เสียหายนานเกินไปแล้ว นาทีนี้ Apple ยอมจ่าย 1 พันล้านเหรียญสหรัฐกับการประกาศซื้อธุรกิจโมเด็มของ Intel อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้พนักงาน Intel กว่า 2,200 คน พร้อมสิทธิบัตรด้าน Wireless technology อีก 17,000 ชิ้น จะตกเป็นของ Apple ด้วย โดยคาดการณ์ว่าดีลนี้จะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้อย่างแน่นอน
ความน่าสนใจของดีลการซื้อกิจการครั้งนี้ในมุมของนักวิเคราะห์อย่าง Daniel Ives จาก Wedbush ก็คือ เราอาจได้เห็น Apple ได้มีอิทธิพลอย่างแท้จริงในการกำหนดทิศทางการเปิดตัวโปรดักท์ของตนเอง จากเดิมที่เคยต้องพึ่งพาพาร์ทเนอร์อย่างบริษัทผู้ผลิตชิปมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี 5G ที่มีบทบาทสำคัญต่อการแข่งขันอย่างมาก และคู่แข่งของบริษัทอย่าง Huawei และ Samsung ต่างก็มีสมาร์ทโฟนเพื่อจะรองรับเครือข่าย 5G กันหมดแล้ว ขณะที่ Apple นั้นมีรายงานว่า กว่าสมาร์ทโฟน 5G จะเปิดตัวได้ก็อาจเป็นเดือนกันยายน 2020 กันเลยทีเดียว
“เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า 5G คือหัวใจสำคัญของบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน การมีสินทรัพย์ดังกล่าวไว้ในครอบครองจะทำให้ Apple สามารถควบคุมอนาคตของบริษัทเอาไว้ได้” Daniel Ives กล่าว
โดยจะเห็นว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ Apple พยายามให้ความสำคัญกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ในสมาร์ทโฟนมากขึ้น ทั้งชิปกราฟิก, บลูทูธ, ชิปประมวลผล รวมถึงเคยมีการจ่ายเงิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อเทคโนโลยีด้าน Power Management ของ Dialog Semiconductor มาแล้ว ซึ่งตามการรายงานของ Cnet ระบุว่า ปัจจุบัน มีเพียงชิปสองชนิดที่ Apple ยังไม่สามารถควบคุมการผลิตได้ดั่งใจ นั่นคือ ชิปหน่วยความจำและชิปโมเด็ม ซึ่งทำให้ต้องซื้อจากบริษัทอื่น ๆ โดยชิปหน่วยความจำมีบริษัทอย่าง Samsung และ Micron มาเสนอขาย แต่ในกรณีของชิปโมเด็ม ตัวเลือกของ Apple นั้นค่อนข้างจำกัด โดยเหลือแค่ Qualcomm แต่เพียงเจ้าเดียวในขณะนี้
แถมความสัมพันธ์ระหว่าง Apple กับ Qualcomm ก็เป็นอย่างที่เราทราบ ๆ กัน นั่นคือ ทั้งสองบริษัทมีข้อพิพาทกันมายาวนาน (แม้ว่า Apple จะเริ่มต้นฟ้องร้องก่อนก็ตาม) ซึ่งผลกระทบหนัก ๆ มาเกิดเมื่อทาง Qualcomm อ้างว่า Apple ละเมิดสินทรัพย์ทางปัญญาของบริษัท ส่งผลให้การใช้ชิปโมเด็มของ Qualcomm บน iPhone เกิดอุปสรรคตามมาด้วย เพราะมีการเดินหน้าฟ้องร้อง Apple ในศาลหลายประเทศเพื่อขออำนาจศาลสั่งห้ามขาย iPhone กันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี แม้คดีความดังกล่าวจะจบลงด้วยการที่ Apple ยอมชดใช้ค่าเสียหาย (ไม่ได้ระบุจำนวน) ให้แก่ Qualcomm เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้การเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ของทางค่ายล่าช้ากว่าคู่แข่งไปนานทีเดียว ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายในลักษณะนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก การซื้อกิจการชิปจาก Intel ก็อาจช่วยให้ Apple ยกภูเขาลูกนี้ออกไปจากอกได้เช่นกัน
ส่วนเราจะได้เห็นชิปโมเด็มที่ Apple พัฒนาขึ้นใช้เองกันในเร็ว ๆ นี้หรือไม่ คำตอบคือเป็นไปได้ยาก และอาจต้องใช้เวลาพัฒนาประมาณ 2 – 3 ปีเป็นอย่างน้อย ขณะที่เว็บไซต์สื่อต่างชาติบางแห่งก็คาดการณ์กันว่า จะได้เห็นชิปโมเด็มของ Apple บน iPhone ตัวจริงเสียงจริงกันราวปี 2025 เลยทีเดียว