คุณปริษา ปานะนนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการตลาด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า งานเวิร์คช็อปครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ขายสินค้าออนไลน์ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจในโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น สามารถพาธุรกิจให้เติบโตต่อไปในยุคปัจจุบันที่โลกธุรกิจออนไลน์มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ภายใต้ชื่องาน “เคียงคู่ผู้ลงมือทำ EP.1 เคลียร์คำถามคาใจขายออนไลน์ให้ปัง” ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานจะได้ร่วมฟังประสบการณ์การทำธุรกิจให้ปังจากแขกรับเชิญพิเศษ พบคำตอบทุกปัญหาล้วงลึกตอบจริง ในทุกเทคนิคการทำตลาดออนไลน์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเฟซบุ๊กและไลน์ไทยแลนด์
สำหรับผู้ที่เข้าร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จการทำธุรกิจออนไลน์ครั้งนี้ประกอบด้วย คุณรวิศ หาญอุตสาหะ CEO จากแบรนด์ศรีจันทร์ ผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างแบรนด์ ด้วยการใช้คอนเทนต์ และการทำตลาดผ่านออนไลน์จนติดตลาด โดยได้รับการยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ ในครั้งนี้คุณรวิศ ได้เล่าใจความสำคัญของความสำเร็จของเครื่องสำอางค์แบรนด์น้องใหม่ อย่าง Sasi ที่มีกลุ่มเป้าหมาอายุระหว่าง 12-20 ปีว่า ต้องเข้าใจโจทย์ของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริงก่อน โดยมีการทำสำรวจและออกไปซักถามจากเด็กกลุ่มนี้จริงๆ และมีการทำหนังโฆษณาเกี่ยวกับการแต่งหน้าอย่างไรให้ครูจับไม่ได้ โดยในคลิปจะเล่าเรื่องราวของเด็กนักเรียนเข้าแถวหน้าชั้นเรียน โดยครูปกครองที่เดินตรวจไม่พบว่าเธอแต่งหน้า เพราะดูเนียนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ และคุณรวิศ เล่าเสริมถึงความสำเร็จของแต่ละแบรนด์ที่ใส่ความละเอียดอ่อน การสื่อสารแบบตรงไปตรงมา กระชับ เข้าใจง่าย อย่างแบรนด์น้ำแร่เอเวียง และ airbnb เป็นต้น
คุณจ๋า ยศสินี ณ นคร ผู้บริหารและผลิตละครชื่อดัง ร่วมแชร์ประสบการณ์ในการต่อยอดธุรกิจที่มาจากความชื่นชอบในสิ่งที่รัก จนมาเป็นธุรกิจบราวนี่ Yossiebistro ผ่านช่องทาง instagram กับ คำนิยามที่ว่า “ทำบราวนี่ขาย 2,500 ชิ้นหมดภายใน10 นาทีทุกครั้งที่เปิดขาย เพราะใช้ใจ และ ทุกอย่างต้องดีที่สุด จะไม่มีการปล่อยผ่านให้กับชิ้นเดียวที่เสียไป เพราะทุกชิ้นคืออยู่ในมือของลูกค้า และเป็นคำตอบที่ทำให้บราวนี่ของคุณจ๋า มีคนตอบรับทุกครั้ง และขายได้ทุกครั้ง สิ่งสำคัญ คุณจ๋าเลือกใช้ ไปรษณีย์ไทย ในการอำนวยความสะดวกเรื่องการขนส่งที่ตอบโจทย์ว่า สินค้าของเธอที่เป็นขนมจะต้องไม่แตกไม่พัง วัสดุหุ้มห่อของ ปณท.ออกแบบมาเพื่อสินค้าหลากหลาย และตอบโจทย์ผู้ต้องการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างแท้จริง”
และ วิทยากรพิเศษ คุณกัญญาณัฐ ปิติเจริญ Facebook Thailand Client Solutions Manager ที่มาแนะนำเทรนด์ของการทำตลาดบน Facebook ให้ตอบโจทย์และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยใจความสำคัญของการวิเคราะห์แพลตฟอร์ม โซเชียลมีเดีย สามารถจับความสนใจของคนในยุค 4.0 ได้ว่า คนจะเลือกดูหรือไม่ดูสินค้าของเราผ่านรูปแบบวิดีโอเพียง 1.7 วินาที ที่จะทำให้ลูกค้าของคุณตัดสินใจเลือกรับบริการ หรือการเปิดใจครั้งแรกให้กับสินค้าของคุณ และคนไทยมีพฤิกรรมการดูวิดีโอเพียงแค่ 6 วินาทีเท่านั้น ดังนั้นหนังโฆษณาของคุณต้องสั้น กระชับ ได้ใจความ ผู้บริโภคถึงจะหยุดดูคุณ คุณกัญญารัตน์ กล่าวเสริมว่าผู้ประกอบการออนไลน์ในยุคนี้ต้องมีความพร้อมทุกด้าน เกาะติดเทรนด์ให้ทัน เพราะโลกเปลี่ยนไป พฤติกรรมของคนย่อมเปลี่ยนไป เฟซบุ๊คเองก็ทำงานหนักเพื่อตอบสนองฃองพฤติกรรมของผู้บริโภคเช่นกัน
นอกจากนี้ ในงานสัมมนาเจาะลึกเทคนิคออนไลน์แบบมืออาชีพ มีเวิร์คช้อปจากสามโค้ชออนไลน์ ได้แก่ โค้ชสุพลชัย กีรติขจร โค้ชนอต ชาญชัย สองมืออาชีพทางด้าน Facebook และ โค้ชอลงกรณ์ สุวรรณเวช สุดยอดกูรู Line@ ที่จะมาเผยเคล็ดลับพร้อมกับการไขปัญหาข้อสงสัยจากการทำตลาดออนไลน์ผ่านทั้งสองแพลตฟอร์ม Facebook และ Line@ อย่างเจาะลึกตรงจุดให้กับผู้ร่วมสัมมนา
“ ที่ผ่านมาทางไปรษณีย์ไทยได้จัดกิจกรรมสัมมนาในรูปแบบส่งเสริมผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง พบว่าผลของการจัดกิจกรรมมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการนำประโยชน์ที่ได้ไปต่อยอดในการดำเนินธุรกิจได้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราเล็งเห็นว่าตัวช่วยสำคัญ สำหรับการทำธุรกิจในยุค 4.0 นี้ก็คือ สื่อออนไลน์อย่างโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งนี้ คำถามที่คนทำออนไลน์ใน Facebook และ Line @ พบเจอบ่อย เช่น โฆษณาเท่าไหร่ก็ขายไม่ดี คอนเทนต์เจ๋ง ๆ ต้องทำแบบไหน โฆษณาไม่ผ่านจะแก้อย่างไร ยอดขายตกรับมืออย่างไร เป็นต้น ซึ่งคำถามเหล่านี้จะไม่เป็นปัญหาคาใจอีกต่อไป ถ้าได้เข้าร่วมงานนี้ ”
” ในครั้งนี้ ปณท คัดเลือก ผู้ประกอบการออนไลน์ 100 ท่านเข้าร่วมสัมมนา ซึ่งเป็นการจัดสัมมนาครั้งที่ 2 ต่อยอดจากปีที่แล้ว โดยปณท สำรวจว่าการผู้ประกอบการทำธุรกิจออนไลน์เติบโตขึ้น และ ให้ความสนใจในการส่งสินค้าและบริการมากขึ้น ในขณะที่คู่แข่งก็มีมากขึ้นด้วย การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ ที่ ปณท มีพันธกิจ “ผู้สนับสนุนส่งเสริมเศรษฐกิจไทย” โดยผลิตภัณฑ์ที่ไปรษณีย์ไทยให้การสนับสนุนมีตั้งแต่ผลผลิตทางการเกษตร โดยช่วยเกษตรกรในชุมชน พัฒนารูปแบบการจัดส่งสินค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย และ คัดสินค้าคุณภาพเกรด A ส่งออกไปยังต่างประเทศ ด้วยการขนส่งจาก ไปรษณีย์ไทย โดยภาพรวมของธุรกิจองค์กรของ ไปรษณีย์ไทยมีความพร้อม และมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดบริการที่มีกว่า 3,000 ที่ทำการไปรษณีย์ไทย และ ปณอ (ไปรษณีย์อนุญาตเอกชน) อีกกว่า 2,000 ที่ พร้อมทั้งเครือข่ายไปรษณีย์ (Postal Network) รวมแล้วทั้งสิ้นกว่า 8,000 แห่ง ซึ่งทั้งหมดควบคุมและเป็นความร่วมมือภายในชุมชนที่ทำร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย ให้จัดตั้งที่ทำการ เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ทั้งใน และ ต่างประเทศ โดยมุ่งเน้น ให้ความสำคัญกับ Eco System ห่วงใยสิ่งแวดล้อม และ รูปแบบแพคเกจจิ้งที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องออกสู่สังคม เพื่อใช้บริการได้อย่างตรงความต้องการ และมั่นใจได้ กับ Network ที่มีประสิทธิภาพ และ เรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตรงกับพันธกิจ (Mission) ของเราที่ว่า เป็นผู้ให้บริการโลจิสติคส์และออนไลน์ที่ประชาชนนึกถึงเป็นอันดับแรก” คุณปริษากล่าวสรุป
ในครั้งนี้มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมสมัครจำนวนมาก แต่ไปรษณีย์ไทยต้องการให้ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และมีส่วนร่วมกับกิจกรรมการฝึกทักษะความรู้และเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญทุกท่านได้อย่างเต็มที่ สามารถนำไปต่อยอดใช้งานได้จริง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อธุรกิจ จึงได้มอบสิทธิ์ให้แก่ผู้ประกอบการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ จำนวน 100 ท่าน พร้อมทั้งวางแผนที่จะจัดงานต่อไปเพื่อรองรับผู้ประกอบการ ที่สนใจท่าน อื่นๆ อีกอย่างต่อเนื่อง เวิร์คช็อป “เคียงคู่ผู้ลงมือทำ EP.1 เคลียร์คำถามคาใจขายออนไลน์ให้ปัง” จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ณ โกลว์ฟิช เวิร์กสเปซ อาคารสาธรธานี 2
สามารถติดตามอัพเดทข่าวสารกิจกรรมของทางไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติม ได้ที่ ww.thailandpost.co.th หรือ กดติดตามข้อมูลที่ Facebook บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด