ในยุคสมัยนี้ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือ ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่หน่อยก็อยากเป็น “สตาร์ทอัพ” (Startup) ร่วมมือกับเพื่อนๆสร้างโปรดักซ์หรือแพลตฟอร์มเป็นของตัวเอง และระดมทุนเพื่อให้เติบโตยิ่งขึ้น แต่จะมีสักกี่รายที่จะประสบความสำเร็จไปได้ถึงฝั่ง “ฝัน”
จากสถิติพบว่าคนรุ่นใหม่สนใจเป็นเจ้าของธุรกิจหรือ Startup มากขึ้น และขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนและกองทุนสนใจเข้ามาร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพทั่วโลกเป็นจำนวนมากเช่นกัน ที่ผ่านมาสตาร์ทอัพสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาได้ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถนำพาธุรกิจให้อยู่รอดหรือเติบโตต่อไปได้ และนับวันจะมีช่องว่างให้สตาร์ทอัพน้องใหม่เบียดเข้ามาแข่งขันในตลาดได้ยากขึ้น เนื่องจากผู้เล่นรายเดิมหรือผู้เล่นรายใหญ่มีการจับมือและพัฒนาศักยภาพของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อปกป้องและขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น
เพราะการเริ่มต้นทำธุรกิจก็เหมือนติดกระดุมถ้าติดเม็ดแรกผิด…ธุรกิจก็อาจจะพังได้ ธนาคารกสิกรไทย (KBank) เห็นปัญหานี้จึงเปิดตัว KATALYST (แคททะลิสต์) โครงการเร่งพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตและยั่งยืน เพราะสตาร์ทอัพไทยหลายรายมีศักยภาพในการคิดProduct แต่ยังขาดการสนับสนุนในหลายๆปัจจัยจึงไม่สามารถก้าวสู่สเตจอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารคน มุมมองการทำธุรกิจ เงินทุน ฯลฯ KATALYST จึงเข้ามาเป็นลักษณะเพื่อน พาร์ทเนอร์ ของสตาร์ทอัพเข้ามาช่วย Co-Creation ให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่อง เพื่อร่วมสร้างจุดเริ่มต้นที่ดีและช่วยยกระดับให้กับสตาร์ทอัพไทยให้เติบโต
ตัวอย่างการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของการทำธุรกิจ การให้ความรู้และการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ตลอดจนให้คำแนะนำในการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยร่วมกับหน่วยงานของธนาคารกสิกรไทย บริษัทในเครือของธนาคาร พันธมิตรของธนาคาร บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด ที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องของเงินลงทุน บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ที่จะให้การเข้าถึงประกันต่างๆเพื่อสตาร์ทอัพง่ายขึ้น และรวมไปถึง คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากBakerMcKenzie
ทีมผู้บริหารกสิกรไทย และ พาร์ทเนอร์ต่างๆ
KATALYST ต้องการช่วยพัฒนาสตาร์ทอัพที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจขยายธุรกิจ และมีแนวทางการดำเนินธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลยุทธ์ของธนาคารหรือลูกค้า แต่ความแตกต่างของKATALYSTจะไม่ใช่แค่โครงการ Accelerate มีเป็น Batch แล้วจบไป แต่เป็นการให้คำปรึกษาตั้งแต่เริ่มต้นตลอดการทำสตาร์ทอัพ
ตัวอย่างสตาร์ทอัพทีได้รับคำแนะนำจากKATALYSTได้แก่ FlowAccount, BUILK ONE GROUP , Horganice , Shippop เป็นต้น
4 ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สตาร์ทอัพประสบความสำเร็จ
1.การมีทีมงานหรือพนักงาน(Team)รวมถึงผู้ก่อตั้ง ที่มุ่งมั่นทำงาน และ ทำสิ่งที่ท้าทายอยู่เสมอ
2.สินค้า/บริการ(Product)ต้องตอบโจทย์ดีมานด์ของตลาด และรวมไปถึงต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ตลาด
3.ตลาด (Market) ต้องมีผู้ใช้บริการ หรือ ลูกค้า ในจำนวนที่มากพอต่อการดำเนินธุรกิจ
4. โมเดลธุรกิจ (Business Model) โมเดลธุรกิจในการหารายได้ ลูกค้า และ โอกาสการในการเติบโต
8 เหตุผลที่ทำให้สตาร์ทอัพล้มเหลว
1. ไม่มีตลาดรองรับ
2.ขาดเงินลงทุน
3.ขาดทีมงาน
4.ถูกคู่แข่งแซงหน้า
5.ปัญหาการตั้งราคา
6. ผลิตภัณฑ์ไม่ตอบโจทย์
7. ขาดโมเดลธุรกิจที่ดี
8. มาร์เก็ตติ้งไม่ถึงตลาด
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://katalyst.kasikornbank.com