จากวิกฤตฝุ่น PM2.5 ที่ปกคลุมจังหวัดทางเหนือของประเทศไทยโดยเฉพาะเชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย ฯลฯ นับเป็นปัญหาน่าวิตก และยังไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาเบาบางลง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนในพื้นที่เป็นวงกว้าง ไม่เพียงกับผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ แต่ยังกระทบไปถึงผู้สูงอายุและโดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งกำลังเติบโตเป็นอนาคตของชาติต่อไป
นักวิชาการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เคยวิจัย ศึกษาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากฝุ่นควันพิษ นอกจากกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นมูลค่าความเสียหายต่อปีราว 10,000 ล้านบาท ที่สำคัญคือส่งผลกระทบต่อด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยที่ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 พบว่า ฝุ่น PM2.5 ที่เพิ่มขึ้นทุก 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรต่อปี จะทำให้ประชาชนที่เกิดและอาศัยในพื้นที่นั้นตลอดชีวิตมีอายุขัยสั้นลง 0.98 ปี และเมื่อศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างค่า PM2.5 กับสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2016 – 2018 ค่า PM2.5 ที่เพิ่มขึ้นทุก 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ต่อสัปดาห์ “เพราะลมหายใจคือชีวิต การที่ต้องหายใจติดๆขัดๆคือความทรมานที่สุดกว่าการเป็นโรคใดๆ”
นายศรีสิงห์ สว่างทรัพย์ ประธานกรรมการบริษัท ภัคเดชา แอสเสท จำกัด และบริษัท พีดีซี ไลฟ์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศ “เรนแอร์” (RAINAIR) ได้กล่าวและแสดงความเป็นห่วงต่อสุขภาพ ได้กล่าวและแสดงความเป็นห่วงต่อสุขภาพของคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะเด็กเล็กซึ่งจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะ มีภูมิต้านทานน้อย และมีความเซนซิทีฟมาก จึงส่งผลกระทบกับพัฒนาการทางสมองและการเจริญเติบโตของร่างกาย เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปสู่ระบบประสาทและสมอง โดยฝุ่นที่เข้าไป จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่บริเวณเซลล์ต่างๆ ทำให้การทำงานของเซลล์ประสาทผิดปกติได้ จึงมีผลต่อพัฒนาการทางสมองหรือสมาธิของเด็กได้ กลายเป็นภาระกับครอบครัว และเช่นเดียวกับผู้สูงอายุ จึงจัดโครงการมอบเครื่องฟอกอากาศเรนแอร์ รุ่น I2 ให้กับหน่วยงานเพื่อสาธารณะ โดยนำร่อง 6 โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลดอยหล่อ โรงพยาบาลสันป่าตอง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเมืองกื้ด และโรงพยาบาลสะเมิง
นายศรีสิงห์ สว่างทรัพย์ กล่าวว่า ตัวเลขของค่าวัดคุณภาพอากาศพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะเชียงใหม่ และติดอันดับท็อปไฟว์ของโลก ซึ่งเป็นเช่นนี้มานานแล้ว เพียงแต่เราเพิ่งตระหนัก ล่าสุด เชียงใหม่ขึ้นแท่นอันดับ 1 เมืองที่มีฝุ่นหนาแน่นมากที่สุดในโลก โดยมีค่าตัวเลข AQI ทำสถิติทะลุ 500 ไปแล้ว ประชาชนในพื้นที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางอากาศพิษอยู่นานนับเดือน และดูจะเป็นสถานการณ์ที่ยากจะคลี่คลายลงได้ในเร็ววัน เครื่องฟอกอากาศเรนแอร์ ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าสามารถกรองฝุ่นละอองอนุภาคใหญ่จนถึงฝุ่น 0.1 ไมครอน ได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีตัวกรองถึง 7 ชั้น ฆ่าแบคทีเรียและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
โดยตัวเครื่องสามารถสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือ มีหน้าจอ ที่สามารถแสดงผลคุณภาพอากาศ PM2.5 แบบเรียลไทม์ส อ่านค่าง่าย โดยหน้าจอจะวัดผลให้ทันทีว่าคุณภาพอากาศบริเวณเครื่องกรองอากาศมีคุณภาพ “ดี” “ปกติ” หรือ “แย่” ด้วย สามารถใช้กับขนาดห้องตั้งแต่ 38 – 45 ตารางเมตร
“ผมเห็นว่าเชียงใหม่ได้รับความเดือดร้อน เราจึงประกาศผ่านหน้าเฟซบุ๊ก Rainair-เครื่องฟอกอากาศ แจ้งความประสงค์จะบริจาคเครื่องฟอกอากาศให้กับหน่วยงานที่ทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ โดยเฉพาะโรงพยาบาล เพราะเห็นว่าโรงพยาบาลแม้ว่าจะมีเครื่องฟอกอากาศในระดับหนึ่ง แต่ในสถานการณ์เช่นนี้น่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างน้อยเครื่องฟอกอากาศเรนแอร์ของเราน่าจะได้ช่วยบรรเทาปัญหาได้อีกส่วนหนึ่ง ปรากฏว่ามีโรงพยาบาลติดต่อเข้ามาขอรับความช่วยเหลือ”
นายศรีสิงห์ สว่างทรัพย์ กล่าวอีกว่า เราตั้งเป้าในโครงการบริจาคเครื่องฟอกอากาศสู้วิกฤตฝุ่น PM2.5 ไว้ไม่ต่ำกว่า 500 เครื่องภายในปี 2562 โดยที่หน่วยงานใดต้องการขอรับความช่วยเหลือจะเป็นโรงพยาบาล วัด หรือสถานศึกษาก็ได้ และไม่จำกัดว่าจะต้องอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขอเพียงเป็นหน่วยงานเพื่อสาธารณะ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Line Id : @rainair รวมทั้งผู้ที่อยากร่วมบุญ เป็นตัวกลางแนะนำหน่วยงานหรือองค์กรสาธารณะที่เครื่องฟอกอากาศเรนแอร์จะได้เป็นประโยชน์ เพื่อคืนลมหายใจที่ไม่มีสิ่งสกปรกปนเปื้อน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในพื้นที่เสี่ยง สามารถเป็นสะพานบุญสู่สังคม สามารถแจ้งเข้ามาได้เช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ภัคเดชา แอสเสท จำกัด 1213/377 หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ ซอยลาดพร้าว94 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10330 โทร. 02 530 8288 LINE : https://bit.ly/2Un5FkB LINE ID : @rainair