จากที่เคยประกาศว่าจะเปิดตัว Galaxy Fold สมาร์ทโฟนพับได้รุ่นแรกของ Samsung ต่อสาธารณะในวันที่ 26 เมษายนนี้ ล่าสุดทาง Samsung ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการแล้วว่า บริษัทขอเลื่อนการเปิดตัว Galaxy Fold ออกไปก่อน และจะบอกกล่าวเรื่องวันเปิดตัวรอบใหม่ในสัปดาห์หน้า
เรียกว่าเป็นประเด็นให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่องสำหรับสมาร์ทโฟนพับได้ ซึ่งว่ากันว่าเป็นอนาคตของโทรศัพท์มือถือที่จะเรียกความสนใจของผู้ใช้งานให้กลับคืนมา ทว่า การเริ่มต้นที่ไม่ดีนักของ Samsung Galaxy Fold กับปัญหาหน้าจอแตกหัก และมีการแสดงผลผิดพลาด หลังจากการส่งให้สื่อสำนักต่าง ๆ ทดสอบ กำลังกลายเป็นสิ่งที่บริษัทต้องหาทางออกให้ดีที่สุด เพื่อยังคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นของแบรนด์
โดยการตัดสินใจของ Samsung คือการเลื่อนการเปิดตัวออกไปอีกระยะหนึ่ง และจะประกาศวันเวลาที่ชัดเจนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
สิ่งที่ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สร้างปัญหาอาจเป็นเรื่องของการสื่อสาร โดย Samsung ระบุว่าบริษัทมีการสื่อสารที่ชัดเจนไปยังผู้สื่อข่าวที่รับเครื่องไปรีวิวว่าไม่ควรลอกแผ่นเลเยอร์ที่ปิดหน้าจอด้านบนออก เนื่องจากเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ปกป้องหน้าจอทัชสกรีนเอาไว้ แต่กลับพบว่า ผู้สื่อข่าวจำนวนมากยังพยายามจะลอกแผ่นนี้ออก โดยหนึ่งในนั้นคือ Mark Gurman ผู้สื่อข่าวจาก Bloomberg
The phone comes with this protective layer/film. Samsung says you are not supposed to remove it. I removed it, not knowing you’re not supposed to (consumers won’t know either). It appeared removable in the left corner, so I took it off. I believe this contributed to the problem. pic.twitter.com/fU646D2zpY
— Mark Gurman (@markgurman) April 17, 2019
โดยหลังจากการหาสาเหตุเบื้องต้น Samsung ระบุว่า แนวทางแก้ไขในระยะแรกคือการเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลหน้าจอ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องคำแนะนำ เกี่ยวกับการดูแลรักษา และการใช้งาน Galaxy Fold เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดต่อไป
ส่วนลูกค้าที่มีการพรีออเดอร์ Galaxy Fold ไปแล้ว ทางบริษัทระบุว่าจะมีการส่งอีเมลเพื่อแจ้งรายละเอียดในการจัดส่งเพิ่มเติมภายในสองสัปดาห์ และจะไม่มีการเก็บเงินจนกว่าการจัดส่งจะเริ่มขึ้น รวมถึงผู้ที่อยากเปลี่ยนใจ ก็สามารถยกเลิกออเดอร์ได้
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Samsung ประสบปัญหาด้านการออกแบบ เพราะในอดีต การออกแบบปากกาของ Galaxy Note ก็เคยสร้างความสับสน และนำไปสู่การเสียบกลับเข้าตัวเครื่องผิดทิศผิดทางมาแล้ว จึงเป็นไปได้ว่านอกจากปัญหาด้านการสื่อสาร งานด้าน UX/UI ก็อาจเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ Samsung ต้องกลับมาทบทวนอีกครั้งด้วยเช่นกัน