หลายครั้งที่การมองตลาดอย่างลึกซึ้ง และเข้าไปทำความรู้จักกับผู้บริโภคก็อาจทำให้เจอโอกาสของโปรดักท์ใหม่ได้เช่นกัน โดยภาพนี้เกิดขึ้นในงานเปิดตัวซิม CMLink TrueMove H ที่เป็นการจับมือกันของสองค่ายโทรคมนาคมอย่าง China Mobile เจ้าของฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ 900 ล้านรายของจีน และทรูมูฟ เอช ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับสองของไทย เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการชาวจีนในประเทศไทยโดยเฉพาะ
โดยความน่าสนใจของซิมตัวนี้อยู่ที่เป้าหมายในการพัฒนา เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบัน ทุกค่ายโทรคมนาคมต่างมีซิมสำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่แล้ว อะไรทำให้ ทรูมูฟ เอช มองว่าบริษัทควรมีซิมสำหรับให้บริการกลุ่มชาวจีนที่อาศัยในประเทศไทยออกมาโดยเฉพาะ เหล่านี้เป็นประเด็นที่เราจะชวนไปค้นหากัน
คนจีนในไทยมี 3 กลุ่มใหญ่
เริ่มแรกอาจต้องย้อนไปที่ตัวกลุ่มเป้าหมาย เมื่อ ทรูมูฟ เอช พบว่า ปัจจุบัน คนจีนที่อาศัยอยู่ในไทย สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยว กลุ่มคนจีนที่มาทำงาน และคนจีนที่มาศึกษาต่อ ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความต้องการใช้งานแพกเกจมือถือแตกต่างกัน เช่น กลุ่มคนจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยว กลุ่มนี้อาจอยู่ในเมืองไทยไม่นาน เฉลี่ยประมาณ 1 สัปดาห์ จึงมักเช่าพ็อกเก็ตไวไฟสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือไม่ก็ซื้อซิมที่วางขายทั่วไปสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ส่วนพฤติกรรมในการใช้งาน แน่นอนว่านักท่องเที่ยวจีนย่อมเน้นอัพคลิป – ภาพถ่ายลงในโซเชียลมีเดียของจีน เช่น Weibo, WeChat ร่วมด้วย
ขณะที่อีกสองกลุ่มอย่างคนจีนที่มาทำงาน และคนจีนที่มาศึกษาต่อนั้น พบว่าพฤติกรรมแตกต่างจากกลุ่มที่มาท่องเที่ยว โดยจะใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อกับญาติพี่น้องในจีนเป็นหลัก นอกเหนือจากการใช้งานเพื่อหาข้อมูล หรือเล่นโซเชียลมีเดียทั่ว ๆ ไป
อย่างไรก็ดี ทรูมูฟ เอช พบว่า คนจีนทั้ง 3 กลุ่มนี้มีความไม่สะดวกอยู่บางประการในการใช้งานเครือข่ายโทรคมนาคมของไทย นั่นคือ
- ปัญหาด้านการใช้จ่ายเงินที่คนจีนมักไม่ใช้จ่ายเงินสด แต่จ่ายผ่าน Wallet ต่าง ๆ
- ปัญหาด้านภาษา เช่น อ่าน SMS ที่เข้ามาไม่ออก ทำให้รู้สึกว่าตนเองเสียประโยชน์
- ปัญหาด้านค่าบริการเครือข่ายโทรคมนาคมที่มีราคาแพง ยกตัวอย่างเช่น การเช่าพ็อกเก็ตไวไฟ หรือการโทรศัพท์กลับบ้านเกิดที่จีน
จากปัญหาสู่แนวทางแก้ไข จุดเริ่มต้นซิม CMLink TrueMove H
นอกจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว จากการเปิดเผยของคุณจัสติน อัง เคง ทียอง รองหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังเผยว่า คนจีนเหล่านี้มีความต้องการระบบสื่อสารเคลื่อนที่ที่รวดเร็ว และสามารถเข้าถึงสื่อดิจิทัลได้อย่างสะดวกสบายด้วย
จากปัจจัยทั้งหมด จึงเป็นที่มาของซิม CMLink TrueMove H ที่ออกแบบโดยการนำปัญหาและความต้องการของคนจีนมากางรวมกันให้เห็นชัด ๆ และออกแบบให้ซิมสามารถตอบโจทย์การใช้งานของชาวจีนในด้านต่าง ๆ ที่กล่าวมาได้ นั่นคือ
- สามารถผูกเบอร์เข้ากับเบอร์ของตัวเองที่ประเทศจีน (เฉพาะเครือข่าย China Mobile) ดังนั้น เมื่อโทรกลับจีน ผู้รับสายปลายทางจะเห็นเลยว่าเป็นหมายเลขของ China Moblie หรือเป็นชื่อที่ได้บันทึกไว้ในเครื่อง
- สามารถรับ SMS ได้ฟรีจากเครือข่าย China Mobile เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการโพสต์ภาพ หรือคลิป เพราะการโพสต์คอนเทนต์ในจีนนั้น ผู้โพสต์จะต้องได้รับรหัส OTP ผ่าน SMS เพื่อยืนยันตัวตนก่อนจึงจะโพสต์ได้ การรับ SMS ได้ฟรีจากจีนจึงตอบโจทย์คนจีนในประเทศไทย
- โทรกลับจีนได้ฟรี 1,000 นาที (เฉพาะเบอร์ในเครือข่าย China Mobile เท่านั้น)
- ใช้งาน WeChat, Weibo และ QQ ได้ฟรี
- จ่ายชำระค่าบริการผ่าน WeChat Pay, Alipay และ Union Pay ได้
- มีคอลล์เซ็นเตอร์ที่พูดภาษาจีนได้ให้บริการโดยเฉพาะ
- มีบริการส่งซิมให้ถึงบ้าน โดยสามารถส่งไปได้ทั้งในจีน, ฮ่องกง และไทย
ถามต่อว่า แล้วกลุ่มคนจีนในไทยมีมากพอที่ทรูมูฟ เอชจะพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์หรือไม่ ในจุดนี้ มีข้อมูลจากหน่วยงานด้านประชากร องค์การสหประชาชาติที่ระบุว่า เฉพาะในปี 2017 เพียงปีเดียวก็มีชาวจีนเข้ามาอาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นถึง 4.6 แสนคน และมากกว่า 1 ใน 3 ของคนจีนเหล่านั้นเลือกมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
หรือในส่วนของนักท่องเที่ยว ปี 2018 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 11.8 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 13 – 14 ล้านคนในปีนี้ (ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) จะเห็นได้ว่าเป็นตัวเลขที่คุ้มค่าพอสมควรเลยทีเดียวกับการเปิดตลาดใหม่ให้กับซิม CMLink TrueMove H
สำหรับการเจาะตลาดนั้น ทรูมูฟ เอช ระบุว่า หากเป็นนักท่องเที่ยวจะเน้นทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดียที่ชาวจีนนิยมใช้งาน แต่ถ้าเป็นกลุ่มคนจีนที่เข้ามาเรียน และมาทำงานในประเทศไทยนั้น ทรูมูฟ เอชจะบุกเข้าไปทำความรู้จักกันถึงสถาบันการศึกษา – ที่ทำงานเลยทีเดียว ซึ่งเป้าหมายของการเปิดตัวซิม CMLink TrueMove H นั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อขยายตลาดของผู้ใช้งานของทรูมูฟ เอช จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 2 ของตารางให้เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ทรูมูฟ เอช ก็จะได้ดาต้าผู้ใช้งานก้อนใหญ่อีกก้อนมาเก็บไว้กับตัว แถมดาต้าก้อนนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ ใช้จริง จ่ายจริง และเป็นคนที่ภาคธุรกิจไทยโหยหาด้วยนั่นเอง