คุณกวิน ประชานุกูล ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ ShopBack ประจำประเทศไทย และ คุณวรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN
นอกเหนือจากแสวงหาลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่องแล้ว หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน คือ การรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันหรือลูกค้าที่มีอยู่แล้วให้เหนียวแน่น และเพิ่มความถี่ในการใช้สินค้าหรือบริการให้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับ LINE MAN ที่นำเสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากบริการสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นเบอร์หนึ่งด้าน Cashback อย่าง ShopBack ในการคืนเงินสดรวมกันสูงสุด 80 บาทต่อวัน เมือใช้บริการ LINE MAN Food Delivery และ LINE MAN Taxi ผ่าน ShopBack
คุณวรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN กล่าวว่า “LINE MAN ให้บริการปีที่ 3 แล้ว ได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 1.5 ล้าน ส่วน LINE MAN Taxi เพิ่งครบรอบ 1 ปีเต็ม ด้านการเติบโต LINE MAN Food มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการ Food Delivery ที่มีจำนวนร้านอาหารหลากหลายมากที่สุด ทั้งร้านสตรีทฟู้ดส์และเชนร้านอาหารรวมกันกว่า 40,000 ร้าน สำหรับกลยุทธ์ใน ปี 2019 นี้ จะโฟกัสที่ลูกค้าปัจจุบัน ไม่ใช่แค่ลูกค้าหาใหม่เท่านั้น แต่จะดูแลลูกค้าปัจจุบันให้ดีมากขึ้น ด้วยการทำให้ลูกค้าเดิมยังคงใช้อยู่และใช้ซ้ำบ่อยครั้งขึ้น จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เราอยากให้ลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาใช้งานซ้ำเป็นประจำทุกวัน ถือเป็นการเพิ่มความถี่ และจากฐานข้อมูลของเราพบว่าแนวโน้มหรือเทรนด์การใช้งานของลูกค้าก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่เราต้องการกระตุ้นพฤติกรรม การใช้งานให้เพิ่มมากขึ้นอีก โดยตั้งแต่ต้นปี 2019 เป็นต้นมา LINE MAN ได้ใช้แคมเปญเพิ่มความถี่โดยนำสิทธิประโยชน์ต่างๆ มาดึงลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคูปองส่วนลด, ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ, สั่งอาหารได้สิทธิ์ 1 แถม 1 หรือ Lucky Draw เพื่อลุ้นไอโฟน และล่าสุดคือ แคมเปญที่ร่วมกับ ShopBack โดยหยิบ “เครดิตเงินคืน”(Cashback) มาเป็นเครื่องมือ เพื่อเชิญชวนให้ลูกค้าเห็นว่าหากยิ่งใช้บริการทั้งสองประเภทของ LINE MAN มากเท่าไร ก็จะยิ่งมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น”
“โดยตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 พฤษภาคม ภายในสัปดาห์เดียวกัน หากลูกค้าใช้ LINE MAN Food Delivery สั่งซื้ออาหารสูงสุด ได้รับเงินเครดิตเงินคืน 40 บาทต่อครั้ง และหากใช้ LINE MAN Taxi ในการเดินทางก็จะได้รับเครดิตเงินคืน 40 บาทเช่นเดียวกัน รวมเป็นได้รับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 80 บาทต่อสัปดาห์เลยทีเดียว สิทธิประโยชน์นี้ถือเป็นการอัพไซส์ขึ้นมากกว่าเดิม 2 เท่าจากก่อนหน้าที่เคยร่วมมือกับ ShopBack ให้สิทธิประโยชน์เครดิตเงินคืน 15 บาทมาแล้ว สำหรับผู้ใช้ LINE MAN Food Delivery ตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 เมื่อเทียบกับ Basket size ของยอดสั่งซื้ออาหารและค่าแท็กซี่ที่ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ ถือเป็นการให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามาก LINE MAN จึงมั่นใจว่าสิทธิประโยชน์ที่จัดสรรมาเป็นอย่างดีนี้ จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว และทำให้ลูกค้าพึงพอใจได้”
“สำหรับการร่วมมือระหว่าง LINE MAN กับ ShopBack นั้น เรามองว่า ShopBack เป็นแพลตฟอร์มที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ และสามารถตอบโจทย์เป้าหมายทางการตลาดของ LINE MAN ได้อย่างดี โดยความร่วมมือ O2O Platform Service ครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกอย่างเป็นทางการในเมืองไทย ซึ่งจะประเดิมด้วย 2 บริการหลักยอดนิยมของ LINE MAN คือ LINE MAN Food Delivery กับ LINE MAN Taxi และเชื่อว่าจะได้ Transaction เพิ่มขึ้นจาก ShopBack อย่างแน่นอน”
“อยากให้มองว่า LINE MAN เป็นผู้ช่วยมือหนึ่งของลูกค้า ไม่ว่าอยากจะกินอะไร หรืออยากจะเดินทางไปไหนก็ตาม อย่างน้อยให้นึกถึงเราเป็นอันดับแรก ถ้าผู้บริโภคเห็นความสำคัญและไว้วางใจเราให้เป็นผู้ช่วยมือหนึ่งที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลาถือว่าประสบความสำเร็จ โดยเราตั้งเป้าว่าภายในหนึ่งสัปดาห์ จะต้องมีการใช้งานอย่างน้อย 1 ครั้ง และมากไปกว่านั้น ต้องมีการใช้ LINE MAN ซ้ำๆ บ่อยๆ เหมือนเป็นกิจวัตรที่ต้องทำ ขาดไม่ได้ อยากให้ลูกค้าใช้ทุกวัน ทำให้เขาคุ้นเคยว่าเราตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และอำนวยความสะดวกสบายให้กับเขาได้จริงๆ ที่สำคัญยังได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอีกต่างหาก” คุณวรานันท์ กล่าวทิ้งทาย
ด้านคุณกวิน ประชานุกูล ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการ ShopBack ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ShopBack เป็นแอปพลิเคชั่นที่คอยเชื่อมระหว่างพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นร้านค้าต่างๆ กว่า 100 ราย เช่น อีคอมเมิร์ซ, เว็บไซต์รับจองสายการบิน, เว็บไซต์รับจองโรงแรม กับทางผู้ใช้งาน (User) โดยให้เครดิตเงินคืนกับลูกค้าที่จับจ่ายหรือจองผ่านทาง ShopBack โดยทางพาร์ทเนอร์จะมอง ShopBack เป็น Marketing Channel ที่ใช้เงินได้มีประสิทธิภาพมากกว่า หรือมี Cost Efficiency มากกว่า เพราะพาร์ทเนอร์จะจ่ายค่าคอมมิชชั่นเฉพาะเมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่ง ShopBack ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ Affiliate Marketing หรือการตลาดแบบช่วยขายและโปรโมทสินค้าเป็นการช่วยหาลูกค้าให้กับพาร์ทเนอร์”
คุณกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ ShopBack จะมีการร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นในธุรกิจต่างๆ แต่กับ LINE MAN ถือว่าเป็นความร่วมมือที่ค่อนข้างครบวงจร และมาตรฐานลูกค้าของ LINE MAN กับ ShopBack ถือเป็นกลุ่มเดียวกัน คือกลุ่มอายุ 24-35 ปี และให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า คุ้มราคา เมื่อตัดสินใจจะซื้อสินค้าและบริการอะไร (Value Conscious) ซึ่งสิทธิประโยชน์นี้ลูกค้าจะได้รับทันทีโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกรอกรหัสหรือโค้ดโปรโมชั่นใดๆ เพียงแต่ลูกกค้าใช้บริการ LINE MAN ผ่าน ShopBack เท่านั้น โดยนอกเหนือจากลูกค้าปัจจุบันของ LINE MAN ลูกค้าที่เป็น New User ก็สามารถรับสิทธิประโยชน์นี้ได้เช่นกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าลูกค้าแทบไม่เสียอะไรเลย มีแต่ได้กับได้ ซึ่ง ShopBack จะเป็นเหมือนประตูแห่งโอกาสอีกบาน ที่เปิดให้กลุ่มคนที่ไม่เคยใช้ LINE MAN มาก่อน ได้ลองใช้ และขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้ลูกค้าที่ใช้อยู่แล้วให้ใช้มากขึ้นด้วย”
“โดยสิ่งที่ทำให้ ShopBack แตกต่างและโดดเด่นจากแพลตฟอร์มเครดิตเงินคืนรายอื่น คือ การปฏิวัติวงการช้อปปิ้งออนไลน์ ด้วยการมอบ “เงินคืน” ทุกครั้งที่คุณช้อป ซึ่งทุกครั้งที่จับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ จะได้รับเป็นเงินสะสมเข้าบัญชี ShopBack แล้ว ลูกค้าสามารถโอนเข้าบัญชีธนาคารเป็นเงินจริงๆ ที่นำไปใช้ได้เลย”
ทั้งนี้ Shopback ถือเป็นสตาร์อัพดาวเด่นจากสิงคโปร์ ปัจจุบันทำธุรกิจใน 7 ประเทศ และเปิดให้บริการในไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 สำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทยมีจำนวนหลักล้าน เพื่อไม่ให้ทุกคนพลาดสิทธิประโยชน์เหนือระดับ ที่คุ้มค่าแบบสุดๆ จาก LINE MAN x ShopBack อย่าลังเล รีบดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ShopBack เพื่อใช้งานได้เลยที่แอปสโตร์ และกูเกิ้ลเพลย์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม จะทำให้คุณจ่ายสนุกและมีเงินเหลือไปช้อปปิ้งแบบเพลินๆ กว่าเคย