นับจากรากเหง้าอันแข็งแกร่งของ Mitsubishi Heavy Industries ได้เกิดขึ้นในปี 1870 ในนาม Tsukumo Shokai เพื่อประกอบธุรกิจด้านพาณิชย์นาวี ต่อมาในปี 1873 ดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ Mitsubishi Shokai และเมื่อปี 1886 ขยายไปสู่ธุรกิจเหมืองแร่ อู่ต่อเรือ และการธนาคาร จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Mitsubishi-sha หลังจากนั้นเข้าสู่ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า กระทั่งบริษัท Mitsubishi Heavy Industries ได้ถือกำเนิดอย่างเป็นทางการในปี 1964 ปัจจุบันนับเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น มีสินค้าหลากหลายมากกว่า 700 ประเภท ครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน ทะเล อากาศ และอวกาศ โดยหนึ่งในสินค้าเลื่องชื่อคือเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยโดย บริษัท มหาจักรดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และผลิตโดย บริษัท มิตซุบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์-มหาจักร แอร์คอนดิชั่นเนอร์ส จำกัดหรือ MACO ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1988
ทำไมต้องจากญี่ปุ่น ??
ทำไมต้องเป็นเครื่องปรับอากาศจากญี่ปุ่น และมากกว่านั้นทำไมถึงต้องเป็น Mitsubishi Heavy Duty ที่ควรค่าแก่การเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของผู้บริโภค
คำตอบคือ สินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นขึ้นชื่อและได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพที่คุ้มค่า คุ้มราคา และ Mitsubishi Heavy Duty เองก็เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่สั่งสมชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในตลาดเครื่องปรับอากาศ โดยเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเครื่องปรับอากาศระดับพรีเมี่ยม มีไลน์สินค้าครบครันทั้งแบบ Non-Inverter และแบบ Inverter ที่มีตัว “Super Deluxe Inverter – ZSXS Series” เป็นตัวชูโรง สำหรับสินค้าเครื่องปรับอากาศแบบ Inverter นั้น Mitsubishi Heavy Industries ได้ใช้เทคโนโลยีแบบ Real Inverter หรือ Inverter 100% ทุกรุ่น เพราะมีชิ้นส่วนของ Inverter ครบทั้ง 4 ส่วน ได้แก่ แผงวงจร มอเตอร์ คอมเพรสเซอร์ และตัวควบคุมการไหลของสารทำความเย็น ในขณะที่คู่แข่งรายอื่น ๆ จะมีชิ้นส่วน Inverter เพียง 2-3 ชิ้นเท่านั้น
โดยรายละเอียดของทั้ง 4 ชิ้นส่วนที่ใช้ผลิต Mitsubishi Heavy Duty ได้แก่ แผงวงจรอัจฉริยะ PAM ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์ โดยการปรับเปลี่ยนความถี่ในการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงาน มอเตอร์กระแสตรง นอกจากจะมีความแม่นยำในการควบคุมความเร็วรอบแล้ว ยังเปลี่ยนแปลงความเร็วรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย คอมเพรสเซอร์กระแสตรง DC สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วรอบในการทำงาน ให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิห้องในขณะนั้น จึงช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น และวาล์วอิเล็กทรอนิกส์ EEV ที่ช่วยควบคุมการไหลของสารทำความเย็นให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุด ช่วยให้สามารถรักษาระดับอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
หมัดเด็ดมัดใจตลอดกาล
