ถือฤกษ์ช่วงวันแรงงานแห่งชาติของปีก่อน เปิดแพลตฟอร์มบริการ Recruitment ชื่อ Line Jobs ที่ต่อยอดมาจาก Line Career เครื่องมือใช้หาคนเข้าองค์กรตัวเองของ Line Thailand และทำให้ได้ทีมงานคุณภาพเข้ามาเสริมทีมอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มองเห็นโอกาสในการขยายพื้นที่ให้บริการด้วยแพลตฟอร์ม Line เพิ่มเติมใน Area ใหม่ๆ มากขึ้น
ด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าเป็นเครื่องมือที่ Line Thailand ใช้ได้ผล ทุกองค์กรก็น่าจะนำไปใช้อย่างได้ผลเช่นกัน จึงได้แนะนำแพลตฟอร์มให้บริการที่ชื่อ Line Jobs เพื่อให้บริการเป็นตัวกลางให้คนและงานมาเจอกันได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยเปิดพื้นที่ให้องค์กรต่างๆ สามารถมาโพสต์รับสมัครงานบนแพลตฟอร์มได้ฟรี เช่นเดียวกับผู้หางานที่สามารถส่งประวัติไว้ในระบบโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน
ซึ่งเพียงแค่เปิดตัวบริการได้เพียงแค่ 3 เดือน ก็มี Followers ครบ 1 ล้านราย ก่อนจะเพิ่มเป็น 5 ล้านรายใน 5 เดือน และปัจจุบันมีคนติดตามแล้วกว่า 7 ล้านราย ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่ค่อนข้างรวดเร็วเมื่อเทียบกับยอดผู้หางานผ่านเว็บไซต์ทั้งระบบในช่วงที่ผ่านมา ที่มีข้อมูลอยู่ราวๆ 2 ล้านคนเท่านั้น เพราะความไม่ Efficiency จริงๆ ในแง่การใช้งานทั้งในมุมของผู้ว่าจ้างและผู้หางาน ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าในการทำให้คนและงานมาเจอกัน ความยุ่งยากและซับซ้อนในระบบและการกรอกข้อมูล หรือค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะส่วนใหญ่เริ่มคิดตั้งแต่เริ่มประกาศสมัครงาน ไม่ว่าจะได้คนทำงานจริงหรือไม่ก็ตาม ซึ่งไลน์จ๊อบพยายามศึกษา Pain point ต่างๆ เพื่อนำมาปรับระบบให้ตอบโจทย์ทั้งผู้ว่าจ้างและคนหางาน
โฟกัส Pink Collar กลุ่ม Semi-skill
คุณธนิยา ตรัยวัฒนา หัวหน้าธุรกิจ Line Jobs กล่าวว่า ความสำเร็จของ Line Jobs มาจากจุดเด่นของแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก เพราะอยู่ในแอปพลิเคชั่นไลน์ ที่เข้าถึงคนไทยกว่า 44 ล้านคน และทุกคนคุ้นเคยในการใช้งานอยู่แล้ว โดยไม่ต้องโหลดแพลตฟอร์มใหม่มาใช้ให้ยุ่งยาก ทำให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ แม้จะไม่ชำนาญการใช้คอมพิวเตอร์ หรือเทคโนโลยีต่างๆ รวมทั้งการนำเสนองานบนพื้นฐาน Location Based เพื่อให้ทั้งผู้ว่าจ้างและผู้หางาน สามารถเข้าถึงงานที่อยู่ใกล้ตัวได้ก่อน ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่คนทำงานให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานระดับปฏิบัติการ ที่ฐานเงินเดือนไม่สูงมาก
