมวิท และโรงเรียนนานาชาติ เช่น บางกอก เพร็บ, ไบร์ทสกายส์ และสถานที่ท่องเที่ยวหรือแหล่งแฮงเอาท์ยามค่ำคืน ”
นอกจากนี้ผลสำรวจโซนที่ชาวต่างชาติชอบอยู่ในคอนโดมิเนียมใหม่ตามแนวรถไฟฟ้า (เฉพาะโครงการที่สร้างเสร็จไม่เกิน 3 ปี) พบว่า 42% อยากอยู่สุขุมวิทซอย 1-71, 25% อยากอยู่รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว และสุขุมวิท 77-บางนา 25% โดยกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการอยู่อาศัยย่านอโศก ทองหล่อ และเอกมัย มากที่สุด ได้แก่ ชาวญี่ปุ่น
สำหรับราคาคอนโดมิเนียมย่านเอกมัยเมื่อปี 2013 เปิดตัวที่ 90,000 บาท / ตร.ม. แต่ปี 2561 ที่ผ่านมาแตะที่ 220,000 บาท / ตร.ม. เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 25.7% โดยนับเป็นโลเกชั่นที่มีอัตราการเติบโตปีละ 2 หลักตลอด ขณะเดียวกันที่ดินที่เป็น Prime location ที่เอกมัยก็หายากขึ้นทุกวัน ส่วนราคาคอนโดมิเนียมมือสองที่เอกมัยก็เพิ่มขึ้น 75%
Yield 2 ห้องนอนดีงาม ดีมานด์ยังคงร้อนแรง
ด้านอัตราค่าเช่าและผลตอบแทนในย่านเอกมัย ห้องสตูดิโอขนาด 25-30 ตร.ม. ค่าเช่า 15,000-20,000 บาท / เดือน Yield 4-5% , ห้อง 1 ห้องนอนขนาด 30-40 ตร.ม. ค่าเช่า 22,000-40,000 บาท / เดือน Yield 4-5%, ห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 45-74 ตร.ม. ค่าเช่า 42,000-65,000 บาท / เดือน Yield 4.5-6.5% และห้อง 3 ห้องนอน ขนาด 74-120 ตร.ม. ค่าเช่า 65,000-100,000 บาท / เดือน Yield 5-6.5%
“จากสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันเนื่องจากราคาที่ดินขยับขึ้นเยอะมาก ดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่เลยพยายามปรับขนาดห้องให้ผู้บริโภคซื้อได้ ทุกรายเลยทำ Packed size ที่ราคาไม่สูงมาก ทำให้สัดส่วนของห้องขนาด 1 ห้องนอนในปี 2015-2018 เพิ่มเป็น 80% และ 2 ห้องนอนลดลงเหลือแค่ 20% เท่านั้น จากเดิมในปี 2009-2014 สัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 50:50 แต่ปัจจุบันดีมานด์ของที่อยู่อาศัยหรือการเช่าย่านเอกมัยจะอยู่ที่ 2 ห้องนอน แสดงให้เห็นว่า Size Matters ในขณะที่ปัจจุบันนี้ห้องขนาด 45 ตร.ม. ขึ้นไป หรือ 2 ห้องนอนค่อนข้างจะขาดตลาด ดังนั้นอิมเพรสชั่น เอกมัย ที่มีห้อง 2 ห้องนอนในสัดส่วนที่สูง จึงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่น และจะเป็นซัพพลายที่มาเติมเต็มดีมานด์ของตลาดได้เป็นอย่างดี”
“อิมเพรสชั่น เอกมัย”…BORN TO STAND OUT
การจะปลุกปั้นโครงการเพชรน้ำเอกอย่าง “อิมเพรสชั่น เอกมัย” นั้น เบื้องหลังคือการ รังสรรค์ภายใต้สโลแกน BORN TO STAND OUT เพราะมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะนำเสนอโครงการที่โดดเด่นและเหนือมาตรฐาน เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยโครงการถูกออกแบบให้มีความสมบูรณ์แบบหรูหราอยู่สบาย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์ บนถนนเอกมัย เดินทางสะดวกสบายใกล้สถานีบีทีเอส เอกมัย แสดงให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาและออกแบบโครงการที่เป็นเอกลักษณ์และมุ่งเน้นให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตได้จริง ที่สำคัญยังเป็นการลงทุนและใส่ใจในรายละเอียดทุกมิติอีกด้วย
โครงการนี้เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นใน Price Point ที่น่าสนใจ คือ 2 ห้องนอน 7.9 ล้านบาท โดยมีแรงบันดาลใจในการออกแบบอาคารมาจากรูปทรงของอักษรนำของ ออลล์ อินสไปร์ฯ ซึ่งเป็นรูปทรงของตัว A โดดเด่นตอกย้ำการเป็น โครงการที่โดดเด่นใจกลางถนนเอกมัย
อิมเพรสชั่น เอกมัย เป็นไฮไรส์ เรสสิเดนท์ จำนวน 380 ยูนิต บนเนื้อที่ 2-3-3.9 ไร่ โดยเน้นทำจำนวนยูนิตที่เพียงพอกับดีมานด์ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบความหรูหรา และห้องแต่ละขนาดที่นำเสนอไม่ค่อยมีในตลาดแบ่งเป็นอาคารที่อยู่อาศัย 2 อาคาร สูง 25 ชั้น และ 43 ชั้น อีก 1 อาคารเป็นอาคารจอดรถ 16 ชั้น โดยชั้นบนเป็นสวนลอยฟ้าสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ มูลค่าโครงการทั้งสิ้น 4,800 ล้านบาท
มีขนาดห้องให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 30 -183 ตร.ม. ได้แก่ 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอน พลัส, 2 ห้องนอน, 2 ห้องนอน พลัส, 3 ห้องนอน, ดูเพล็กซ์ และเพนท์เฮาส์ แต่ละตึกเชื่อมต่อกันด้วยสกาย บริดจ์ ที่เผยให้เห็นวิวอันโอ่อ่าของกรุงเทพฯ
คุณธนากรให้รายละเอียดที่น่าสนใจเพิ่มเติมว่า ห้องชุดของอิมเพรสชั่น เอกมัย จะเน้นห้องที่มีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึง Product Differentiation อย่างชัดเจน โดย 68% เป็นห้องขนาด 2 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน พลัส 43 ตร.ม. ขึ้นไป มีครัวปิด ห้องน้ำเข้าออกได้ 2 ทาง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว เวลามีแขกมาเยี่ยมและต้องการใช้ห้องน้ำ ไม่ต้องเข้าไปที่ห้องนอนก่อน นอกจากนี้ยังทำกระจกกั้น แบ่งพื้นที่เป็นห้องทำงานและห้องนอนเล็กได้ ที่สำคัญทุกห้องสามารถเห็นวิว เปิดหน้าต่างรับลม และระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
ส่วน 2 ห้องนอน มีหน้ากว้างพิเศษ 9.5 เมตร ดื่มด่ำกับบรรยากาศภายนอกได้แบบเต็มที่ เปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ ขณะที่ดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ดีไซน์ให้ห้องอยู่สบาย มีห้องน้ำข้างล่าง ระเบียงใหญ่ มีจากุชชี่ อาบน้ำแร่แช่น้ำนม ชมวิวไปพร้อมกับจิบไวน์เพลิน ๆ ได้ ส่วนชั้น 2 มีห้องน้ำและห้องสปา มีอ่างแช่และสามารถดึงฝักบัวมาอาบได้
ด้าน 3 ห้องนอน ซึ่งเป็น Family suites เป็นที่ต้องการในตลาดคอนโดมิเนียมหรู แต่ไม่ค่อยมีนำเสนอมากนัก ออกแบบเป็นกระจกสองชั้นเวลาเปิดออกไปใช้พื้นที่บริเวณระเบียงก็ไม่รู้สึกร้อนระอุกับสภาพอากาศภายนอก เพราะมีความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ จึงนั่งพักผ่อนได้แบบเย็นสบาย แม้ในเวลากลางวัน ขณะที่ห้องนั่งเล่น และห้องนอนจะมองเห็นวิวหมดทุกห้อง
สุดท้ายคือเพนเฮ้าส์มี 2 ยูนิต ชั้น 41 มีสระว่ายน้ำส่วนตัว 183 ตารางเมตร รื่นรมย์ชมวิวได้ 270 องศา ห้องน้ำทุกห้องมีกระจกและบานกระทุ้งระบายอากาศได้ ตื่นขึ้นมาจะเห็นสระว่ายน้ำเหมือนอยู่ในรีสอร์ท และห้องเพนเฮ้าส์อีกห้องอยู่ชั้น 42 ขนาด 162 ตารางเมตร
เปิด 6 จุดขาย ปั้น “อิมเพรสชั่น เอกมัย” ให้ประสบความสำเร็จ
ไม่เพียงแค่ Prime location ที่ไม่เป็นสองรองใครในย่านเอกมัย แต่อิมเพรสชั่น เอกมัย ยังมีอีก 6 จุดขายที่สร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่น และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จได้โดยง่ายก็คือ
1. สกาย บริดจ์ เพื่อเชื่อมระหว่างตึก เปิดรับวิวใจกลางกรุงเทพฯ 360 องศา
2. พื้นที่จอดรถ 85% พร้อมที่จอดรถสำหรับซูเปอร์คาร์ด้วย
3. เพดานห้องที่สูงถึง 2.9 เมตร ทำให้โปร่ง โล่ง สร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยที่สบาย
4. ระบบเครื่องปรับอากาศแบบ VRF (Variable Refrigerant Flow) ซึ่งไม่มีคอยล์ร้อนในพื้นที่พักอาศัย ไม่กระทบทัศนียภาพและพื้นที่ใช้สอย ทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็ม 100% ไม่ได้ยินเสียงแอร์หรือพัดลมร้อน
5. ห้องดูเพล็กซ์มาพร้อมกับอ่างจากุชชี่ตัวท็อป จากแบรนด์ Cristina
6. ฟังก์ชั่นการใช้งานถูกออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทุกตารางเมตรถูกใช้งานอย่างคุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด
นอกจากนี้ตัวโถงลิฟท์ยังถูกออกแบบให้รองรับกฎหมายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยสามารถนำเปลผู้ป่วยเข้าไปได้ ถือเป็นอีกหนึ่งวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของเอเอชเจ แม้จะทำให้พื้นที่ขายหายไป แต่มองว่าเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นต่อการอยู่อาศัยยุคใหม่
ขณะที่การออกแบบล็อบบี้จะเน้นสไตล์โรงแรม 5 ดาว มีกลิ่นอายของญี่ปุ่นที่เรียบนิ่ง ทว่าหรูหรา ส่วน facilities อื่น ๆ ก็จัดสรรไว้อย่างครบครัน โดยชั้น 26 มีสระว่ายน้ำว่ายรอบได้ 360 องศา พร้อมห้องฟิตเนส, เล้าจน์ และห้องโยคะ โดยในขณะที่ออกกำลังกายในห้องฟิตเนส ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวสระว่ายน้ำด้วย ส่วนชั้น 25 เป็น Kids room และชั้นบนสุดเป็น Inspiring club สำหรับจัดปาร์ตี้ส่วนตัวได้
เท่านั้นยังไม่พอ โครงการนี้ยังทำห้องตัวอย่าง 4 แบบ นำเสนอให้ลูกค้าเห็นถึงความใส่ใจและให้ความสำคัญกับรายละเอียด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าจริง ๆ สมกับชื่อโครงการ “อิมเพรสชั่น เอกมัย”
