จากที่มีเสียงร่ำลือถึงกรณีที่บริการสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix จะเริ่มนำโฆษณาเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์ม ล่าสุดมีการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า ถ้า Netflix ทำอย่างนั้นจริง อาจประสบปัญหาเรื่องจำนวนสมาชิกที่จะลดฮวบลงไปแน่นอน
โดย 23% ของผู้ตอบแบบสอบถามของ Hub Entertainment Research กล่าวว่า พวกเขาจะยกเลิกสมาชิก Netflix อย่างแน่นอนถ้ามีการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม (ภายใต้เงื่อนไขว่าอาจมีการเก็บเงินตามราคาปัจจุบัน หรือถูกลงกว่าเพียงเล็กน้อย) ซึ่งจำนวนดังกล่าวนั้นหมายถึงการสูญเสียสมาชิกเกือบ 14 ล้านราย หากคิดจากจำนวนแอคเคาน์ที่ชำระเงินแบบรายเดือนของ Netflix ในสหรัฐอเมริกา ที่มีจำนวนทั้งหมด 60 ล้านแอคเคาท์ในขณะนี้
แต่อย่าเพิ่งใจเสีย เพราะราคาก็มีผลเช่นกัน โดยผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนหนึ่งยอมรับว่า ถ้ามีโฆษณาแล้ว Netflix จะลดราคาลงสัก 2 เหรียญสหรัฐก็เป็นเรื่องที่รับได้ (มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 14% เท่านั้นที่ยังยืนยันว่าพวกเขาจะยกเลิกสมาชิก) และหากลดราคาไป 3 เหรียญ คนที่จะบอกยกเลิกบริการยิ่งลดลงไปเหลือแค่ 12% เท่านั้น
สำหรับกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามครั้งนี้เป็นผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาจำนวน 1,765 คน อายุระหว่าง 16-74 ปีที่ดูโทรทัศน์อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์และมีบรอดแบนด์ในบ้าน
แม้ไม่มีโฆษณาแต่ก็เหมือนมีโฆษณา
ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนคงยังจำได้ถึงกรณีแก้วกาแฟยี่ห้อดังที่ไปปรากฏอยู่ในซีรีย์เรื่องสำคัญอย่าง Game of Thrones ถึงแม้ว่าหลายคนจะออกมาบอกว่าเป็นความผิดพลาดก็เถอะ ซึ่งทำให้เห็นว่า แม้นโยบายของ Netflix จะไม่แสดงโฆษณา แต่บางครั้งสินค้าต่างๆ ก็อาจไปโผล่ในรายการยอดนิยมได้เช่นกัน ซึ่งในจุดนี้ กระบวนการที่จะทำให้สินค้าไปปรากฏบนรายการต่าง ๆ มีความซับซ้อน หลายครั้งไม่ได้เกิดจากตัวแพลตฟอร์ม แต่เกิดจากความพยายามของ Third Party ที่ไปหาช่องทางเอาเองก็มี
ส่วนการประกาศขึ้นราคา Netflix นั้น ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม โดยเพิ่มราคาในแพกเกจ HD ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก 11 เหรียญเป็น 13 เหรียญสหรัฐ
ปัจจุบัน บริการสตรีมมิ่งคู่แข่งของ Netflix อย่าง Hulu และ NBCUniversal ของ Comcast มีแผนว่าจะรองรับโฆษณา ซึ่งจุดนี้อาจเป็นตัวผลักดันให้ Netflix จะยอมขายพื้นที่โฆษณาในที่สุดก็เป็นได้