ในวันนี้ลูกๆ ของ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งต่างๆ ที่คุณพ่อมอบหมายเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจากไปอย่างเต็มตัวยิ่งกว่าที่เคย โดยมีภารกิจใหญ่ระดับประเทศในฐานะดิวตี้ฟรีที่ทำหน้าที่เป็นหน้าด่านแรก และประตูสุดท้ายส่งผู้มาเยือนให้กลับบ้านด้วยความประทับใจ ภาระอันหนักอึ้งอันนี้ นอกเหนือจาก คุณต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซึ่งคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีแล้ว ลูกชายอีกคนของคุณวิชัย “คุณต้อล-อภิเชษฐ์” ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ดูมีส่วนสำคัญในเรื่องนี้
งานบริการ “พนักงาน” คือ หัวใจ
ด้วยบุคลิกสนุกสนาน เข้าถึงง่ายที่สุดในครอบครัว คุณต้อล ถูกวางตัวเอาไว้จัดการงานที่เหมาะกับนิสัยของตัวเอง นั่นก็คือ “การดูแลบุคลากร” บวกกับงานโอเปอเรชั่น ที่มาคู่กัน ในตำแหน่งผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บ่อยครั้งที่เมื่อมีงานเลี้ยงบริษัท เขาคือคนที่ลุกขึ้นไปเต้นกับพนักงาน ลูกชายเจ้าสัวที่รวยระดับแสนล้านคนนี้สามารถขึ้นลิฟท์ หรือกินข้าวร่วมโต๊ะกับพนักงานได้อย่างสบายๆ (ถึงแม้ว่าจะพนักงานจะชอบแอบทำฟอร์มเดินออกนอกลิฟท์ก็เถอะ)
“เราทำงานเป็นหน้าด่านแรกของประเทศ และเราก็อยู่ในเซ็กเตอร์ของการท่องเที่ยว คนที่อยู่หน้างาน ต้องสนุก รักในการทำงานจริงๆ หน้าที่ของเราก็คือ เราต้องทำให้เขาภูมิใจในงานที่กำลังทำอยู่” นี่คือโจทย์สำคัญที่เขาบอก
ดังนั้น การทำให้พนักงานมีพื้นฐานกำลังใจเป็นเรื่องแรกสำหรับคนทำงานบริการ และสวัสดิการที่คุณต้อลบอกว่าให้ไม่แพ้บริษัทชั้นนำของประเทศบริษัทอื่น แต่การบริหารงานบุคลากรยุคใหม่ต้องมี “ความเข้าใจ” มากกว่าเดิม ในเมื่อวันนี้ธุรกิจของ King Power มีพนักงานทั้งทางตรงและทางอ้อมมากกว่าหมื่นชีวิต ความแตกต่างหลากหลาย ไปจนถึงจุดร่วมในฐานะผู้บริหารต้องมีให้ครบรส
เข้าใจทั้ง Gen X และ Gen Y เพื่อความยั่งยืน
“เราทำธุรกิจมาปีนี้ปีที่ 30 แล้ว ความท้าทายต่อไป คือการบริหารพนักงานใหม่ๆ ที่เข้ามา ยุคสมัยเปลี่ยนไป น้องๆ ที่เข้ามาเขาก็มีวิธีคิดและวิธีการปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงไป เราเคยโหวตกันว่า นอกเหนือจากสวัสดิการขั้นพื้นฐานแล้วพนักงานของเราอยากได้อะไรอีก ปรากฏว่า Gen X อยากได้วันหยุดเพิ่ม แล้วอยากให้ทำกิจกรรมพาไปวัด เป็นกลุ่มเพื่อนของเขา ส่วน GenY บอกว่าไม่เอาวันหยุดเพิ่ม แต่จะขอทำงานยาวๆ แล้วหยุดยาวๆ ทีเดียว”
อินไซต์อีกอย่างของพนักงาน King Power ก็คือ กิจกรรม CSR ที่กลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่สร้างประโยชน์กับสังคม แต่ในมุมของการเอาใจพนักงานก็มีส่วน
“อีกอย่างที่เราค้นพบ คือ “การทำบุญ” นี่เป็นเรื่องที่พนักงานเราภูมิใจมาก เราได้ฟีดแบ็กที่ดีจากพนักงาน และหลายๆ กิจกรรมก็มาจากการโหวตของพนักงาน” คุณต้อลเล่า แต่ดูเหมือนสิ่งนี้จะไม่ยากเท่าไหร่ เพราะพื้นฐานของครอบครัวเขาชอบทำบุญมาโดยตลอดอยู่แล้ว เมื่อรุ่นลูกเข้ามาบริหารงานต่อ การบริจาคในนามส่วนตัวหรือครอบครัวเลยถูกขยับขยาย จัดหมวดหมู่ให้เป็นรูปธรรม จับต้องได้ และหยิบมาสื่อสารสู่ภายนอกมากขึ้น โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัว
