เป็นช่วงยากลำบากของ Facebook ไม่น้อย กับการถูกประเทศในสหภาพยุโรปเริ่มคิดค่าปรับจากเหตุที่ปล่อยให้ Hate Speech เผยแพร่อยู่บนแพลตฟอร์ม ทว่า สิ่งที่น่าจับตากว่านั้นก็คือ ตัวเลขผู้ใช้งาน Facebook ที่มีบริษัทวิจัยตลาดบางแห่งออกมาบอกว่าเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว และมีการปรับตัวลดลงในบางประเทศอย่างน่าตกใจ
บริษัทที่ออกมาเผยตัวเลขดังกล่าวคือ Mixpanel ที่ระบุว่า การเข้าถึง Facebook ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือของชาวอังกฤษลดลงถึง 38% เมื่อเทียบระหว่างเดือนมิถุนายน 2018 กับเดือนมิถุนายน 2019 ไม่เพียงเท่านั้น ทาง Mixpanel เผยด้วยว่า อัตราการคลิก Link หรือคลิกโฆษณาบนแอปพลิเคชัน Facebook ที่มาจากคนอังกฤษก็ลดลงไปประมาณ 2.6 ครั้งด้วย
เช่นเดียวกับบริษัท eMarketer ที่เคยเปิดเผยตัวเลขการใช้งาน Facebook ในสหรัฐอเมริกาว่า ผู้บริโภคในปี 2018 ใช้งานน้อยลงราว 3 นาที เมื่อเทียบกับการใช้งานในปี 2017
eMarketer บอกด้วยว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่คือกลุ่มที่ตีตัวออกห่างจาก Facebook ไปเรื่อย ๆ โดยหนีไปใช้แพลตฟอร์มอื่นแทน
แพลตฟอร์มเล็กลง ค่าโฆษณาแพงขึ้น?
อย่างไรก็ดี ในมุมของ Matti Littunen นักวิเคราะห์ด้านโซเชียลมีเดียจาก Enders Analysis เผยว่า เขายังไม่แน่ใจว่ามันเป็นตัวเลขที่สะท้อนการใช้งานที่ลดลงจริงหรือไม่ และอยากเห็นตัวเลขนี้ที่มาจาก Facebook เองมากกว่า
“แต่หากมีการใช้งาน Facebook ที่ลดลงจริง ดาต้าจาก Mixpanel และ eMarketer ก็กำลังสะท้อนบางอย่างที่นักโฆษณาควรจะเตรียมตัวรับมือ นั่นคือเรื่องค่าโฆษณาที่จะสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ต้องแข่งขันกันเพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เล็กกว่าเดิม”
ความท้าทายข้อต่อมาในมุมของ Matti คือ เมื่อนักโฆษณาจะกระจายเงินไปใช้บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ แทนนั้น บริษัทลูกของ Facebook ที่ประกอบด้วย Instagram, WhatsApp และ Messenger อาจยังไม่ใหญ่โตพอที่จะรองรับได้
โดย Matti มองว่า Instagram จะต้องมีผู้ใช้งานมากขึ้นกว่านี้อีกเท่าตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ยากมาก หรือแอปพลิเคชันแชทอย่าง WhatsApp และ Messenger เองก็ไม่น่าจะรับภาระนี้ได้ไหวเช่นกัน ดังนั้น งบโฆษณาจึงมีสิทธิ์ที่จะหลุดรอดออกไปนอก Ecosystem ของ Facebook ได้ง่ายมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ อาจสะท้อนว่า ต่อให้ Facebook จะพยายามทำตัวเองให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงก็ต่างมีผลกระทบต่อเนื่องมาถึงผู้ใช้งาน และธุรกิจอีกนับล้านที่อยู่บนแพลตฟอร์มดังกล่าวทั้งสิ้น และนั่นคือความเจ็บปวดของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ผูกตัวเองอยู่กับตัวเลข Engagement ของผู้คนมายาวนาน (ที่ว่ายิ่งมีมากก็ยิ่งประสบความสำเร็จมาก)
ส่วนจะหาทางออกอย่างไรในวันที่การใช้งานอิ่มตัว และเริ่มเติบโตลดลงนั้น คงต้องย้อนกลับไปหาคำตอบสวย ๆ ของ Mark Zuckerberg ที่เคยกล่าวเอาไว้เมื่อปี 2018 ว่า บริษัทกำลังแปลงโฉม News Feed ของ Facebook เสียใหม่ เพื่อให้ประสบการณ์ในการใช้งาน Facebook ดีขึ้น และทำให้ผู้ใช้งานพบเจอกับคอนเทนต์ประเภท Clickbait หรือวิดีโอไวรัลต่าง ๆ ลดลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้คนใช้เวลาบน Facebook น้อยลง และตัวเลขการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานก็อาจลดลงได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนตัวเลขของ Mixpanel ทาง Facebook ยังไม่มีความเห็น บอกเพียงแต่ว่า บริษัทมีตัวเลขการใช้งานที่แสดงให้เห็นว่า ยอดผู้ใช้งานทั้งรายเดือนและรายวันนั้นกำลังเติบโตขึ้นจริง