ม.ล. จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการไตรมาสที่4/2561 กรุงเทพประกันชีวิตมีเบี้ยประกันรับปีแรกจำนวน 1,605 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 41 โดยเป็นผลจากการปรับแนวทางการขายและโครงสร้างแบบประกัน ซึ่งเห็นได้จากการที่บริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรกตลอดปี 2561 จำนวน 8,101 ล้านบาท ลดลงจากปี 2560 ร้อยละ 32 ทั้งนี้ในปี 2561 บริษัทได้เน้นสัดส่วนการขายของแบบประกันที่มีระยะเวลาความคุ้มครองระยะยาวมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองระยะยาว รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ที่เน้นความคุ้มครองชีวิตสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความคุ้มครองสูง คือ บีแอลเอ เพรสทีจ ไลฟ์ ที่ให้ความคุ้มครองเริ่มต้น 10 ล้านบาท และคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี ในช่องทางตัวแทน ในภาพรวมเบี้ยประกันรวมของปี 2561 มีจำนวน 40,892 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7 โดยช่องทางตัวแทนมีสัดส่วนเบี้ยประกันรับรวมที่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 34 จากปีก่อนหน้า
บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2561 จำนวน 324,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2560 ร้อยละ 5 โดยสินทรัพย์ลงทุนมีสัดส่วนสูงที่สุดคือร้อยละ 97 ของสินทรัพย์รวม
ในไตรมาส 4 ปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิ 986 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลกำไรสุทธิ 1,745 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2560 และบริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2561 ที่ 4,960 ล้านบาท ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR) ณ สิ้นปี 2561 ที่ระดับร้อยละ 260 โดยมากกว่ากฎหมายกำหนดกว่า 2 เท่า จึงแสดงถึงความมั่นคงในฐานะทางการเงินของบริษัท
บริษัททำการตลาดผ่านทุกช่องทางจำหน่ายไตรมาส 4 ปี 2561 ในแต่ละช่องทาง โดยบริษัทได้ดำเนินการสื่อสารการตลาดในโครงการ BLA FA3B ในช่องทางตัวแทน และผลักดันโครงการ 3BLINK แผนการลงทุนคู่ความคุ้มครอง ผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท และในไตรมาสที่ 4 นี้ บริษัทได้เปิดตัวแบบประกันใหม่ในช่องทางออนไลน์สำหรับการวางแผนภาษีสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการซื้อประกันด้วยตนเอง จำนวน 2 แบบ ได้แก่ บีแอลเอ สมาร์ท เซฟวิ่ง 168 และ บีแอลเอ สมาร์ทเซฟวิ่ง 105 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการวางแผนการออมและการวางแผนภาษี โดยช่องทางออนไลน์จะให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด