ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ว่า ธนาคารได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นซึ่งมีผลผูกพันเพื่อการขายหุ้นที่ธนาคารถืออยู่ทั้งหมด (99.2%)ในบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (SCB Life) ให้แก่กลุ่มเอฟดับบลิวดี (FWD Group Financial Services Pte. Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านประกันชีวิตในเอเชีย โดยการเข้าทำรายการครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือด้านประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 9.27 หมื่นล้านบาท และนับเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดของธนาคารและในธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้
ทั้งนี้ ภายหลังการซื้อขายหุ้นดังกล่าวแล้วเสร็จ ธนาคารและ SCB Life จะเข้าทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้กับกลุ่ม FWD โดยธนาคารจะเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของเอฟดับบลิวดี ให้แก่ลูกค้าของธนาคารผ่านช่องทางจัดจำหน่ายต่าง ๆ ของธนาคารเป็นเวลา 15 ปี นอกจากนี้ ธนาคารจะยังได้รับค่าตอบแทนสำหรับการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตลอดช่วงระยะเวลาความร่วมมือเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร
คุณอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรประกันชีวิตครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่กว่า 16 ล้านคน และมีช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากกว่าพันจุดในช่องทางออฟไลน์รวมทั้งในแพลตฟอร์มออนไลน์
ขณะที่บริษัทเอฟดับบลิวดีมีความสามารถที่โดดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่สร้างสรรค์และตรงใจลูกค้า โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และประสบการณ์บริการที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ในการนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และในเวลาท่ีเหมาะสม เพื่อลด Pain Point ที่ลูกค้าเคยได้รับจากการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเดิมๆ เพื่อให้มีทัศนคติที่ดีต่อธุรกิจมากขึ้น และเพิ่มอัตราการเข้าถึงธุรกิจประกันของคนไทยมากขึ้น จากปัจจุบันที่ลูกค้าคนไทยยังมีการซื้อผลิตภัณฑ์ในสัดส่วนที่น้อยอยู่
“หลังจากการลงนามในวันนี้ กระบวนการต่อไปคือ การนำเรื่องเข้าไปขอนุมัติต่อ Regulator ที่ควบคุมในธุรกิจ โดยคาดว่ากระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จได้ภายในปี 2562 โดยยืนยันว่า ดีลที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเพียงการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นในธุรกิจเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลต่อทีมผู้บริหาร พนักงาน รวมไปถึงลูกค้าของ SCB Life แต่อย่างใด โดยลูกค้าที่ถือครองกรมธรรม์ของ SCB Life จะยังคงได้รับผลประโยชน์ ความคุ้มครอง รวมถึงบริการอย่างต่อเนื่องดังที่กำหนดในกรมธรรม์ อีกทั้งกรมธรรม์ของ SCB Life จะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องโดยเอฟดับบลิวดี”
ด้าน ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงเป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ลูกค้าคือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเรา ดังนั้น เป้าหมายสำคัญของพันธมิตรธุรกิจในครั้งนี้คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่สร้างสรรค์ ตอบโจทย์และครอบคลุมความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ดร.อารักษ์ ยังได้เน้นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายในการพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่น โดยจะต่อยอดการลงทุนในดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ให้แก่ลูกค้าในอนาคต
ไม่ได้ออกจากธุรกิจ แค่เปลี่ยนบทบาท
คุณอาทิตย์ ยังยืนยันด้วยว่า การขายหุ้นให้กับกลุ่ม FWD ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่า SCB Life จะออกจากธุรกิจนี้ แค่เปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ส่งมอบและเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของธนาคาร โดยเฉพาะการหาพันธมิตรที่มี Vision และ Mindset ที่ตรงกัน ที่มองข้ามเรื่องของการทำธุรกิจหรือสร้างกำไร มาโฟกัสการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ส่วนการดำเนินการในธุรกิจจากนี้ เช่น การเลือกใช้แบรนด์ของผลิตภัณฑ์ หรือรายละเอียดความชัดเจนต่างๆ หลังความร่วมมือ จำเป็นต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้ง หลังจากได้รับการอนุมัติจากทาง Regulator ที่ดูแลก่อน
“ธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อธนาคารในระยะยาว โดยความร่วมมือกับเอฟดับบลิวดีจะเป็นการรวบรวมเอาจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมาสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงานและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เอฟดับบลิวดีถือเป็นบริษัทชั้นนำด้านประกันชีวิตในภูมิภาค ที่มีความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่ายและตรงกับความต้องการของลูกค้า มีความสามารถโดดเด่นด้านเทคโนโลยี รวมถึงมีทีมบริหารที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งสิ่งสำคัญในการเป็นพันธมิตรร่วมกันในครั้งนี้ ทั้งธนาคารและเอฟดับบลิวดีมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยจากปัจจุบันมีฐานลูกค้าในไทยมากกว่า 2.2ล้านคน โดยยึดมั่นถึงความต้องการของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก นับว่าเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจในครั้งนี้”
มร. ฮวิน ทัน ฟง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเอฟดับบลิวดี กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธนาคารชั้นนำในประเทศไทยที่มีประสบการณ์และความเข้าใจลูกค้าคนไทยอย่างลึกซึ้ง โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่ FWD ให้ความสำคัญสะท้อนผ่านมูลค่าดีลที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นเม็ดเงินลงทุนที่สูงที่สุดของภูมิภาค เพราะมั่นใจในศักยภาพและโอกาสของตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะความแข็งแรงของภาค Micro Economy
“ดีลนี้เรียกได้ว่าเกิดขึ้นในวงกาแฟ จากการที่มีโอกาสได้พูดคุยระหว่างการดื่มกาแฟ จนมีโอกาสได้พูดคุยถึงความมุ่งมั่นที่ตรงกัน ที่ต้องการเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อธุรกิจประกัน โดยเฉพาะการใช้จุดแข็งด้านดิจิทัลของทั้งสองฝ่าย ที่ไม่ได้มองแค่ปลายทางในการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ แต่จะใช้ดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลง ยกระดับการให้บริการ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะการทำความเข้าใจลูกค้าเพื่อให้สามารถพัฒนาสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในเวลาที่เหมาะสม มากกว่าเป็นการยัดเยียดหรือสร้างความรำคาญให้กับลูกค้า และจากความร่วมมือในครั้งนี้ กลุ่มเอฟดับบลิวดีและธนาคารไทยพาณิชย์จะนำศักยภาพชั้นนำด้านประกันชีวิตและด้านดิจิทัลมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของลูกค้า รวมทั้งช่วยยกระดับธุรกิจประกันชีวิตในภาพรวมให้พัฒนาได้มากขึ้น”
สำหรับเอฟดับบลิวดีกรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นในเอเชีย ในปี 2556 โดยเป็นบริษัทประกันภัยของกลุ่มลงทุนอันดับต้นของเอเชียอย่าง แปซิฟิก เซ็นจูรี่ กรุ๊ป (Pacific Century Group) ที่มี มร. รีชาร์ด ลี นักธุรกิจรายใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง ทายาทลี กา-ซิง เป็นผู้ก่อต้ัง ดำเนินธุรกิจครอบคลุมในประเทศฮ่องกง มาเก๊า ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ญี่ปุ่น และมาเลเซีย โดยให้ความสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้ลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่ายและโฟกัสเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยตั้งเป้าที่จะเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในเอเชียที่เปลี่ยนมุมมองที่ผู้คนมีต่อการประกันชีวิต
“เรามีประสบการณ์ด้านการเติบโตในธุรกิจประกันชีวิตในภูมิภาค รวมถึงการสร้างพันธมิตรเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคารที่มีประสิทธิผล ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตชั้นนำของเอฟดับบลิวดี โดยเรามุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของลูกค้า ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้มาก และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง”
เอกสารแจ้งตลาดรายงานการซื้อขายหุ้น SCB Life
