ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้พฤติกรรมการถ่ายภาพของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมคนที่ชอบถ่ายภาพต้องพกกล้อง และต้องมีความสามารถในการถ่ายภาพระดับหนึ่งจึงจะได้ภาพที่สวยงาม แต่ในวันนี้ การพกกล้องกลับพบได้น้อยลง เปลี่ยนเป็นการหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายภาพเสียมากกว่า
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงก็คือ ความก้าวหน้าของกล้องในสมาร์ทโฟน ซึ่งในบางรุ่นมีการออกแบบให้ถ่ายภาพได้เทียบเท่ากับกล้อง DSLR ความสามารถเหล่านี้ส่งผลให้คนทุกเพศทุกวัยสามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงามไม่ต่างจากการพกกล้องระดับมืออาชีพ แถมยังสามารถแชร์ได้อย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย จึงทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้ดีกว่า
ความเปลี่ยนแปลงข้างต้นยังนำไปสู่การผลิตสมาร์ทโฟนสำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะ เห็นได้จากการที่ Huawei พัฒนาสมาร์ทโฟน P Series ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2012 (สมัยนั้นใช้ชื่อ Ascend P1) จุดเด่นของ P Series ก็คือ การจับมือกับ Leica เพื่อพัฒนาเลนส์สมาร์ทโฟนร่วมกันจนช่างภาพหลายคนยกนิ้วให้ในความสามารถด้านการถ่ายรูป สะท้อนได้จากตัวเลขยอดขาย Huawei P20 Series ในปี 2018 ที่ทำได้กว่า 16 ล้านเครื่องทั่วโลก ทั้ง ๆ ที่ตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวจากปัญหาสงครามการค้า จีน – สหรัฐ
จาก HUAWEI P9 ถึง HUAWEI P30 Series ฉีกกฎของการถ่ายภาพด้วยมือถือ
จากความสำเร็จของ Huawei P20 Series มาสู่ Huawei P30 Series ซึ่งเป็นซีรีส์ล่าสุด (ประกอบด้วย HUAWEI P30 และ HUAWEI P30 Pro) ถือเป็นอีกครั้งที่ Huawei ภูมิใจกับผลงานการออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถึงขนาดกล่าวว่า เป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของการถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอที่ยังไม่เคยมีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใดก้าวข้ามได้มาก่อน
โดยส่วนประกอบของตัวกล้องที่ในรุ่น P30 Pro มาพร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ดังนี้
– Leica Quad Camera System ประกอบไปด้วยกล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซลที่ใช้เซนเซอร์รับแสงรูปแบบใหม่ซึ่งมีขนาดพิกเซลรับแสงที่ใหญ่ขึ้น
– HUAWEI SuperSpectrum กล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
– กล้องถ่ายภาพระยะไกลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– กล้องสำหรับการวัดระยะวัตถุด้วยแสง (ToF Camera) ซึ่งจะทำให้การถ่ายภาพในลักษณะหน้าชัดหลังเบลอทำได้เป็นธรรมชาติ
– เลนส์ SuperZoom ที่รองรับออพติคัลซูมสูงสุด 5 เท่า ไฮบริดซูมสูงสุด 10 เท่า และดิจิทัลซูมสูงสุด 50 เท่าที่ Huawei โชว์ว่าซูมไปถึงดวงจันทร์ได้เลยทีเดียว
– การทำงานร่วมกันของ HUAWEI AIS, OIS เพื่อให้ภาพถ่ายและวิดีโอคมชัด ไม่สั่น และสามารถถ่ายวิดีโอในที่มืดคมชัด
– ฟีเจอร์ Dual-view Video ที่กล้องสามารถถ่ายวิดีโอได้หลายระยะในเวลาเดียวกัน เวลาถ่ายคอนเสิร์ตบนเวที จึงสามารถถ่ายได้ทั้งมุมกว้าง หรือจะซูมหน้านักร้องชัดๆ ก็ย่อมได้
จากสเปคที่กล่าวมา ทำให้เราสามารถใช้สมาร์ทโฟนเครื่องเดียวถ่ายภาพได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์ ทุกสภาพแสง โดยไม่ต้องแบกเลนส์ หรือขาตั้งกล้องอีกต่อไป
นอกจากนั้น สิ่งที่ทำให้ Huawei มั่นใจอีกข้อก็คือ ผลคะแนนจาก DxOMark เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ผู้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนใน 3 ด้าน ได้แก่ เลนส์ กล้อง และตัวสมาร์ทโฟนเอง ได้จัดอันดับให้ Huawei P30 Pro Series ได้ 112 คะแนน และเป็นคะแนนที่สูงที่สุดของตารางในขณะนี้
AI-แบตเตอรี่–สีสัน ช่วยชูโรง
แต่ไม่ใช่มีดีแค่กล้องอย่างเดียว เพราะ Huawei ยังเชื่อว่าสมาร์ทโฟน P30 Series จะเป็นรากฐานสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย เราจึงได้เห็นการนำ AI เข้ามาช่วยให้การทำงานต่าง ๆ สะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงเรื่องแบตเตอรี่ที่ขึ้นชื่อเรื่องใช้ทนและชาร์จเร็ว ตอบโจทย์ชาวดิจิทัลที่เป็น Smartphone Heavy User ได้อย่างดี อีกประการคือเรื่องดีไซน์และสีสันที่ครั้งนี้มาในสีใหม่ สี Breathing Crystal และ Aurora แบบไล่เฉดสีที่ Huawei เป็นผู้นำเทรนด์ให้กับวงการสมาร์ทโฟน
เปิดตัวอย่างฮือฮา กระแสตอบรับล้นทะลัก
โดยหลังจากเปิดตัว Huawei P30 Series ในเมืองไทย และเริ่มพรีออเดอร์เมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทเผยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวได้รับกระแสตอบรับล้นหลาม และมียอดจองสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เหนือกว่ายอดจอง P20 Series ถึง 2.5 เท่าหลังเปิดจองแค่ 4 วัน ทั้งยังเกิดกระแสไวรัลมากมายว่าเป็นมือถือกล้องเทพที่ใครหลายคนอยากครอบครอง
ขณะที่การเปิดจำหน่ายทั่วประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 เมษายนนั้น ก็ปรากฏภาพผู้บริโภคมารอคิวซื้อผลิตภัณฑ์อย่างล้นหลามที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งปรากฏการณ์นี้คงทำให้หลายคนอยากติดตามต่อไปทีเดียวว่า Huawei P30 Series จะเป็นสมาร์ทโฟนที่สร้างความตื่นเต้นให้ตลาดสมาร์ทโฟนครึ่งปีแรกได้มากแค่ไหน รวมถึงจะทำยอดขายได้สูงกว่า P20 Series มากน้อยแค่ไหนด้วย