เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ปีนี้สงคราม Video Streaming ดุเดือดแน่นอน เมื่อ Disney เดินหน้าส่ง Video Online Streaming ของตัวเอง Disney+ ลงแข่งขันในสงครามนี้ และโกยฐานสมาชิกให้ได้เป็นกอบเป็นกำ Bob Iger ซีอีโอและประธานของดิสนี่ย์ ประกาศชัดเจนในการประชุมผู้ถือหุ้นที่ผ่านมาว่า ดิสนี่ย์จะขนคอนเทนต์การ์ตูนคลาสสิกของตัวเองทั้งหมด มาให้สมาชิกได้ดูกันแบบตูมเดียวตั้งแต่วันแรกที่สมัคร ชนิดที่ไม่ต้องรอ…ไม่ต้องลุ้น
การ์ตูนขึ้นหิ้งของดิสนี่ย์เหล่านี้เรียกว่า “Disney Vault” ซึ่งประกอบไปด้วยคอนเทนต์ที่เราคุ้นเคยกันมานานหลายทศวรรษ ตั้งแต่ Snow White, Mary Poppins(เวอร์ชั่นเก่า) สารพัดเจ้าหญิง จนถึง Frozen การ์ตูนที่เด็กผู้หญิงแต่งตัวตาม และร้อง Let It Goooooooo!!! กันทั่วโลก
นับว่าเป็นการใช้ยาแรง! งัดเอาจุดเด่นของตัวเองซึ่งก็คือ “คอนเทนต์” และ “แบรนด์” ที่ทรงพลังนานนับศตวรรษ การันตีด้วยความสำเร็จของการ์ตูนที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มากระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจสมัครสมาชิก Disney+ ที่งานนี้กลุ่มเป้าหมายผู้ปกครองทั้งหลายที่หวังจะหาคอนเทนต์น้ำดีให้ลูกหลานเสพ รวมทั้งคนวัยมิลเลนเนี่ยลที่มีความหลังกับการ์ตูนดิสนี่ย์น่าจะถูกอกถูกใจกันน่าดู เพราะเพียงแค่รวดเดียวก็เท่ากับว่าดิสนี่ย์มีคอนเทนต์ดีๆ ให้เราได้ดูกันนับร้อยเรื่องแล้ว
กลยุทธ์ที่ออกจะดูโบราณไปสักหน่อย แต่ก็อาจจะเป็นทางเลือกเพื่อทำให้ดิสนี่ย์แข่งขันได้ ในเมื่อ Netflix มีสมาชิกทั่วโลกแล้ว 139 ล้านราย ส่วน Amazon ก็มีสมาชิก 100 ล้านราย Disney+ ที่มาทีหลังก็ต้องงัดทุกกลเม็ดมาดึงความสนใจของผู้ชมให้ได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างแบรนด์บริการสตรีมมิ่งของตัวเองว่าเป็นคอนเทนต์ที่ดูได้ทั้งครอบครัว ขณะที่ Disney ถือหุ้นใน Hulu บริการสตรีมมิ่งที่มีเนื้อหาฮาร์ดคอร์กว่าอยู่แล้ว
นอกจากขนของเก่ามาหากินแล้ว Disney+ ยังมีแผนผลิตคอนเทนต์ขึ้นมาใหม่ โดยใช้เฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานของตัวเอง เช่น ซีรี่ส์ Star Wars, High School Musical รวมทั้งเนื้อเรื่องจาก Marvel, Pixar และ NatGeo ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่า Disney+ จะเปิดตัวเมื่อไหร่แบบเป๊ะๆ แต่วิเคราะห์เชื่อว่าไม่เกินปลายปีนี้ได้เห็นชัวร์!