ท่ามกลางคู่แข่งหลากหลายแบรนด์ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า Mitsubishi Heavy Duty โดดเด่นด้วยคุณสมบัติของแบรนด์ 3 ประการ ที่มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศทุกรุ่น ได้แก่ 1. Quality ใช้วัสดุคุณภาพสูง ไม่ลดต้นทุนอะไหล่ ใช้คอยล์ทองแดงทั้งระบบ 2. Durable มีอายุการใช้งานที่คงทน ยาวนานนับ 10 ปี พร้อมรับประกันชิ้นส่วนทุกชิ้นส่วนนาน 5 ปี นับจากวันที่ติดตั้ง (คอมเพรสเซอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น ตัวถังรวมถึงชิ้นส่วนอื่นๆ ของเครื่องปรับอากาศ) 3. Valuable คุ้มค่าคุ้มราคา ลงทุนครั้งเดียว ได้ของดี มั่นใจในคุณภาพ ดังนั้นสโลแกนที่ว่า “เย็นเร็ว ทนทาน ประหยัดไฟ” จึงเป็นความจริงเชิงประจักษ์ ไม่ใช่คำอวดอ้างที่เลื่อนลอยหรือคำโฆษณาสวยหรูที่เกินจริงแต่อย่างใด
ขณะที่ในแง่ของ Consumer Insight ที่พบ คือ ส่วนใหญ่จะชื่นชอบในความทนทาน ซึ่ง “ความทน” นี้ นอกจากจะเป็น Durable Trustworthy หรือการที่ผู้บริโภครับรู้ถึงคุณสมบัติอันโดดเด่นของแบรนด์ในแง่การใช้งานแล้ว ยังถือเป็น Quality DNA และเป็น Functional Innovation ที่แตกต่างจากคู่แข่ง เพราะไม่มีแบรนด์ไหนหยิบยกเรื่องนี้มาสื่อสารกับผู้บริโภค
นอกจากนี้ Mitsubishi Heavy Duty ยังให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายแบบมืออาชีพด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งการติดตั้ง ล้าง และซ่อม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่าจะได้รับการดูแลอย่างใส่ใจในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ Key Message เกี่ยวกับความทนทาน ถือว่าแข็งแกร่งและถูกเน้นย้ำมาโดยตลอด จนกระทั่งเป็นที่รับรู้ของผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของความทน จากตัวอย่างลูกค้า…… จนกล้ารับประกันแม้เปิด 24ชั่วโมง ติดต่อกันนาน 5 ปี จ่ายครั้งเดียว ทนเกินคุ้ม เย็นเร็ว กินไฟเพียงเล็กน้อย เพราะประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 3 ดาว
ล่าสุดเครื่องปรับอากาศรุ่นเด่นที่ Mitsubishi Heavy Duty จัดจำหน่ายในปี 2019 นี้ คือ Standard Inverter – YW Series ที่เป็นมาตรฐานของ Inverter แบบ Mitsubishi Heavy Duty และมีจุดเด่น 4 ประการ ได้แก่ แผงวงจรเคลือบซิลิโคน ช่วยป้องกันความชื้นและแมลงมป้องกันไฟกระชากได้สูงสุด 470V แผงคอยล์เย็นป้องกันการกัดกร่อนจากสภาพความเป็นกรด/ด่าง, ใช้คอยล์ทองแดงทั้งระบบ 100% ช่วยป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำทะเลและมีอายุการใช้งานนานกว่าคอยล์อะลูมิเนียม
นอกจากจุดเด่นที่กล่าวมาทั้ง 4 ประการแล้ว Standard Inverter – YW Series ยังมีขนาด Btu/h ที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าที่หลากหลาย โดยมีขนาดตั้งแต่ 9,000 Btu/h 12,000 Btu/h 15,000 Btu/h 18,000 Btu/h และ 24,000 Btu/h ตามมาตรฐานสากลอีกด้วย และยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานอย่างระบบกระแสลมเย็น Jet flow ช่วยส่งลมไกล Hi-Power โหมดการทำงานพลังสูงให้ห้องเย็นเร็วขึ้นภายใน 15 นาที และระบบฟอกอากาศบริสุทธิ์อย่าง 24 Hour ION ที่ช่วยปล่อยประจุลบ ทำให้ห้องมีอากาศบริสุทธิ์สดชื่นไหลเวียนตลอดการใช้งาน และระบบทำความสะอาดอย่าง Self Clean Operation ที่จะทำงานโดยอัตโนมัติหลังจากกดปิดเครื่อง มอเตอร์พัดลมจะทำการเป่าเบาๆ ให้คอยล์เย็นแห้งเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Mitsubishi Heavy Duty “เย็นเร็ว ทนทาน ประหยัดไฟ” สามารถยืนหยัดในตลาดเครื่องปรับอากาศได้อย่างแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ด้วยจุดขายที่ยากจะเลียนแบบ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในเรื่องของความเย็นที่ทนทาน ขณะเดียวกันก็ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวเพราะกินไฟน้อย จ่ายครั้งเดียว…
ทนเกินคุ้ม ดังนั้นราคาจำหน่ายที่สูงจึงเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้ดึงดูดทั้งลูกค้าหน้าใหม่ที่ไม่ได้มองเรื่องราคาสำคัญไปกว่าคุณภาพที่อึดและทน ตลอดจนอายุการใช้งานที่ยาวนาน รวมถึงยังคงรักษาลูกค้าที่จงรักภักดีให้ใช้งานอย่างต่อเนื่องต่อไป