นับตั้งแต่สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เปิดให้บริการบินเส้นทางระยะไกลแบบต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสแอร์ไลน์ ในช่วงกลางปี 2557 เป็นต้นมา ก็สามารถทำตัวเลขผลประกอบการได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะทำกำไรต่อเนื่องติดต่อมาถึง 3 ปีแล้ว ความสำเร็จคงเกิดจากหลายปัจจัยเป็นตัวประกอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดเส้นทางการบินที่ไปยังเมืองยอดนิยมของคนไทย การบริหารจัดการภายใน การบริการของพนักงานต้อนรับ และการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉาะในเรื่องของโปรโมชั่นราคาที่กระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี
ปีที่ผ่านมาแม้บทสรุปของผลการดำเนินงาน อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่าจะทำรายได้ 10,000 ล้านบาท เพราะปิดตัวเลขไป 9,500 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่ในปี 2562 ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ขอวางเป้าหมายในการสร้างการเติบโตกับตัวเลข 50% ด้วยเป้าหมายรายได้ 15,000 ล้านบาท แม้ว่าจะเติบโตมาก แต่เป็นการเติบโตแบบมีเหตุผล เพราะวาง 3 กลยุทธ์สำคัญ
1.เพิ่มความถี่ในเส้นทางเดิม
โดยความเป็นไปได้ จะเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางดอนเมือง ไปยังเมืองโอซาก้า จากสัปดาห์ละ 14 เที่ยวเพิ่มเป็น 17 เที่ยว เส้นทางดอนเมืองไปยังโตเกียว เพิ่มขึ้นจากวันละ 3 เที่ยวเป็นวันละ 4 เที่ยว เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเที่ยวบินได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการเดินทางท่องเที่ยว
คุณนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เล่าว่า ยุทธศาสตร์การเติบโตของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะเป็นแบบ Conservative ไม่เปิดเส้นทางหรือเที่ยวบินแบบบ้านเลือด แต่จะเป็นแบบมีเหตุมีผล อย่างเช่นการเพิ่มเที่ยวบินจากดอนเมือง-โตเกียว เป็นเพราะญี่ปุ่นจะจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
2.เปิดเส้นทางใหม่ในประเทศเดิม
ในประเทศญี่ปุ่น ยังมีโอกาสเปิดเส้นทางการบินเพิ่มได้อีก อาทิ เมืองนาโกย่า ที่เป็นเสมือนเมืองศูนย์กลางของนักธุรกิจและผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางไปยังเมืองดังกล่าวเท่านั้น แต่ชาวญี่ปุ่นเองก็มีโอกาสเดินทางมายังประเทศไทยด้วย หรือแม้แต่เมืองเซนไดของประเทศญี่ปุ่น ก็มีโอกาสเชนกันในการเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น
ล่าสุด ไทยแอร์แอเชีย เอ็กซ์ เปิดเส้นทางการบินใหม่ ดอนเมือง-ฟุกุโอกะ จำนวน 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ ในราคาเริ่มต้น 2,990 บาทต่อเที่ยว การเปิดเส้นทางดังกล่าวเป็นเพราะ คนไทยยังนิยมเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี เพราะไม่ต้องขอวีซ่า การเดินทางสะดวกสบาย และประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ได้เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเฉพาะเมืองหลักเท่านั้น แต่เริ่มขยายไปยังเมืองรองด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย
3.เพิ่มจำนวนเครื่องบินอีก 5 ลำ
ในปีนี้ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เตรียมรับมอบเครื่องบินเพิ่มอีกจำนวน 5 ลำ จากปัจจุบันมีเครื่องบินจำนวน 9 ลำ จะทำให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้โดยสารมากขึ้นได้เป็น 3 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้โดยสาร 1.98 ล้านคน
ด้านนายเอโกะ โอะนุมะ ผู้อำนวยการบริหารองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น JNTO ประจำประเทศไทย รายงานว่า ปัจจุบันเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ – ญี่ปุ่นมีจำนวนถึง 234 เที่ยวต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้า 197 เที่ยวต่อสัปดาห์ ซึ่งปีที่ผ่านมามีคนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่า 1.13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.4% เฉพาะช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ คนไทยก็เดินทางไปญี่ปุ่นแล้วกว่า 200,000 คน เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 21.7% ติดอันดับ 5 ของชาวต่างชาติที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น รองจาก เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน และฮ่องกง และคนไทยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นซ้ำเป็นครั้งที่ 2 มากกว่า 70%