เทรนด์การทำงานยุคใหม่เริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต หลายข้อมูลที่ปรากฏออกมามีความน่าสนใจและสะท้อนแนวโน้มการทำงานในอนาคตได้ โดยคนใน Generation Y หรือ Gen Y ต้องการเป็นเจ้าของกิจการมากกว่าการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน คนกลุ่มนี้ ยังใส่ใจเรื่องสภาพแวดล้อมในที่ทำงานมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ
ข้อมูลจาก Accenture – Workforce of the future พบอีกว่าในปี 2025 Gen Y จะเป็นกลุ่มคนที่เพิ่มขึ้นอีกมากในตลาดงาน คิดเป็น 75% ของคนทำงานทั้งหมด
เมื่อ Gen Y ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ การเข้าถึงความต้องการ ในเรื่องความทันสมัย สะดวกสบายในการทำงาน และเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการต้นทุนได้อยู่หมัด จะเป็นแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์ในสิ่งที่คนกลุ่มนี้มองหา
ในโลกการทำงานยุคใหม่ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจและองค์กรต่างๆ ต้องการปรับกระบวนการทำงานไปอย่างมาก โดยเฉพาะกระบวนการทำงานด้านเอกสารและการจัดการข้อมูล มีการนำระบบไอทีใหม่ๆ และ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligene) เข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูลและประมวลผล รวมถึงมีการแปลงข้อมูลจากเอกสารที่เป็นกระดาษให้เป็นข้อมูลดิจิทัลเพื่อจัดเก็บและส่งต่อข้อมูลมากขึ้น
‘IM C Series’ เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันสีอัจฉริยะ A3 รุ่นใหม่จาก ริโก้ (RICOH) จะเป็นอีกตัวช่วยที่พลิกภาพการทำงานในแบบเดิมๆ ให้เป็นการทำงานที่มากด้วยประสิทธิภาพ รองรับการทำงานที่เปลี่ยนไป รวดเร็ว การจัดการด้านต้นทุนที่เข้มงวดกว่าเดิม ที่สำคัญต้องปลอดภัยจากการเข้าถึงข้อมูลของคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
การพัฒนาภายใต้แนวคิด “Dynamic Workplace Intelligence” ทำให้ IM C Series ทั้ง 6 รุ่น ได้แก่ IM C2000/C2500/C3000/C3500/C4500/C6000 รองรับการพิมพ์กระดาษได้ตั้งแต่ขนาด A6 จนถึง A3 และโดดเด่นในเรื่องความเร็วในการพิมพ์ 20/25/30/35/45/60 หน้าต่อนาที
ด้วยความสามารถที่ชาญฉลาดของทั้ง 6 รุ่น Ricoh Smart Integration ซึ่งเป็นกลุ่มของแอปพลิเคชันที่ทำงานร่วมกับคลาวด์ เช่น แอปพลิเคชัน Ricoh Automated Data Capture การแปลงข้อมูลจากเอกสารที่เป็นกระดาษหรือไฟล์ภาพให้เป็นข้อมูลดิจิทัลได้อัตโนมัติเพื่อนำไปประมวลผลต่อได้อย่างรวดเร็วโดยทำงานผ่านคลาวด์ ลูกค้าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในงานทำงานและลดค่าใช้จ่ายไปได้อย่างมาก
Intelligent Color Multifunction หรือ เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันสีอัฉจริยะในเครื่องรุ่นใหม่นี้มาพร้อมฟังก์ชันที่รองรับการทำงานของทุกธุรกิจในสู่ยุค 4.0
Ricoh Always Current Technology การทำงานของเทคโนโลยีตัวนี้ก็คือ การอัพเดทเฟิร์มแวร์เวอร์ชันใหม่อยู่เสมอจะช่วยให้เครื่องมีความสามารถในการทำงานฟังก์ชันใหม่ๆ ได้แบบไม่มีตกรุ่น ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันสีอัจฉริยะนี้จะสามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นพร้อมกับการได้ใช้คุณสมบัติที่ทันสมัยอยู่เสมอ
หน้าจอที่มาพร้อมกับเมนูขนาดใหญ่ ขนาด 10.1 นิ้ว ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการแสดงเมนูให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละบุคคลได้ด้วยตนเอง ช่วยให้คนทำงานยุคใหม่เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น
ความสามารถในการสแกนเอกสารได้เร็วสูงสุดถึง 240 หน้าต่อนาที (สแกนต้นฉบับ 2 ด้านในเวลาเดียวกัน) ช่วยลดเวลาทำงานได้อย่างชัดเจน
จากปัญหากระดาษติดหรือหมึกหมดเป็นเรื่องเจอได้บ่อยครั้งในสำนักงาน นำมาสู่การพัฒนาโซลูชันเพื่อให้การแก้ปัญหาเครื่องเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอแสดงวิธีการเปลี่ยนหมึกหรือการเก็บกากหมึก แอนิเมชันแนะนำวิธีการแก้ปัญหากระดาษติด หรือไฟ LED ที่แสดงจุดที่กระดาษติด จึงสามารถลดเวลาในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างใช้งานเครื่องไปได้อย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ ที่ช่วยให้การผลิตเอกสารง่ายขึ้นและมีต้นทุนลดลง ไม่ว่าจะเป็นชุดพับกระดาษอัตโนมัติที่ช่วยให้พับเอกสารที่พิมพ์ออกมาได้หลากหลายรูปแบบเพื่อทำเป็นโบรชัวร์ ใบปลิว หรือไดเร็คเมล อุปกรณ์สแกนต้นฉบับขนาดเล็กช่วยให้การสแกนเช็ค นามบัตร หรือเอกสารขนาดเล็กต่างๆ ทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว อุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพงานสแกนป้องกันการสแกนต้นฉบับซ้อนกัน ช่วยให้หมดปัญหาการสแกนต้นฉบับไม่ครบเหมาะสำหรับเอกสารที่มีความบางหรือมีความสำคัญเป็นพิเศษ เช่น เอกสารทางกฎหมาย
EZ Plus 2.0 อีกแอปพลิเคชันใน ‘IM C Series’ ที่ช่วยลดกระบวนการทำงานเอกสาร โดย แอปพลิเคชันแรก คือ EZ Doc ช่วยให้สามารถแก้ไขเอกสารและจัดเรียงไฟล์งานได้ออย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขเอกสาร PDF การสแกนต้นฉบับขนาดเล็กพิเศษ เช่น ใบเสร็จ ได้หลายต้นฉบับพร้อมกัน ทั้งหมดนี้สามารถทำงานได้สะดวกและง่ายดายโดยเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันเพียงเครื่องเดียวโดยที่ไม่ต้องกลับไปสั่งการผ่านจอคอมพิวเตอร์
EZ Creative แอปพลิเคชั่น การสร้างปฎิทิน ซองจดหมาย จดหมาย และป้ายชื่อตั้งโต๊ะแบบสามเหลี่ยมได้อย่างรวดเร็วสะดวก ช่วยให้ลดต้นทุนและประหยัดเวลาในการทำงานได้มาก
เครื่องรุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน BS 5609 ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานควบคุมภายในอุตสาหกรรมเคมี สามารถพิมพ์ฉลากได้ตามมาตรฐาน GHS ลูกค้าที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีจึงสามารถพิมพ์ฉลาก GHS เพื่อติดบนบรรจุภัณฑ์สารเคมีได้เองในต้นทุนที่ต่ำ
ระบบการให้บริการหลังการขายในชื่อ Ricoh Intelligent Support ที่สนับสนุนและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าผ่านทางคอลเซ็นเตอร์จากระยะไกล โดยการรีโมทเข้าหน้าจอเครื่องหลังจากได้รับอนุญาตจากลูกค้า การตรวจเช็คสถานะหมึกและอะไหล่ต่างๆ ได้จากระยะไกล ช่วยให้ธุรกิจเดินไปได้แบบไม่สะดุดจากบริการและการแก้ปัญหาเครื่องที่อย่างรวดเร็ว
“ด้วยคุณสมบัติพิเศษใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นนี้ ทำให้เครื่องถ่ายเอกสารสีมัลติฟังก์ชันอัฉจริยะ หรือ Intelligent Color Multifunction) เป็นคำตอบที่ช่วยตอบโจทย์ประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจได้แบบไม่รู้จบ” นายพรชัย วรอังกูร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและบิสซิเนสโซลูชันส์ บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
แม้สถานการณ์การแข่งขันในตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันในประเทศไทยจะรุนแรงขึ้นกว่าที่ผ่านมา แต่ก็เชื่อมั่นว่า IM C Series จะทำให้ ริโก้ รั้งตำแหน่งผู้นำเอาไว้ได้ทั้งในตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน สีและขาวดำ
โดยในปี 2018 ริโก้ มีส่วนแบ่งการตลาดรวมอยู่ที่ 32% แบ่งเป็นส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องสี 35% และเครื่องขาวดำ 30% ในปี 2019 คาดหวังว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องรุ่นใหม่ IM C Series และ Dynamic Workplace Intelligence ได้จาก https://www2.ricoh.co.th/microsite หรือหากสนใจดูเครื่องจริงสามารถเข้ามาดูได้ที่ Ricoh Experience Center ที่ชั้น 6 True Digital Park