จากรายงานของ We Are Social และ Hootsuite ประจำปี 2562 พบว่า คนไทยสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ 57 ล้านคน โดย 55 ล้านคน เป็นกลุ่มที่ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนเป็นประจำ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไทยเป็นตลาดสำคัญสำหรับการขยายตัวธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) สตาร์ทอัพจากญี่ปุ่น ผู้ให้บริการเช่ายืมพาวเวอร์แบงค์แบบ on-the-go เจ้าแรกของโลก ขยายการดำเนินธุรกิจมายังประเทศไทย หลังประสบความสำเร็จที่ญี่ปุ่นและฮ่องกงอย่างรวดเร็ว โดยมั่นใจว่าการทำธุรกิจในประเทศไทย จะประสบความไม่ต่างจากญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกง
นาย ทอมป์สัน ชิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จสปอต ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ต และเป็นจุดหมายการลงทุนของธุรกิจสตาร์ทอัพที่น่าสนใจในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังมีภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีความคุ้นเคยกับบริการประเภทนี้ เนื่องจากในจีนมีบริการให้เช่าใช้พาวเวอร์แบงค์ เป็นหนึ่งในธุรกิจสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ มีจุดให้บริการกว่า 10 ล้านแห่ง ทำให้เชื่อว่าถ้านำบริการเหล่านี้มาให้บริการในเอเชียก็จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้เช่นเดียวกัน จุดเด่นของ CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) คือ ลูกค้าไม่ต้องรอที่หน้าเครื่องจนชาร์จแบตเตอรี่เต็ม โดยสามารถเช่าพาวเวอร์แบงค์หรือแบตเตอรี่สำรองแบบพกพาติดตัวไปได้ เมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม สามารถนำกลับไปคืนที่จุดให้บริการ CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) ตามประเทศอื่นๆทั่วโลก แม้จะเช่าเพื่อใช้งานที่เมืองไทยก็ตาม ปัจจุบัน CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) มีให้บริการที่ฮ่องกงกว่า 5,000 จุด และมีให้บริการที่ญี่ปุ่นกว่า 17,000 จุด และไต้หวั่นกว่า 10,000 จุด ซึ่งมีพันธมิตรเป็นห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำ เช่น ลอว์สัน อิออนเจแปน และชิบูย่า 109 ในญี่ปุ่น 7-11 Hongkong Trade Development Council และ New World First Ferry ในฮ่องกง ทำให้สะดวกตลอดการเดินทาง อีกทั้งภายในปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายพื้นที่ให้บริการไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาค อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไต้หวันภายในปลายปีนี้ และประเทศอื่นๆ ในอนาคต
ทางบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจากแนวทางเศรษฐกิจดิจิทัลและนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลไทย เพื่อสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพร้อมผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกับบริษัทระดับแนวหน้าของไทย ผู้นำธุรกิจประเภทต่างๆ อาทิ ผู้นำด้านศูนย์การค้า ได้แก่ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ (ศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม) ด้านธุรกิจจัดส่งพัสดุชั้นนำของประเทศ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีสาขามากกว่า 5000 จุด ด้านธุรกิจโรงแรม ได้แก่ กลุ่มบริษัทใบหยก ซึ่งมีโรงแรมชั้นนำรวมถึงร้านอาหารในเครือมากมาย โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ และ ผู้นำด้านธุรกิจสวนน้ำ ได้แก่ สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล เพื่อขยายการให้บริการพร้อมสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายติดตั้งจุดให้บริการให้ได้มากกว่า 5,000 จุดรอบกรุงเทพฯ ก่อนขยายเป็น 15,000 แห่ง ภายในปีนี้ โดยจะขยายไปยังหัวเมืองหลัก อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุย ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวต่างๆ และ 37,000 เครื่องทั่วทวีปเอเชีย ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเช่ายืมแบตเตอรี่สำรองที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี นอกจากนี้ ยังมี กลุ่มบริษัท ไอคลิ๊ก อินเทอแรคทีฟ จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้เซ็นต์สัญญาความร่วมมือกับบริษัท ชาร์จสปอต (โกลบอล) จำกัด ในการทำข้อมูลการตลาด โดยใช้ข้อมูลบนพื้นที่นั้นๆ และต่อยอดไปสู่กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O (online to offline) สำหรับโมเดลธุรกิจของชาร์จสปอต นอกเหนือไปจากการให้บริการเช่าพาวเวอร์แบงก์ในจุดให้บริการที่มีด้วยกัน 2 รูปแบบคือขนาดเล็กหน้าจอ 7 นิ้ว บรรจุได้ 5 เครื่อง และขนาดใหญ่ 43 นิ้ว บรรจุพาวเวอร์แบงก์ได้ 20 เครื่อง ก็จะเปิดพื้นที่หน้าจอเป็นจุดขายโฆษณา ซึ่งร้านค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจที่นำจุดให้บริการ CHARGESPOT(ชาร์จสปอต)ไปใช้จะไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันจะได้พื้นที่โฆษณาในแอปพลิเคชัน และอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการอย่างในร้านอาหาร หรือพื้นที่ต่างๆด้วย
นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพิวรรธน์มุ่งมั่นเดินตามวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำแห่งการนำเสนอความแปลกใหม่ให้ชีวิต (The Icon of Innovative Lifestyle) ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การส่งมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าตลอดการใช้เวลาอยู่ในศูนย์การค้ากลุ่มวันสยามของเรา สำหรับยุคดิจิทัลนี้ คุณค่าสำคัญที่เราอยากมอบให้กับลูกค้าก็คือ การทำให้ชั่วโมงแห่งความเพลิดเพลินของการช้อปปิ้งสมบูรณ์แบบไม่มีสะดุด สามารถสนุกสนานกับการเล่นแชท ถ่ายรูป คุยกับเพื่อน ทำธุรกรรม หรือท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลาผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมๆ ไปกับการช้อปปิ้ง ซึ่งบริการเช่ายืมพาวเวอร์แบงค์ของ CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) จะช่วยเติมเต็มสิ่งเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี และเพื่อเปิดตัวบริการสุดพิเศษครั้งนี้ จึงได้มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า OneSiam ทุกท่านกับโปรโมชั่น ใช้งาน CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) 1 ชั่วโมงแรกฟรี เริ่มตั้งแต่ 28 พฤษภาคม ไปจนถึง 27 มิถุนายนนี้”
นางสาววรษา กรวิกนลิน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์บัตรและสินเชื่อบุคคล ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้ง และเป็นธนาคารที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตเป็นอันดับ 1 มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการและธุรกรรมทางการเงินด้านต่างๆ เพื่อสามารถตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้มากที่สุด การได้ร่วมมือเป็นพันธมิตทางธุรกิจกับ CHARGESPOT ในครั้งนี้ ธนาคารเชื่อว่าจะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถใช้จ่ายบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตกสิกรไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ชำระเงินมัดจำหรือเติมเงินด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตกสิกรไทย ผ่านแอปพลิเคชันของ CHARGESPOT รับสิทธิ์ใช้งาน CHARGESPOT ฟรี 1 ชั่วโมงแรก ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2562” สำหรับการใช้งาน CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) นั้น มีความสะดวกด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) หรือเข้าใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น WeChat หรือ LINE เพื่อหาจุดให้บริการ CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) ที่อยู่ใกล้ที่สุด และสแกน QR โค้ดที่จุดให้บริการเพื่อเช่ายืม ก็จะสามารถรับพาวเวอร์แบงค์ไปใช้งานได้ทันที โดยสถานีเครื่องให้บริการ CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) กระจายอยู่ในศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม รวมถึงให้บริการในโรงแรมเครือใบหยก โดยมีค่าบริการชั่วโมงแรกถึงชั่วโมงที่สาม อยู่ที่ชั่วโมงละ 15 บาท จากนั้น ชั่วโมงที่สี่เป็นต้นไป จนถึง 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม (เช่าเหมาทั้งวัน 24 ชั่วโมงแรก ในราคา 45 บาท) สำหรับวันที่สองและวันถัดไป เช่าเหมาทั้งวัน ในราคาวันละ 30 บาท ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้บริการครั้งแรกจะต้องวางเงินมัดจำจำนวน 450 ก่อนที่จะเช่าพาวเวอร์แบงค์ได้ โดยจะได้รับเงินมัดจำคืนต่อเมื่อนำพาวเวอร์แบงค์ไปคืนที่เครื่อง CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) จุดให้บริการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศได้
ส่วนการจ่ายเงินค่าเช่าเครื่อง สามารถเลือกจ่ายได้หลายๆ ช่องทาง อาทิ บัตรเครดิตหรือบัตร เดบิต โมบายแบงก์กิ้ง และอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งของธนาคารชั้นนำต่างๆ รวมถึง WeChat pay Line pay Ali pay และ e-Payment wallet ต่างๆ ที่เข้าร่วมกับทาง CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทธนาคารกสิกรไทย ผู้นำดิจิตัลแบงค์กิ้งในภูมิภาค ASEAN ที่มีผู้ถือบัตรมากกว่า 34 ล้านคน มอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตหรือบัตรกสิกรไทยทุกท่าน กับโปรโมชั่น ใช้งาน CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) 1 ชั่วโมงแรกฟรี เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึง 27 สิงหาคม 2562 ด้านความปลอดภัย ของพาวเวอร์แบงค์CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) มีขนาด 7 x 1.5 x 14.5 เซนติเมตร จึงพกพาได้สะดวก มีความจุพลังงานไฟฟ้า 5,000 มิลลิแอมป์ (mAh) และมาพร้อมกับพอร์ต MicroUSB USB Type C และ Lightning ทำให้สามารถรองรับการใช้งานกับสมาร์ตโฟนทุกรุ่น ทั้ง Android และ iOS พาวเวอร์แบงค์ของทุกตัวมีการติดตั้งเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยถึง 8 ชั้นคือ ระบบป้องกันแรงดันไฟฟ้าขาออก ระบบป้องกันกระแสไฟขาออก ระบบการควบคุมอุณหภูมิ การป้องกันการชาร์จมากเกินไป ระบบป้องกันการปล่อยพลังงาน ระบบป้องกันการลัดวงจร ระบบป้องกันกระแสไฟกระชาก และระบบป้องกันการกระเพื่อมของกระแสไฟฟ้า อีกทั้งตัวพาวเวอร์แบงค์ยังทำมาจากวัสดุทนความร้อนระดับ V0 ที่เป็นระดับสูงสุดอีกด้วย ดังนั้นพาวเวอร์แบงค์ CHARGESPOT (ชาร์จสปอต) จึงสามารถเติมเต็มความต้องการและความสะดวกสบายให้กับผู้เช่ายืมได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://charge-spot.net/