“คุณพ่อมีความฝันว่าอยากจะทำให้ฟุตบอลไทย ได้ไปฟุตบอลโลกสักที ดังนั้นเราก็เลยทำโครงการสร้างสนามฟุตบอล แจกลูกฟุตบอล ส่วนเรื่องห้องน้ำที่เราทำ ก็เพราะเราทำงานอยู่ภาคการท่องเที่ยว เราเข้าใจนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่ตัวเราเอง เราไปเที่ยวที่ไหน ห้องน้ำสะอาดจะเป็นเรื่องแรกๆ ที่เราคิดถึง เราก็อยากจะทำห้องน้ำให้มีมาตรฐาน ใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัย หรือแม้แต่คนพิการ”
นี่จึงเป็นที่มาของโครงการสุขา สุขใจ ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ซึ่งตอนนี้สร้างมาเป็นแห่งที่ 4 แล้ว ถึงแม้ว่าทาง King Power จะออกแบบและออกทุนทรัพย์ในการสร้างห้องน้ำที่เป็น Universal Design แต่โจทย์ใหญ่ก็คือเมื่อส่งมอบแล้ว ต้องการพลังจากชุมชนในการดูแลรักษา
คุณพ่อไม่สอน แต่ทำให้ดู
นอกเหนือจากเรื่องของการทำ CSR แล้ว เรื่องของการทำงาน พญามังกร ผู้ล่วงลับ ถ่ายทอดอะไรไว้ให้กับทายาทอีก นี่คือคำถามต่อมา…
“คุณพ่อไม่ค่อยสอนเท่าไหร่ แต่พ่อทำให้ดูมากกว่า พ่อเป็นคนรับฟัง และแก้ไข ปรับปรุงอยู่ตลอด สิ่งที่พ่อบอกตั้งแต่เด็กก็คือ ต้องทำให้คนของเราอยู่ดีกินดี มาทำงานด้วยความสดใส ไม่อย่างงั้นถ้าอะไรมันพังไป มันจะใช้เวลานานกว่าจะกู้มันกลับมาได้ องค์กรที่ดี ก็ต้องเริ่มจากคัดคนดีเข้ามา แล้วดูแลเขาอย่างดี” คุณต้อลพูดถึงคุณวิชัย
ลูกชายคนโตของตระกูลศรีวัฒนประภายังเล่าให้ฟังอีกว่า เขาถูกส่งไปอยู่ที่เมืองจีน 1 ปี ตั้งแต่เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว หลังจากเรียนจบจากอังกฤษและเข้ามาศึกษางานของบริษัทพักใหญ่ ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นนักท่องเที่ยวจีนยังไม่เติบโตและมีกำลังซื้อมหาศาลเช่นทุกวันนี้ แต่ก็เป็นวิสัยทัศน์ของคุณวิชัยที่มองว่า ลูกค้าคนจีนน่าจะเป็นลูกค้าสำคัญของ King Power และประเทศไทย การรู้ “ภาษา” และเข้าใจ “วัฒนธรรม” จะเป็นหัวใจที่ทำให้รับรู้ถึงอินไซต์ลูกค้ากลุ่มนี้
“คุณพ่อส่งให้ไปอยู่ที่นั่น เพื่อที่จะได้รู้ว่าลูกค้าเราเป็นแบบไหน ตอนแรกๆ ก็งงว่าให้ไปทำไม ทุกวันนี้ก็พูดภาษาจีนได้ มันก็ทำให้ช่วยลดกำแพงเวลาพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งตอนนี้เรามีลูกค้าคนจีนหลักล้านคนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
จากความเข้าใจในระดับบริหาร มาสู่ระดับปฏิบัติการ พนักงานของ King Power ต้องพร้อมรองรับลูกค้าหลากหลายเชื้อชาติ เพราะเชื่อว่าการที่พูดภาษาของลูกค้าได้จะเป็นการทำลายนำ้แข็งในใจได้ดีกว่าพูดภาษาอังกฤษ ดังนั้นจึงมีทั้งพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี รวมทั้งที่พัทยาก็มีภาษารัสเซียด้วย
ไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานเท่านั้น แต่ไลฟ์สไตล์เรื่อง “กีฬา” ลูกชายทั้งสองคนก็ถอดแบบพ่อ มาเต็มๆ นอกเหนือจากการเป็นผู้บริหารทีมฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ที่เรารู้กันอยู่แล้ว คุณต้อลยังเล่น “โปโล” เช่นเดียวกับคุณวิชัย และคุณต้อล กับคุณต๊อบ ก็เป็นตัวแทนทีมชาติไทย คว้าเหรียญเงินในซีเกมส์ที่มาเลเซียมาแล้ว