“การรับสมัครงานผ่านออนไลน์ที่ผ่านมา ยังมี Pain point ทั้งในส่วนของผู้ว่าจ้างและผู้หางานหลายอย่างที่ต้องแก้ ทั้งความล่าช้า ในการ Connect ระหว่างกัน ค่าใช้จ่ายที่ยังสูงอยู่ รวมทั้งการเสียโอกาสที่จะได้งาน เพราะการติดต่อแบบ Traditional HR ที่มักจะติดต่อด้วยการโทรหาผู้สมัคร แต่หากไม่ได้รับสายในขณะนั้น สายจะกลายเป็น Missed Call ซึ่งผู้หางานส่วนใหญ่จะไม่โทรกลับเพราะไม่ทราบว่าเบอร์ใคร แต่การติดต่อบน Line Jobs ผ่านไลน์จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการติดต่อกลับได้ดีกว่า พร้อมทั้งลดขั้นตอนต่างๆ ในช่วงต้นน้ำของการหางานลงได้ รวมทั้งไม่คิดค่าใช้จ่ายในการโพสต์ประกาศ ทำให้สามารถโพสต์รับสมัครงานได้อย่างไม่จำกัดและจะเริ่มคิดค่าใช้จ่ายเมื่อต้องการเข้าถึงข้อมูลผู้สมัครอย่างละเอียด โดยที่ผ่านมา ระบบสามารถทำให้คนและงาน Connect กันได้เร็วที่สุด ในเวลาเพียงแค่ 22 วินาที หลังจากโพสต์ประกาศ จากโพรเซสเดิมๆ ในการสรรหาและว่าจ้างงานก่อนหน้าที่ต้องใช้เวลาหลายสิบวันหรือเป็นเดือน”
การโฟกัสกลุ่มคนทำงานของไลน์จ๊อบยังแตกต่างจากเว็บไซต์หางานทั่วไป ที่จะเน้นพนักงานออฟฟิศ หรือกลุ่ม White Collar เป็นหลัก ขณะที่ไลน์จ๊อบจะเน้นที่กลุ่มแรงงานในตลาดส่วนใหญ่ที่มีสัดส่วนถึง 42% หรือกลุ่ม Pink Collar ที่อยู่ใน Service Sectors หรืองานบริการต่างๆ และมี Pain point ที่ค่อนข้างชัดเจน เพราะปริมาณงานในกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีข้อมูลในออนไลน์ ทำให้ส่วนใหญ่ยังหางานผ่านวิธีออฟไลน์เป็นหลัก รวมทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีอัตรา Turn Over จากการลาออกสูงถึง 30-300% ทำให้ต้องมีการเติมคนเข้ามาในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
ยังมีความโดดเด่นที่ทำให้การสรรหาบุคลากรด้วย Line Jobs มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คือ การใช้ระบบ Machine Learning ที่พัฒนาโดย Scout Out สตาร์ทอัพด้าน Recruitment ชั้นนำของประเทศ ทำให้ระบบสามารถสกรีนและแนะนำผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงตามกับที่ผู้จ้างงานต้องการมากที่สุดเรียงลำดับตามคุณสมบัติที่บริษัทต่างๆ ต้องการได้อย่างแม่นยำมากขึ้นด้วย
ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ
จุดเด่นในการนำไลน์จ๊อบมาใช้ ยังทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจลดลง โดยเฉพาะจากการใช้จ่ายทางด้านการสรรหาว่าจ้างบุคลากร ที่หากใช้วิธีแบบออฟไลน์จะทำให้มีค่าใช้จ่ายทั้งการเดินทางลงไปในแต่ละพื้นที่ เพื่อรับสมัครบุคลากรเติมให้กับสาขาต่างๆ ของแต่ละธุรกิจที่กระจายไปทั่วประเทศ รวมทั้งการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ในการรับสมัครงาน ทั้งป้ายประกาศ หรือแผ่นพับ ใบปลิวต่างๆ รวมไปถึงในส่วนขององค์กรที่อาจต้องจ้าง Admin มาดูแลเพื่อให้ระบบการสรรหาว่าจ้างมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งการนำระบบไลน์จ๊อบเข้ามาช่วย จะทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในช่วงต้นน้ำเหล่านี้จะลดลงอย่างมีนัยะสำคัญ
หนึ่งในธุรกิจที่นำ Line Jobs ไปใช้ในเรื่องของ Recruitment อย่าง CRG หรือเซ็นทรัล เรสโตรองสต์ กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่สามารถลดต้นทุนหลักๆ ในช่วงต้นน้ำของการสรรหาบุคลากรได้จริง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายหลักๆ อย่างการเดินทางไปยังสาขาที่กระจายไปทั่วประเทศ เป็นหลักร้อยกว่าสาขา รวมทั้งลดเวลาในการหาคนมาเติมในธุรกิจจากที่ก่อนหน้าทั้งกระบวนการต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30-45 วัน เหลือเพียง 15-20 วัน
คุณจารุวรรณ งามพิสุทธิ์ไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล CRG ให้ข้อมูลว่า CRG มีแบรนด์ในความดูแล 13 แบรนด์ มีจำนวนพนักงานกว่า 13,000 คน และมีการจ้างงานต่อปีไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นคน ซึ่งLine Jobs นอกจากช่วยลดต้นทุนหลักๆ ทางด้าน Recruitment ลงได้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานภาพรวมได้ดีขึ้น โดยที่ผ่านมา CRG ได้บุคลากรในระดับปฏิบัติการจาก Line Jobs จำนวน 3,281คน หรือคิดเป็น 48% จากทุกๆ ช่องทางในการได้พนักงานในกลุ่มนี้
“สิ่งที่ CRG ได้จากไลน์จ๊อบคือ การมีเครื่องมือที่ Friendly ในการใช้งานสำหรับทุกคน โดยทำให้สามารถสรรหาพนักงานได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อการขยายธุรกิจ และในปริมาณที่มีการจ้างงานต่อปีถึงกว่า 17,000 ตำแหน่ง รวมทั้งได้พนักงานที่มีคุณสมบัติตรงกับที่บริษัทต้องการ ที่สำคัญยังช่วยเพิ่ม Efficiency ภาพรวมให้ธุรกิจ เพราะระยะเวลาที่ลดลงจากโพรเซสในการสรรหาคน ก็สามารถนำไปปฏิบัติงานด้านอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ในมุมผู้หางาน ก็จะทำให้สามารถเข้าถึงงานได้สะดวกจากมือถือและบนแพลตฟอร์มที่คุ้นเคยอย่างไลน์ รวมทั้งยังสามารถหางานได้ใกล้ตัวด้วย”
นอกจาก CRG ยังมีหลายๆ องค์กรที่ได้คนจากไลน์จ๊อบ อาทิ SKOOTAR ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ก็ได้พนักงานส่งของกว่า 2,000 คน จากการระบุที่ตั้งสาขา ขณะที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์กรุ๊ป มีการติดต่อเพื่อหาคนไปสัมภาษณ์งานได้กว่า 2 หมื่นคน ภายใน 2 เดือน หรือแม็คโคร ที่ใช้ไลน์จ๊อบในการหาคนป้อนให้กับธุรกิจที่กระจายไปกว่า 125 สาขาที่กระจายไปทั่วประเทศ
โดยปัจจุบันมีบริษัทมากกว่า 18,000 แห่ง ที่ Active ในการใช้ไลน์จ๊อบเพื่อหาบุคลากรป้อนให้ธุรกิจ โดยมีงานที่ประกาศรับในไลน์จ๊อบกว่า 390,000 ตำแหน่ง โดยมีผู้ส่งใบสมัครเข้ามาในระบบกว่า 1 ล้านใบสมัคร และมีการเรียกสัมภาษณ์งานต่อกว่า 2 หมื่นราย ซึ่งในปี 2562 นี้ ทางไลน์ได้มีการเพิ่มทางเลือกให้ผู้หางานบน Line Jobs เพิ่มมากขึ้น ด้วยการเพิ่มประเภทงานต่างๆ ในไลน์จ๊อบจาก 8 ประเภท เป็น 22 ประเภทงาน ทั้งงานในกลุ่มสัญญาจ้าง งานประจำ และงานพาร์ทไทม์ รวมทั้งขยายกลุ่มธุรกิจจาก 6 กลุ่มธุรกิจเป็น 40 กลุ่มธุรกิจ
ขณะที่เป้าหมายในการผลักดันไลน์จ๊อบให้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น ตั้งเป้ามีผู้ติดตามในสิ้นปีนี้ครบ 10 ล้านคน และคาดว่าจะมีใบสมัครส่งเข้ามาเพิ่มเป็น 1.4 ล้านใบ มีการเรียกสัมภาษณ์ไม่ตำกว่า 24,000 ครั้ง หรือมีใบสมัครและผู้ถูกเรียกสัมภาษณ์เพิ่มขึ้นจากเดิม 40% และการขยายตลาดให้ครอบคลุมกลุ่มพนักงานในระดับปฏิบัติการทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้ไลน์จ๊อบเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งในการเข้าถึงกลุ่มแรงงาน Semi-skill หรือกลุ่ม Pink Collar ภายในปี 2563 พร้อมทั้งขยายตลาดไปในกลุ่มแรงงานออฟฟิศ หรือกลุ่ม White Collar เพิ่มมากขึ้นควบคู่กันไปในอนาคต
“และเพื่อให้ไลน์จ๊อบมีประสิทธิภาพในการหาคนได้ตรงความต้องการมากขึ้น ในปีนี้ได้เพิ่มข้อมูลใหม่ๆ สำหรับผูสมัคร นอกจากวุฒิ ประสบการณ์ ภาษา ความสามารถพิเศษต่างๆ บริษัทยังสามารถเพิ่มคำถามเฉพาะที่จำเป็นในธุรกิจของตัวเองเพื่อให้ได้ผู้สมัครที่มีตรงคุณสมบัติยิ่งขึ้น ขณะที่ผู้สมัครก็สามารถแนบ Resume เข้ามาในระบบได้เลย รวมทั้งระบบยังมีการคำนวนความคุ้มค่าให้กับผู้จ้าง ด้วยการให้คะแนนการใช้เครดิต เพื่อช่วยองค์กรพิจารณาว่าควรใช้เครดิตเพื่อเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกในโพสต์นั้นๆ หรือไม่ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการเลือกแพกเกจได้อย่างเหมาะสมด้วย”
Insight ผู้หางานบน Line Jobs
สำหรับผู้หางานที่ติดตามไลน์จ๊อบอยู่ในปัจจุบันกว่า 7 ล้านคนในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เกือบ 70% เป็นผู้หญิง เนื่องจาก งานในระดับปฏิบัติการหรือในภาคบริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง และมีผู้หางานในอายุที่หลากหลาย ตั้งแต่ ต่ำกว่า 22 ปี ไปจนถึงมากกว่า 40 ปี โดยประเภทงานที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ งานบริการ ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม
ส่วนระดับเงินเดือน จะอยู่ตั้งแต่ เฉลี่ยที่ 1.4 หมื่นบาทต่อเดือน โดยมีตำแหน่งงานสูงสุดในระดับผู้จัดการแผนกบัญชี ด้วยเงินเดือนสูงถึงเดือนละ 8 หมื่นบาท ขณะที่งานส่วนใหญ่ 85% จะเป็นงานประจำ และ 15% เป็นงานพาร์มไทม์ ขณะที่องค์กรในระบบส่วนใหญ่ 80-90% จะเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก และมีองค์กรขนาดใหญ่ที่มีคนมากกว่า 300 คนขึ้น ราว10%
สำหรับคำที่มีอันดับถูกค้นหามากที่สุด บนไลน์จ๊อบ ในส่วนประเภทงานนั้น ประกอบด้วย 1. บัญชี 2. ธุรการ และ 3. Part-time ส่วนในกลุ่มธุรกิจ 3 อันดับแรก ประกอบด้วย 1. ร้านอาหาร. 2. ร้านค้า 3. ที่พักและโรงแรม ซึ่งทางไลน์จ๊อบจะทำการเก็บข้อมูลต่างๆ ในระบบ เพื่อนำไปพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้ใช้งานทั้งในฟากคนหางาน และคนจ้างงานได้ดีมากขึ้น รวมทั้งการขยายไปในงานกลุ่มใหม่ๆ ที่คนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย