กลายเป็นประเด็นร้อนแรงใน social media “ทวิตเตอร์”เมื่อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าแบรนด์หนึ่ง ได้นำเสนอข้อมูลเรื่อง #สิวน้ำประปา เพื่อนำเสนอคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ว่าสามารถทำความสะอาดผิวหน้า สามารถช่วยขจัดแบคทีเรียในน้ำประปาท่อ และก๊อกน้ำ
ผลปรากฎว่า ข้อมูลนี้ได้รับการโต้ตอบอย่างเผ็ดร้อนจาก “การประปานครหลวง” โดยทวีตข้อความว่า “ขอผลทางการแพทย์ที่ระบุว่าในน้ำประปามีแบคทีเรีย และมีสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว หากไม่มีผลทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ ทางการประปานครหลวง จะขอดำเนินการทางกฎหมายต่อไป” จนกลายเป็นประเด็นดราม่า ที่ชาวเน็ตตามหาป๊อปคอร์นมานั่งดูศึกคู่นี้ หลังจากนั้นไม่นาน ทางทวิตเตอร์แอคเคานท์ @foamforteens ก็ต้องลบข้อความดังกล่าว รวมทั้งโพสต์ข้อความขอโทษ
ก็นับว่างานนี้ #สิวน้ำประปา มีอันต้องโบกมือลาไปในระยะเวลาอันรวดเร็วประมาณ 5 วัน Key Message ของการสื่อสารที่ตั้งใจจะเอามาช่วยขจัดสิ่งที่คิดว่าเป็น pain point ของผู้บริโภคกลายเป็นข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นจนงานเข้า ก็ถือว่าเป็นบทเรียนทางการตลาดอีกเรื่องที่นักการตลาดดิจิทัล ต้องเก็บไว้เป็นบทเรียน หลังจากที่เมื่อวานนี้ มีเรื่องราวของแอคเคานท์ทวิตเตอร์ของ BTS ที่ตอบข้อความของผู้โดยสารที่มีอาการป่วยอย่างไม่เหมาะสมมาแล้ว
ทั้งเรื่องของการตอบข้อความ การวางกลยุทธ์เซ็ทข้อความเพื่อให้เกิดกระแสพูดถึงในโซเชี่ยลมีเดีย ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องศาสตร์และศิลป์ผสานกัน และใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อทำให้แบรนด์อยู่ในใจแฟนของตัวเอง และถ้าหากว่าเกิดความผิดพลาดแล้ว การแก้ไขปัญหาโดยขอโทษอย่างจริงใจ รวดเร็ว เหมาะสม คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด