เมืองเซนต์หลุยส์ในรัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกากำลังกลายเป็นกรณีศึกษาครั้งสำคัญของ Burger King กับการเปิดทดลองขาย “Impossible Whopper” หรือเบอร์เกอร์ที่ใช้เนื้อสังเคราะห์จากพืชแทนการใช้เนื้อสัตว์ขายให้แก่ผู้บริโภค
ซึ่งผลการทดสอบพบว่า เมื่อวัดกันโลเคชั่นต่อโลเคชั่นแล้ว ทราฟฟิกของคนเข้าร้าน Burger King ในเมืองเซนต์หลุยส์ “แซงหน้า” ค่าเฉลี่ยของ Burger King ทั่วสหรัฐอเมริกาขาดลอย ด้านบริษัทแม่สบช่อง ประกาศเตรียมเปิดตัว Impossible Whopper ในระดับประเทศปีนี้แน่นอน
ส่วนใครที่อยากทราบว่าเขาเก็บข้อมูลกันเมื่อไร Burger King ระบุว่าการเก็บข้อมูลนี้จัดทำขึ้นในเดือนมีนาคม – เมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นการเก็บทราฟฟิกในเดือนมีนาคม ก่อนจะนำมาเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่ Burger King ตัดสินใจวางขาย Impossible Whopper นั่นเอง
โดยผลการทดสอบพบว่า ในเดือนเมษายน ทราฟฟิกของ Burger King ในเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นเมืองที่ทดลองขาย Impossible Whopper ก่อนใครนั้น เพิ่มขึ้นถึง 16.75% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ขณะที่ร้านสาขาอื่นที่อยู่นอกเซนต์หลุยส?นั้น พบว่าในเดือนเมษายนมีทราฟฟิกลดลงเฉลี่ย 1.75%
ถูกฝาถูกตัว
แม้จะเป็นเมนูทดลอง แต่การเปิดตัว Impossible Whopper ในครั้งนี้ถูกมองว่าเลือกช่วงเวลาเปิดตัวได้อย่างเหมาะเจาะมาก และสามารถช่วย Burger King ดึงคนเข้าร้านได้เพิ่มขึ้น หลังจากตัวเลขยอดขายในไตรมาส 1 ไม่ได้กระเตื้องอย่างที่ตั้งเป้าไว้ (อยู่ที่ 2.2% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่เคยทำได้ 3.8%)
ด้าน Impossible Foods เจ้าของนวัตกรรมเนื้อที่ผลิตจากพืชรายนี้ ก็เดินหน้าต่อเช่นกัน โดยสามารถระดมทุนรอบใหม่ถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาให้วางขายผลิตภัณฑ์ได้แล้วในธุรกิจค้าปลีกทั่วไป
สำหรับคู่แข่งของ Impossible Foods อย่าง Beyond Meat ก็พบการเติบโตในแง่บวกเช่นกัน โดยราคาหุ้นของบริษัทได้พุ่งขึ้นไปแล้วถึง 218% นับจากเปิดขายในตลาดหุ้น อีกทั้งยังมีการเซ็นสัญญากับ Zandbergen เพื่อขยายฐานการผลิตเนื้อสังเคราะห์เพิ่มขึ้นด้วย
Burger King ยังพบความจริงอีกข้อที่ว่า ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มอีก 1 เหรียญสหรัฐแลกกับการได้รับประทานเนื้อที่สังเคราะห์จากผักนี้ด้วย ซึ่งงานนี้คงทำให้ McDonald’s ที่กำลังรีๆ รอ ๆ ว่าจะกระโดดเข้ามาแข่งด้วยดีไหม อาจต้องปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว