ในงาน Game Developer Conference ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา Sundar Pichai ซีอีโอของ Google เปิดตัวสิ่งที่มาเขย่าวงการเกมครั้งใหญ่ด้วยบริการเล่นเกมแบบสตรีมมิ่ง “Stadia” ที่จะเปิดให้บริการภายในปีนี้
บริการนี้จะทำให้เหล่าเกมเมอร์หมดความกังวลเกี่ยวกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ว่าสามารถใช้กับเกมได้ไหม รวมทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องราคาที่ต้องลงทุนซื้อ CPU หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพียงแค่อุปกรณ์เครื่องนั้นมีแอปฯ Chrome และสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ คุณก็สามารถเปลี่ยนมันเป็นเครื่องเล่นเกมได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ้ค โทรทัศน์ แทบเล็ต หรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟน รวมทั้งอย่ากังวลไปว่าคุณจะเล่นเกมอยู่คนเดียว เพราะเกมของ Stadia จะสามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์มกับบริการของค่ายอื่นได้ เช่น PlayStation หรือ Xbox
การออกบริการนี้ไม่ได้เป็นเรื่องผิดคาดสักเท่าไหร่สำหรับ Google เพราะในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ได้เปิดตัว “Project Stream” ให้คอเกมได้ทดลองเล่น Assassins Creed Odyssey จาก Chrome ด้วยความละเอียด 1080p 60fps มาแล้ว
เมื่อ Stadia ของจริงมาถึง Google สัญญาว่าจะรองรับคุณภาพระดับ 4K HDR 60fps พร้อมกับมีระบบเสียง surround sound พร้อมกันนี้ยังเอ่ยถึงการใช้งาน 8K 120fps ในอนาคต
ในโอกาสเดียวกันนี้ Google ยังเปิดตัว Stadia controller ที่มาพร้อมกับปุ่มแคปหน้าจอที่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือเป็นวีดีโอหรือเพื่อทำการแคสเกมก็สามารถทำได้ รวมทั้งยังมีปุ่ม Google Assistant อีกด้วย อย่างไรก็ตามการเล่นเกมนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อจอยจาก Google อย่างเดียวเท่านั้น Google เปิดกว้างให้คุณสามารถใช้ controller ยี่ห้ออื่นก็ได้
นอกจากนี้แล้ว Google ยังเปิดตัว Stadia Games and Entertainment ซึ่งเป็นสตูดิโอสร้างเกมของตัวเองอีกด้วย ซึ่งจะสร้างเกมสุด exclusive สำหรับ Stadia โดยเฉพาะ และสตูดิโอนี้ยังมีภารกิจลับอยู่ด้วย
Jade Raymond ผู้ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าบริหารสตูดิโอเกมนี้ นำเอาประสบการณ์ที่ทำงานในวงการเกมมาแล้วกว่า 15 ปีมาพัฒนาสตูดิโอเกมของ Google ก่อนหน้านี้เธอเคยร่วมงานกับ Ubisoft ในช่วงต้นของการพัฒนาเกม Assassin’s Creed ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ Electronic Arts และย้ายมาดำรงตำแหน่ง Vice President ของกูเกิ้ล
Jade Raymond, Vice President of Google หัวหน้าทีมออกแบบเกม
“ดิชั้นตื่นเต้นที่จะประกาศว่า ในฐานะของประธาน Stadia Games and Entertainment จะไม่เป็นเพียงเกมสตูดิโอแรกที่เปลี่ยนภาพของการเล่นเกมแบบเดิมๆ ออกไป พวกเรายังคงทำงานกับนักพัฒนาภายนอกในการนำเทคโนโลยีของ Google ที่คุณเห็นวันนี้ไปใช้กับพาร์ทเนอร์สตูดิโอทั้งหลายไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม” Raymond กล่าว
ในตอนนี้มีสตูดิโอพาร์ทเนอร์ 100 แห่งทั่วโลกได้รับเครื่องมือของ Stadia สำหรับนำไปพัฒนาเกมเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งยังมีวิศวกรรวมทั้งครีเอทีฟกว่า 1,000 คนกำลังเร่งมือในการสร้างเกมใหม่หรือการพอร์ทเกมเก่ามาสู่ Stadia
งานนี้ต้องรอดูท่าทีจาก Sony และ Microsoft ซึ่งเป็นผู้ผลิตเกม ว่าจะออกมาโต้ตอบของบริการนี้อย่างไรบ้าง หรือจะเปลี่ยนมาทำบริการเกมสตรีมมิ่งด้วยในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ถ้าหากว่าเกมของ Stadia มันส์ส์ส์จริง ฮิตจริงแล้วละก็ นี่จะเป็นการพลิกโฉมวงการเกมและสตรีมมิ่งไปอีกระดับเลยทีเดียว และไม่ใช่แค่นั่นเพราะยังมีเรื่องของอุปกรณ์เสริม เครือข่าย และพฤติกรรมการซื้อ เล่นเกม ที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากบริการนี้ของกูเกิ้ล เช่นเดียวกับที่ Netflix เข้ามาเขย่าวงการบันเทิงไปก่อนหน้านี้แล้ว สมกับที่สื่อต่างชาติเรียกบริการใหม่ของ Google นี้ว่า Netflix for game